ผ่านไปหนึ่งปีกว่าๆ แล้วหลังจากสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะนักกีฬาไทยอายุ 12 ปี ผู้ได้สัมผัสเวทีโอลิมปิกเกมส์ วันนี้ เอสที-วารีรยา สุขเกษม นักกีฬาสเกตบอร์ดทีมชาติไทย กำลังก้าวสู่บทใหม่ของชีวิต
จากลานสเกตในโตเกียวสู่ความคาดหวังเหรียญทองซีเกมส์ เธอกำลังเดินบนเส้นทางที่ใหญ่ขึ้น หนักขึ้น และท้าทายขึ้นกว่าเดิม THE STANDARD SPORT จะพาไปเปิดใจเอสทีถึงหนึ่งปีแห่งการเติบโต ที่เปลี่ยนเธอจาก “น้องเล็กในโอลิมปิก” มาเป็น “นักกีฬาตัวความหวังของชาติ” อย่างเต็มตัว
โอลิมปิก วันแห่งความสุขและความฝัน
“โอลิมปิกมันเป็นความฝันของหนูมานานแล้ว และหนูได้ประสบการณ์เยอะมากๆ ” นักสเกตสาวไทยวัย 14 ปี เล่าด้วยน้ำเสียงสดใส เมื่อเล่าย้อนไปยังวันวานแห่งความสุข
“ตอนโอลิมปิกที่โตเกียว หนูได้เห็นคนอื่นเขาได้ไปแข่งก็อยากมีโมเมนต์แบบนั้นบ้าง ตั้งใจฝึกซ้อมไปตามขั้นบันได เปิดใจเรียนรู้ทั้งหมด ทั้งจากคนรอบข้างและคู่แข่ง แต่บางวันก็อาจจะมีเครียดบ้าง เมื่อเห็นคนอื่นเล่นท่ายากได้ หนูอาจจะยังไปไม่ถึง แต่ก็พยายามมั่นใจในตัวเอง โฟกัสกับสิ่งที่ตัวเองทำให้ดีที่สุด”
“พอได้ไปอยู่ในโอลิมปิกจริงๆ บรรยากาศมันเกินกว่าที่หนูคิดฝันเอาไว้เยอะมากค่ะ ทั้งความรู้สึกที่ตื่นเต้น ภูมิใจในอะไรหลายๆ อย่าง ที่ฝ่าฟันมาถึงจุดที่ได้มายืนในสนามของโอลิมปิก หนูกับครอบครัวทุ่มเทด้วยกันมานานมาก ยอมดร็อปเรียนเพื่อทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับการฝึกซ้อมเพื่อไปโอลิมปิก และความฝันของหนูตอนนี้ก็ยังอยากจะไปโอลิมปิกอีกสักครั้ง”
เหรียญสองด้านของความสำเร็จ
หลังโอลิมปิกจบลง ชีวิตของเอสทีเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เริ่มมีชื่อเสียงและได้รับความสนใจมากขึ้น โอกาสต่างๆ ที่ไม่เคยคาดคิดก็หลั่งไหลเข้ามาแบบไม่ขาดสาย
“หลังจากที่กลับมาหนูได้โอกาสเยอะขึ้น มีคนรู้จักเพิ่มมากขึ้น ได้รู้จักคนใหม่ๆ โดยเฉพาะคนในวงการสเกตบอร์ด ได้เห็นโลกภายนอกมากกว่าเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่หนูอยากลองสัมผัสมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ ถ้าได้รู้จักคนเยอะๆ จะเป็นยังไง เดินไปไหนมาไหนก็มีคนถามว่าใช่เอสทีหรือเปล่า ซึ่งหนูชอบมากเลยค่ะ”
เมื่อถามเธอว่าชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้น มีผลกระทบกับสมาธิในการฝึกซ้อมบ้างไหม เธอตอบอย่างหนักแน่นว่า “ไม่กระทบเลยค่ะ หนูดีใจและยินดีด้วยซ้ำที่มีคนสนใจ ในทางกลับกันยิ่งทำให้หนูอยากทำผลงานให้ดีขึ้น”
ในอีกด้านเธอยังเป็นเพียงเด็กวัย 14 ปี ที่ชีวิตกำลังเข้าสู่อีกช่วงของวัย เริ่มมีสังคมวัยเรียน เข้าถึงความรู้สึกต่างๆ ได้มากขึ้น ทั้งความคาดหวัง แรงกดดัน ความเครียด สิ่งเร้าภายนอกที่คอยกวนใจและดึงดูดสมาธิไปจากการฝึกซ้อม โชคดีที่เธอมีครอบครัวคอยซัปพอร์ตคอยช่วยย้ำเตือนถึงสิ่งสำคัญ ทำให้เธอไม่หลุดโฟกัสจากเป้าหมาย
“หนูเครียดนะ” เอสทีตอบตรงๆ เมื่อถูกถามถึงตั้งความหวังในซีเกมส์
“ตอนอายุ 12 ไปโอลิมปิก หนูยังไม่คิดอะไรเลยค่ะ ไปแบบไม่เครียดเลย อาจจะเพราะว่ายังเด็ก รู้แค่ว่ามันคือเวทีระดับโลก แต่พอโตขึ้น 1 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา หนูได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง รู้จักความกดดัน ความคาดหวังจากคนรอบข้างก็สูงขึ้น”
“ซีเกมส์คือระดับอาเซียนก็จริง แต่เป็นครั้งแรกของหนู เรื่องคู่แข่งไม่ได้กังวลเพราะเคยเจอกันมาหมดแล้ว”
“แต่ที่รู้สึกตื่นเต้น เพราะจะมีคนไทยมาดูมากกว่า คืองานนี้เป็นซีเกมส์แข่งในบ้าน หนูตั้งเป้าไว้แค่เหรียญทองเพียงอย่างเดียว ถึงจะได้เหรียญเงินหรือทองแดงคงไม่รู้สึกดีใจเท่า เพราะถ้าหนูจะไม่ได้เหรียญทองก็คือต้องทำผลงานแย่จริงๆ”
เมื่อถามต่อว่ากดดันไหมเพราะเป้าหมายมีเพียงแค่เหรียญทอง
“เพราะความกดดันนี่แหละค่ะ ทำให้หนูรู้สึกว่าซีเกมส์ยากกว่าโอลิมปิก”
“แต่สิ่งที่ทำได้คือการกลับไปฝึกซ้อมอย่างเดียว ถ้าเกิดผลลัพธ์ผิดไปจากนี้ก็เสียใจ จะเสียใจมาก ตอนไปคัดโอลิมปิกความหวังหนูแค่ 1% เอง เหรียญทองซีเกมส์มีโอกาส 50-50% ยังมากกว่าจะได้ไปโอลิมปิกเกมส์อีก”
ด้าน ตุลย์-ตุลย์รยา จันทะวงศ์ คุณแม่น้องเอสที เล่าให้ฟังว่า เมื่อไม่นานมานี้เอสทีเดินมาบอกว่าอยากเลิกเล่นสเกตบอร์ดแล้ว
“เมื่ออาทิตย์ที่แล้วน้องเดินมาบอกแม่ว่าอยากเลิกเล่นแล้ว ไม่ไหวแล้ว เหนื่อยจนร้องไห้หนักมาก ทั้งเรียนหนังสือและซ้อมกีฬา อยากทำทุกอย่างจนไม่รู้ว่าจะโฟกัสอะไรก่อน”
“ซ้อมกีฬาก็เจ็บ มีแผลเต็มตัวบอบช้ำไปทั่วร่างกายแล้ว เวลาจะฝึกท่าใหม่ เทคนิคที่ใช้ก็ยากกว่าเดิม มีโอกาสพลาด เสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บหนัก น้องกังวลเพราะเพิ่งจะหายเจ็บกลับมาด้วย”
“อีกอย่างพอเริ่มโตขึ้น เอสทีก็อยากมีเวลาไปอยู่กับเพื่อน อยากไปโรงเรียนเล่นกับเพื่อน ถ่ายติ๊กต็อก เห็นเพื่อนนัดไปทำกิจกรรมด้วยกันก็มีหวั่นไหว เพราะเขาอยากไปใช้ชีวิต แต่พอมองดูตัวเองแล้วต้องมาซ้อม น้องก็ร้องไห้”
“แม่ก็พยายามอธิบายเหตุผลให้น้องฟัง ว่าทำไมชีวิตเราถึงเป็นแบบนี้ เรื่องเพื่อนก็ไปได้ แต่บางอย่างเราต้องแยกแยะและเรียงลำดับความสำคัญให้เป็น แม่ก็อธิบายจนน้องเข้าใจ พอเข้าใจแล้วเอสทีเขาจะรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรก่อน วันรุ่งขึ้นเขาจะกลายเป็นอีกคนทันที” คุณแม่ตุลย์ทิ้งท้าย
คู่ปรับสำคัญ
เอสที-วารีรยา สุขเกษม จะลงแข่งขันในอีเวนต์ประเภทถนนหญิง วันที่ 14 ธันวาคม โดยมีคู่แข่งสำคัญในการแย่งเหรียญทองซีเกมส์ครั้งนี้ 2 คนด้วยกัน
เริ่มที่ Margielyn Didal สเก็ตสาววัย 26 ปี จากฟิลิปปินส์ แชมป์เก่าซีเกมส์ 2019 เป็นนักสเกตบอร์ดมากประสบการณ์ สร้างชื่อไว้ในระดับทวีปมาแล้ว ด้วยการคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย และ 2 เหรียญทองซีเกมส์ 2019 ที่บ้านเกิดของเธอ
แม้ว่าผลงานในช่วงหลังเธอจะดร็อปลงไป นอกจากจะไม่สามารถป้องกันแชมป์เอเชียนเกมส์ 2022 ที่ประเทศจีน (จบอันดับ 8 ส่วนเอสทีอันดับ 5) และยังไม่ผ่านควอลิฟายโอลิมปิก 2024 อีกด้วย
แต่หากนับผลงานในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา Margielyn Didal ยังอยู่อันดับ 32 ของโลก ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดของบรรดานักกีฬาที่ลงแข่งซีเกมส์ครั้งนี้ เธอจึงเป็นคู่แข่งสำคัญที่จะมองข้ามไม่ได้
ส่วนคู่แข่งอีกคนที่น่าจับตาคือ มินิ-จันทร์เก้า อุดมเพ็ญ ดาวรุ่งวัย 10 ขวบจากไทย สาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้แจ้งเกิดแบบเต็มตัวตอน 9 ขวบ คว้าแชมป์สเกตบอร์ด รายการ MASS Singapore ในรุ่น Open Women’s Street ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยในรอบชิงชนะเลิศ มินิ เอาชนะได้ทั้ง เอสที และ Margielyn Didal 2 ตัวเต็งเหรียญทองซีเกมส์ครั้งนี้
ล่าสุด มินิ-จันทร์เก้า เพิ่งจะโชว์ผลงานสุดร้อนแรง ด้วยการคว้าแชมป์ Skate Tour ASEAN 2025 ในรายการ “มาเลเซีย โอเพ่น” โดยเอาชนะ เอสที-วารียา สุขเกษม มาได้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากความสำเร็จดังกล่าวถือเป็นการประกาศศักดาอย่างชัดเจนว่า เธอพร้อมก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงเหรียญทองซีเกมส์อย่างเต็มตัว
สเกตบอร์ดแข่งที่ไหน ชิงกี่เหรียญทอง
สเกตบอร์ด ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จัดอยู่ในหมวดของกีฬาเอ็กซ์ตรีม ชิงทั้งหมด 4 เหรียญทอง จากประเภทถนน 2 เหรียญทองและประเภทพาร์ค 2 เหรียญทอง แข่งขันวันที่ 10-14 ธันวาคม ที่สนามกีฬาเอกซ์ตรีม ศูนย์กีฬาหัวหมาก จ.กรุงเทพฯ
สำหรับรายชื่อนักกีฬาสเกตบอร์ดทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ทั้งหมด 8 คน ประกอบด้วย นักกีฬาชาย 4 คน คิริน เพชรคีรี, ธวัชชัย เซี่ยงอึ่ง, กรวิชญ์ เกตุแก้ว, ไบรอัน แวน อุปพงษ์ และนักกีฬาหญิง 4 คน เอสที-วารีรยา สุขเกษม, จันทร์เก้า อุดมเพ็ญ, เฟรย่า ศริยา บราวน์ และ ไมร่า จันทร์ธารา บราวน์
ขณะที่ผลงานสเกตบอร์ดไทยในซีเกมส์ล่าสุดในปี 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ ทำได้ 1 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง ส่วนซีเกมส์ครั้งนี้พวกเขาตั้งเป้าหมายไว้ที่ 3 เหรียญทองจากประเภทสตรีท ชาย-หญิง และประเภทพาร์คชาย
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นเจ้าภาพไปด้วยกัน ด้วยการติด Hashtag #เชียร์ไทยในบ้านเรา #SEAGAMES2025 #ซีเกมส์
