×

จบเรื่องเจรจาทางการค้า จบรอบพักฐานราคาทองคำ

06.11.2025
  • LOADING...
จบเรื่องเจรจาทางการค้า จบรอบพักฐานราคาทองคำ

ในเดือนตุลาคม 2025 ราคาทองคำได้ขึ้นทำ All Time High ที่ระดับ 4,381 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนับเป็นการปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้ากว่า 500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือกว่า +13% อย่างไรก็ดี หลังจากนั้นในวันที่ 21 ตุลาคม ราคาทองคำได้ย่อตัวลงกว่า 200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือกว่า -5% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในรายวันที่รุนแรงมากที่สุดในรอบ 5 ปี ท่ามกลางความผันผวนจากหลากหลายประเด็น ทั้งนโยบายการเงินของ Fed, สถานการณ์ Government Shutdown และความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่เริ่มคลี่คลาย

 

ณ ปัจจุบัน ราคาทองคำพยายามยืนเหนือโซน 3,900-4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเสร็จสิ้นการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนในวันที่ 30 ตุลาคม ซึ่งนำทัพโดย ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ และ ‘สี จิ้นผิง’ โดยการประชุมดังกล่าวนั้นไม่มีการลงนามข้อตกลงหรือแถลงการณ์ อย่างไรก็ดี มีการเปิดเผยข้อตกลงเบื้องต้นในภายหลังว่า สหรัฐฯ จะลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเหลือ 47% จากเดิม 57% และปรับลดภาษีเฟนทานิลเหลือ 10% จากเดิม 20% เพื่อแลกกับการที่จีนกลับมาซื้อถั่วเหลือง และผ่อนปรนข้อจำกัดส่งออก Rare Earths หนึ่งปี

 

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำนั้นไม่ได้ปรับตัวลงหลังสถานการณ์ทางการค้าที่คลี่คลาย เนื่องจากราคาได้ตอบสนองเชิงลบไปพอสมควรแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ ประกอบกับการที่ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ เผยว่าจะเดินทางเยือนจีนในเดือนเมษายน 2026 นั้นสะท้อนถึงการผ่อนคลายมาตรการลงเพียงบางส่วน และยังต้องใช้เวลาในการแก้ไขประเด็นขัดแย้งอื่นๆ ส่งผลให้ตลาดประเมินเป็นเพียงการต่อเวลาพักรบ อีกทั้ง ยังมีประเด็นที่เป็นข้อสงสัย เช่น ความตึงเครียดเกี่ยวกับสถานะของไต้หวัน ที่ไม่ได้ถูกนำขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งในการเจรจาแต่อย่างใด

 

โดยเฉพาะการโพสต์ข้อความลง Truth Social ของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ก่อนหน้าการประชุมเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ประกาศสั่งการให้กระทรวงกลาโหมกลับมาเริ่มโครงการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ โดยอ้างเป็นความจำเป็นเนื่องจากประเทศอื่นๆ ก็มีโครงการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เช่นกัน และกล่าวว่าสหรัฐฯ เป็นอันดับหนึ่ง รัสเซียอันดับสอง และจีนอันดับสาม ซึ่งจะทัดเทียมได้ภายใน 5 ปี

 

การปรับฐานของราคาทองคำจากสถานการณ์ดังกล่าวจึงอาจเพียงพอแล้ว และนักลงทุนจะกลับมาประเมินนโยบายการเงินของ Fed เป็นปัจจัยหลักอีกครั้ง โดยการประชุม Fed วันที่ 29 ตุลาคม มีการปรับลดดอกเบี้ย 25 bps สู่ระดับ 3.75-4.00% ตามตลาดคาดการณ์ แต่มีบางส่วนที่มีความแข็งกร้าว (Hawkish) กว่าที่ประเมินไว้ นั่นคือถ้อยแถลงของ ‘เจอโรม พาวเวล’ ที่กล่าวว่า การปรับลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ยังไม่ใช่ข้อสรุปที่แน่นอน ซึ่งส่งผลให้ FedWatch สะท้อนโอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ย ลดลงเหลือ 70% จากเดิม 90%

 

แม้ในระยะสั้นตลาดจะตอบสนองต่อถ้อยแถลงดังกล่าวอย่างรวดเร็ว โดยทองคำย่อตัวลง ดอลลาร์ และ Bond Yield สหรัฐดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ดี ในระยะกลางยังมีปัจจัยบวกที่ตลาดคาดหวังเอาไว้ นั่นคือการประกาศยุตินโยบายคุมเข้มเชิงปริมาณ หรือ Quantitative Tightening (QT) จะมีผลในวันที่ 1 ธันวาคม หลังจากเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ‘เจอโรม พาวเวล’ เคยได้ส่งสัญญาณยุติการทำ QT ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า ดังนั้น ความชัดเจนที่เกิดขึ้น จึงเป็นหนึ่งในการผ่อนคลายนโยบายการเงินซึ่งกลับมาหนุนราคาทองคำในระยะกลาง

 

ทั้งนี้ ทองคำในฐานะ Safe Haven Asset นั้นเหลืออีกหนึ่งปัจจัยที่อาจกระทบต่อราคาอย่างมีนัยสำคัญ นั่นคือสถานการณ์การปิดหน่วยงานรัฐฯ (Government Shutdown) โดยต้องจับตาว่าหากกลับมาเปิดทำการได้อีกครั้ง ทองคำจะเกิดแรงขายทำกำไรมากน้อยเพียงใด และที่สำคัญคือข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจทั้งหมดที่ถูกเลื่อนการประกาศในช่วงของการ Shutdown เมื่อกลับมารายงานได้อีกครั้ง ตลาดจะต้องทำการประเมินครั้งใหญ่ จากข้อมูลที่เก็บสะสมมานานหนึ่งเดือน ซึ่งจะเพิ่มความผันผวนในสินทรัพย์การลงทุนทั่วโลก

 

ภาพ: Quality Stock Arts / Shutterstock i viewfinder / Shutterstock

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising