×

ทางรอดธุรกิจครอบครัว ตอนที่ 1: บรรษัทภิบาลรากฐานเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน

04.11.2025
  • LOADING...
ทางรอดธุรกิจครอบครัว ตอนที่ 1: บรรษัทภิบาลรากฐานเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน

ธุรกิจครอบครัวคือหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจโลกทั้งในแง่รายได้และการจ้างงาน การถ่ายโอนธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในปัจจุบันที่เงื่อนไขการทำธุรกิจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้เขียนเห็นว่า ธุรกิจครอบครัวต้องเผชิญกับบริบทใหม่ที่กดดันให้ต้องเร่งปรับตัว ‘การเติบโต’ ไม่ใช่แค่เรื่องของ ‘กำไร’ เท่านั้น แต่ต้องมีความยืดหยุ่น มีเป้าหมาย และสร้างคุณค่าอีกด้วย

 

รายงาน Global Family Business Report 2025 โดยเคพีเอ็มจีอินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งสำรวจธุรกิจครอบครัวทั่วโลกกว่า 2,700 ราย เพื่อศึกษาปัจจัยแห่งความสำเร็จที่แท้จริง ได้ชี้ให้เห็นกุญแจหลักสามประการที่จะช่วยให้ธุรกิจครอบครัวเติบโตได้อย่างยั่งยืน ได้แก่ การกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพและโปร่งใส หรือบรรษัทภิบาล นโยบายความยั่งยืนที่ชัดเจน และการขยายหรือปรับปรุงธุรกิจผ่านการควบรวมกิจการ หรือการลงทุนเชิงกลยุทธ์

 

ผู้เขียนจะขอหยิบแต่ละประเด็นมาเล่าให้เห็นภาพชัดขึ้น ผ่านบทความสามตอนต่อเนื่อง โดยตอนแรกนี้จะเจาะลึกถึงบทบาทของ ‘บรรษัทภิบาล’ ในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจครอบครัว

 

บรรษัทภิบาล เริ่มที่ ‘บอร์ดที่ทำงานจริง’

 

ธุรกิจครอบครัวหลายแห่ง ยังเข้าใจว่าบรรษัทภิบาลเป็นเรื่องของกฎระเบียบ หรือระบบควบคุมที่ซับซ้อนเท่านั้น แต่ในความจริง บรรษัทภิบาลคือ ระบบคิดและตัดสินใจที่โปร่งใส มีหลักการ และสอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวของทั้งครอบครัวและธุรกิจ และหัวใจสำคัญของระบบนี้ก็คือ ‘บอร์ด’

 

ผู้เขียนขอหยิบยกผลการสำรวจของเคพีเอ็มจีที่ชี้ให้เห็นว่า การมีระบบบริหารและโครงสร้างที่มั่นคงเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กร โดย 67% ของธุรกิจครอบครัวที่มีผลการดำเนินงานสูง มีโครงสร้างบอร์ดอย่างเป็นทางการ และในกลุ่มที่มีความยั่งยืนสูง ก็พบว่า 70% มีบอร์ดที่ทำหน้าที่อย่างจริงจัง
ผู้เขียนมีความเห็นว่า ยิ่งธุรกิจครอบครัวมีขนาดใหญ่ขึ้นความสำคัญของบอร์ดก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เพราะบอร์ดไม่ได้เป็นแค่กลไกการกำกับดูแลให้การบริหารจัดการองค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างวิสัยทัศน์ร่วม ผลักดันนวัตกรรม และเชื่อมโยงประสบการณ์ของสมาชิกครอบครัวต่างรุ่นเข้าด้วยกัน รวมถึงช่วยขับเคลื่อนนโยบายด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่ธุรกิจขนาดใหญ่ในยุคปัจจุบันไม่อาจมองข้ามได้

 

บอร์ดแบบไหนจึงจะ ‘เวิร์ก’ สำหรับธุรกิจครอบครัว

 

การมีบอร์ดเพียงอย่างเดียวไม่ได้รับประกันความสำเร็จของธุรกิจ บอร์ดนั้นต้องมีองค์ประกอบที่เหมาะสมจึงจะขับเคลื่อนธุรกิจครอบครัวไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างแท้จริง ผู้เขียนขอนำเสนอว่าบอร์ดที่มีประสิทธิภาพควรมีลักษณะดังนี้

 

  • มีเป้าหมายและค่านิยมที่สอดคล้องกับธุรกิจ มีมุมมองและหลักการที่สอดรับกับครอบครัว เพื่อให้สามารถนำธุรกิจให้เติบโตไปในทิศทางเดียวกัน
  • มีสมาชิกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเพศ หรือเจเนอเรชัน นอกจากนี้ สมาชิกของบอร์ดควรประกอบด้วยทั้งคนในและนอกครอบครัวที่มีความเป็นอิสระก็จะเป็นประโยชน์กับธุรกิจครอบครัวนั้น ๆ เพื่อให้ได้มุมมองและความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย สดใหม่ ไม่ยึดติดกับความเคยชิน
  • เปิดกว้างทางความคิด บอร์ดที่ดีควรเป็นเวทีของมุมมองต่างรุ่น เน้นการมีส่วนร่วม กล้าเปิดรับนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นมากขึ้น พร้อมทั้งเป็นการปลูกฝัง Entrepreneurial mindset หรือ ‘ความเป็นผู้ประกอบการ’ ให้แก่สมาชิกรุ่นใหม่ของครอบครัว ซึ่งถือเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ
  • กำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสมาชิกบอร์ดแต่ละคนอย่างชัดเจน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใส ทำให้ดำเนินงานและเติบโตได้อย่างมั่นคงและมีทิศทาง
  • สื่อสารอย่างสม่ำเสมอ การประชุมบอร์ดเป็นประจำ ช่วยให้สมาชิกบอร์ดทุกคนติดตามสถานการณ์ได้ทันเหตุการณ์ และเพิ่มการมีส่วนร่วมของสมาชิกครอบครัว โดยเฉพาะสมาชิกรุ่นใหม่ที่จะต้องสืบทอดธุรกิจต่อไป
  • รับผิดชอบต่อผลประกอบการได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านผลประกอบการและกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน โดยต้องกำหนดเป้าหมายที่วัดผลได้ และมีกระบวนการประเมินผลอย่างเป็นระบบ
  • วางแผนการสืบทอดอย่างมีระบบ การระบุและพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ในบอร์ดบนพื้นฐานของความสามารถและความคาดหวังของครอบครัว มีเกณฑ์การสืบทอดที่ชัดเจน และแผนงานที่เป็นขั้นตอน จะช่วยให้การส่งต่อธุรกิจสู่ทายาทเป็นไปอย่างราบรื่นและรักษาความต่อเนื่องของธุรกิจได้

 

จะเห็นได้ว่า บรรษัทภิบาล นอกจากจะเป็นเครื่องมือในการจัดการธุรกิจให้เติบโตอย่างโปร่งใสและเป็นระบบแล้ว ยังช่วยสร้างสมดุลระหว่าง ‘คุณค่า’ และ ‘ความเปลี่ยนแปลง’ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในวันที่ครอบครัวเตรียมส่งต่อกิจการ การตั้งบอร์ดที่ทำงานอย่างจริงจัง มีระบบบริหารและโครงสร้างที่มั่นคงอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คือก้าวแรกที่สำคัญของการเปลี่ยนผ่านจาก ‘ธุรกิจครอบครัว’ ไปสู่ ‘ครอบครัวที่เป็นเจ้าของธุรกิจอย่างมืออาชีพ’

 

กุญแจที่สองที่จะช่วยให้ธุรกิจครอบครัวเติบโตได้อย่างยั่งยืน คือนโยบายด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจครอบครัวควรมีแนวทางรับมืออย่างไร ติดตามอ่านได้ในตอนถัดไปค่ะ

 

ภาพ: Miha Creative / Shutterstock

อ้างอิง:

  • รายงาน Global family business report 2025 ของเคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนล
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising