ปัญหาการล่มครั้งใหญ่ในเครือข่ายของบริษัทความปลอดภัยไซเบอร์ Cloudflare Inc. ได้รับการแก้ไขแล้ว หลังส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์ต่างๆ ทั่วโลกตั้งแต่ X ไปจนถึง ChatGPT นานหลายชั่วโมงในวันอังคาร
เหตุขัดข้องดังกล่าวยังส่งผลต่อเว็บไซต์ของหน่วยงานกำกับดูแลพลังงานของสหรัฐฯ (FERC) และการขนส่งมวลชนรัฐนิวเจอร์ซีย์ อีกด้วย โดยหลายบริการกลับมาออนไลน์ได้ภายในเวลา 10.00 น. ตามเวลานิวยอร์ก
Jackie Dutton โฆษกของ Cloudflare ระบุว่าบริษัทตรวจพบ ‘การเพิ่มขึ้นผิดปกติของทราฟฟิก’ ที่ไหลเข้ามายังหนึ่งในบริการของบริษัทเมื่อเวลาประมาณ 6:20 น. ตามเวลานิวยอร์ก ทำให้ข้อมูลบางส่วนที่ผ่านเครือข่ายเกิดข้อผิดพลาด ปัญหานี้เกิดจากไฟล์กำหนดค่า ซึ่งระบบสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติเพื่อจัดการทราฟฟิกที่เป็นภัยคุกคาม และใช้เวลาน้อยกว่า 4 ชั่วโมงในการแก้ไข
Dutton กล่าวว่า “ไฟล์ดังกล่าวมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ และทำให้ซอฟต์แวร์ที่จัดการทราฟฟิกของบริการ Cloudflare หลายรายการล่มลง” บริษัทระบุเพิ่มเติมว่า ไม่มีหลักฐานของการโจมตีไซเบอร์หรือกิจกรรมที่เป็นอันตราย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การล่มของระบบอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเคยเกิดขึ้นหลายครั้ง จากความผิดพลาดของบริษัทที่ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานที่ทำให้เว็บไซต์ต่างๆ ทำงานได้ เช่น ระบบคลาวด์ของ Amazon, บริษัท CrowdStrike และ Microsoft ซึ่งตอกย้ำว่าทั่วโลกพึ่งพาบริษัทเพียงไม่กี่รายมากเพียงใดเพื่อให้ระบบออนไลน์ทำงานได้ตามปกติ
บริษัท Anthropic ระบุว่าแชตบอท AI ของตนอย่าง Claude ก็ได้รับผลกระทบเช่นกันในวันอังคาร เว็บไซต์ของ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานของสหรัฐฯ (FERC) ซึ่งดูแลตลาดไฟฟ้า สาธารณูปโภค ผู้ค้าพลังงาน และประเด็นพลังงานอื่น ๆ ก็ล่มลงเช่นกัน โดยเว็บไซต์นี้เป็นแหล่งสำคัญที่บริษัทจำนวนมาก ทนายความ และหน่วยงานกำกับดูแลใช้เข้าถึงเอกสารคดีต่างๆ
นอกจากนี้ ระบบขนส่งมวลชนของนครนิวยอร์กก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน จากข้อมูลของโฆษกการขนส่งมหานคร (MTA) โดยเว็บไซต์ทางการแจ้งผู้โดยสารให้ใช้แอป MTAapp หรือ TrainTime แทนเพื่อดูข้อมูลรถและวางแผนการเดินทาง เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับผู้ให้บริการบุคคลที่สามที่ส่งผลต่อเว็บไซต์จำนวนมาก MTA เป็นระบบขนส่งสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ให้บริการรถไฟใต้ดิน รถบัส และรถไฟชานเมืองในนิวยอร์ก
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงอีกครั้งในวันอังคาร โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลเรื่องมูลค่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขณะเดียวกันราคาบิตคอยน์ก็ร่วงลงต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์ชั่วคราว สะท้อนการลดความเสี่ยงของนักลงทุน
ดัชนี Dow Jones Industrial Average ปิดตลาดลดลง 498.50 จุด หรือ 1.07% อยู่ที่ 46,091.74 จุด ขณะที่ S&P 500 ลดลง 0.83% ปิดตลาดที่ 6,617.32 จุด ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ยาวนานที่สุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม ส่วนดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 1.21% ปิดตลาดที่ 22,432.85 จุด
ระหว่างวัน ดาวโจนส์เคยร่วงมากเกือบ 700 จุด หรือประมาณ 1.5% ขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq ร่วงลงถึง 1.5% และ 2.1% ตามลำดับ แรงกดดันหลักมาจากหุ้น Nvidia ดาวเด่นด้านชิป AI ที่ร่วงเกือบ 3% รวมถึงหุ้นในกลุ่ม ‘Magnificent Seven’ อย่าง Amazon และ Microsoft โดย Amazon ลดลงมากกว่า 4% ขณะที่ Microsoft ร่วงเกือบ 3%
ราคาหุ้น Nvidia ร่วงลงกว่า 10% ในเดือนนี้ ก่อนที่บริษัทจะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 หลังปิดตลาดในวันพุธ Nvidia ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทสำคัญในรอบการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วย AI ปีนี้ กลายเป็นประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของแรงซื้อหุ้นกลุ่ม AI เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกังวลเรื่องมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีที่แพงขึ้นมาก รวมถึงความยั่งยืนของพื้นฐานธุรกิจ AI ท่ามกลางการออกตราสารหนี้จำนวนมากของบริษัทเทคยักษ์ใหญ่
ภาพ: Mykola Tys/Global Images Ukraine via Getty Images
อ้างอิง:


