×

รายงาน ILO ล่าสุดเผย ไทยเสี่ยงขาดแคลนแรงงานดูแลผู้สูงอายุ 2.5 แสนคน ภายในปี 2580

โดย THE STANDARD TEAM
31.10.2025
  • LOADING...
รายงาน ILO ล่าสุดเผย ไทยเสี่ยงขาดแคลนแรงงานดูแลผู้สูงอายุ 2.5 แสนคน ภายในปี 2580

รายงานฉบับใหม่ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ซึ่งเผยแพร่เนื่องในวันการดูแลและสนับสนุนสากล (International day for Care and Support) คาดการณ์ว่า ความต้องการแรงงานเพื่อดูแลผู้สูงอายุที่บ้านในประเทศไทยจะเพิ่มสูงขึ้นตามอัตราการสูงวัยของประชากร การศึกษานี้เสนอให้มีการลงทุนมากขึ้นในระบบการดูแลในระดับชุมชน และการสร้างงานที่มีคุณค่าให้กับแรงงานในภาค ‘เศรษฐกิจใส่ใจ’ (Care Economy) ทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติ

 

ประเทศไทยมีแนวโน้มความต้องการการดูแลผู้สูงอายุภายในบ้านเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก รายงานฉบับใหม่นี้คาดการณ์ว่า ภายในปีพ.ศ. 2580 ประเทศไทยจะมีความต้องการที่จะจ้างแรงงาน เพื่อดูแลผู้สูงอายุที่บ้านมากขึ้นกว่า 250,000 คน โดยในจำนวนนี้จะเป็นแรงงานข้ามชาติประมาณ 55,000 คน

 

รายงาน ‘Care at home: การคาดการณ์ความต้องการแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติเพื่อการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน’ พบว่า เมื่อโครงสร้างครอบครัวเปลี่ยนไปและการดูแลผู้สูงอายุโดยสมาชิกในครอบครัวแบบที่ไม่ต้องเสียค่าจ้างจะลดลง ความต้องการในการจ้างแรงงานแบบมีค่าตอบแทน เพื่อการดูแลผู้สูงอายุอยู่ที่บ้านจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 70 ใน 12 ปีข้างหน้า

 

ประเทศไทยมีนโยบายเรื่อง ‘การสูงวัยในถิ่นที่อยู่’ (Aging in Place) ซึ่งเป็นนโยบายที่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะยังคงอาศัยอยู่ในบ้านของตนแทนที่จะไปอยู่ในบ้านพักคนชราหรือสถาบันเอกชนที่ดูแลผู้สูงอายุ ที่หลายครอบครัวอาจไม่สามารถจ่ายค่าดูแลส่วนนี้ได้ การศึกษาฉบับนี้ชี้ว่า หากไม่มีการลงทุนจากภาครัฐ ช่องว่างภาระด้านการดูแลจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย

 

ปัจจุบันในประเทศไทย พยาบาล อาสาสมัครชุมชน และแรงงานทำงานบ้านซึ่งหลายคนเป็นแรงงานข้ามชาติ ทำงานดูแลที่ได้รับค่าตอบแทน รายงานยังระบุอีกว่า แรงงานข้ามชาติมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นในกลุ่มแรงงานทำงานบ้านและงานดูแล และบทบาทของแรงงานกลุ่มนี้จะขยายกว้างขึ้นเนื่องจากกำลังแรงงานของไทยสูงวัยมากขึ้นและแรงงานที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวเข้าสู่ตลาดแรงงานด้านการดูแลน้อยลง

 

เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ILO เสนอให้มีการลงทุนจากภาครัฐที่มากขึ้นใน ‘เศรษฐกิจใส่ใจ’ ซึ่งรับประกันการเข้าถึงบริการ การดูแลที่บ้านและชุมชนที่เข้าถึงได้ และส่งเสริมสภาพการทำงานที่เหมาะสมของแรงงานในภาคนี้ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 15 (พ.ศ. 2567) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 คุ้มครองลูกจ้างทำงานบ้าน

 

รายงานฉบับนี้ยังส่งเสริมช่องทางการย้ายถิ่นที่ถูกต้องและเป็นธรรม การรับรองและยกระดับทักษะฝีมือแรงงานด้านการดูแล สำหรับแรงงานไทยและข้ามชาติที่ต้องการทำงานในภาคธุรกิจนี้ รวมถึงการเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านสุขภาพ การขยายระบบดูแลชุมชน และการลงทุนในเทคโนโลยี เช่น การแพทย์ทางไกลและอุปกรณ์ช่วยเหลือ ซึ่งอาจช่วยลดช่องว่างด้านการดูแลที่คาดการณ์ไว้ของประเทศไทยได้อย่างมาก โดยอาจลดความต้องการแรงงานในภาคธุรกิจนี้ลงเหลือไม่น้อยกว่า 100,000 คน

 

เสี่ยวเยี่ยนเฉียน ผู้อำนวยการสำนักงานแรงงานระหว่างประเทศประจำประเทศไทย กัมพูชา และ สปป.ลาว กล่าวว่า “การศึกษาฉบับนี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แนวทางการดูแลผู้สูงอายุอยู่ที่บ้านของไทยจะประสบความสำเร็จได้ ก็ต่อเมื่องานด้านการดูแลได้รับการยอมรับ คุ้มครอง และให้คุณค่าในฐานะงานที่มีทักษะ การลงทุนในงานที่มีคุณค่าสำหรับผู้ทำงานดูแลทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติ จะช่วยให้ประเทศไทยสร้างระบบการดูแลที่ยั่งยืน เป็นธรรม และเป็นประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชน และเศรษฐกิจของประเทศ”

 

รายงานของ ILO จัดทำขึ้นโดยโครงการ TRIANGLE in ASEAN ของ ILO ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศและการค้าออสเตรเลีย และกระทรวงการต่างประเทศแคนาดา โดยให้ข้อมูลเพื่อสนับสนุนนโยบายของไทยเกี่ยวกับผู้สูงอายุ การย้ายถิ่นของแรงงาน และเศรษฐกิจใส่ใจ สอดคล้องกับมติของการประชุมใหญ่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ปี พ.ศ. 2567 ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าและเศรษฐกิจใส่ใจ

 

แฟ้มภาพ: Imtmphoto / Shutterstock

 

อ้างอิง:

  • องค์การแรงงานระหว่างประเทศ
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising