เอไอเอสรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 โดยมีรายได้รวม 54,362 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 12,039 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนการเติบโตจากทุกกลุ่มธุรกิจหลัก ทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่, บรอดแบนด์ และบริการลูกค้าองค์กร
ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังคงเป็นแกนหลัก มีผู้ใช้บริการรวม 46.3 ล้านเลขหมาย โดยฐานผู้ใช้งาน 5G เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเป็น 15.8 ล้านเลขหมาย หรือเติบโต 36% จากปีก่อน ปัจจุบัน เอไอเอสระบุว่าได้ขยายโครงข่าย 5G ครอบคลุมพื้นที่ประชากรแล้วกว่า 95%
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดให้บริการคลื่นความถี่ 2100MHz ที่เพิ่งชนะการประมูล โดยนำเทคโนโลยี Super Block มาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของเครือข่ายและความเร็วให้สูงขึ้น รวมถึงใช้คอนเทนต์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษเป็นกลยุทธ์ในการรักษาฐานลูกค้า
ในส่วนของธุรกิจบรอดแบนด์ ภายใต้แบรนด์ AIS 3BB FIBRE3 มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 68,000 รายในไตรมาสนี้ ส่งผลให้มียอดผู้ใช้บริการรวม ณ สิ้นไตรมาสอยู่ที่ 5.2 ล้านราย โดยมีกลยุทธ์หลักคือการผสานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเข้ากับคอนเทนต์ระดับโลก เช่น ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก, NBA และ NFL
ขณะที่ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กรเติบโต 14% จากไตรมาส 3 ปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มการทำ Digital Transformation ขององค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเอไอเอสวางกลยุทธ์เป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยี ซึ่งมีความร่วมมือสำคัญ เช่น Oracle Cloud และโครงการ GSA Data Center
เอไอเอสยังระบุถึงการต่อยอดไปยังธุรกิจใหม่ ทั้งธุรกิจรีเทล, แพลตฟอร์มคอนเทนต์ และการเงินดิจิทัล ซึ่งจะเป็นกลไกในการสร้างการเติบโตในระยะยาวต่อไป


