×

กสิกรฯ เตือนปี 69 ร้านเครื่องดื่มเตรียมรับศึกหนัก ต้นทุนพุ่ง – ลูกค้ากำลังซื้อน้อยลงกว่าเดิม!

19.10.2025
  • LOADING...
กสิกรฯ เตือนปี 69 ร้านเครื่องดื่มเตรียมรับศึกหนัก ต้นทุนพุ่ง - ลูกค้ากำลังซื้อน้อยลงกว่าเดิม

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ภาพรวมธุรกิจร้านเครื่องดื่มในปี 2568 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่ามูลค่ารวมจะอยู่ที่ 56,900 ล้านบาท เติบโต 5% ถ้าเทียบกับปี 2567 ซึ่งการเติบโตส่วนใหญ่มาจากการขยายสาขาและการลงทุนของผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติ ท่ามกลางการเปิดพื้นที่ Retail Space ใหม่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ

 

ขณะเดียวกัน จำนวนร้านเครื่องดื่มในปี 2568 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.8% จากปีก่อนหน้า หรืออยู่ที่ 131,000 ร้าน โดยส่วนใหญ่กว่า 80% เป็นร้านกาแฟ ทั้งในรูปแบบร้านนั่งดื่มและร้านซื้อกลับ สะท้อนให้ว่าเทรนด์การบริโภคกาแฟยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ร้านชานมและชาผลไม้ ก็เติบโตไม่แพ้กัน โดยเฉพาะร้านเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เช่น น้ำผลไม้สกัดเย็นและสมูทตี้ ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มรักสุขภาพได้เป็นอย่างดี

 

จากโอกาสการเติบโต ทำให้นักลงทุนหน้าใหม่ทั้งไทยและต่างชาติ ยังคงให้ความสนใจกับตลาดนี้ โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่มสุขภาพระดับพรีเมียม และเครื่องดื่มเจาะตลาดเฉพาะ (Niche Market) สอดรับกับข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 มูลค่าทุนจดทะเบียนใหม่จากนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นถึง 13.9% จากสิ้นปี 2567 โดยส่วนใหญ่มาจาก จีน เกาหลีใต้ และอังกฤษ

 

นอกจากนี้ การเติบโตของมูลค่าตลาดในปีนี้ ยังมาจากการปรับราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นราว 9% ตามต้นทุนธุรกิจที่สูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนวัตถุดิบหลักอย่าง เมล็ดกาแฟ โกโก้ และชาเขียว ที่ยังมีความผันผวน รวมถึงค่าเช่าและค่าแรงที่เพิ่มขึ้น

 

และในช่วงหลังจะเห็นว่า ร้านเครื่องดื่มกลุ่มพรีเมียม เข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยมีราคาขายเฉลี่ยต่อแก้วเกิน 100 บาท เป็นร้านที่ตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มองร้านเครื่องดื่มเป็นพื้นที่ประสบการณ์ ทั้งการสังสรรค์ เช็กอิน และสร้างคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย แต่การเติบโตไม่ได้กระจายทั่วถึงในทุกเซกเมนต์ เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

สำหรับแนวโน้มในปี 2569 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า มูลค่าตลาดร้านเครื่องดื่มจะขยายตัวเพียง 2% จากปี 2568 สะท้อนแรงกดดันจากปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจที่ยังชะลอ กำลังซื้อจำกัด และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น

 

โดยมี 4 ปัจจัยหลักที่จะกำหนดทิศทางตลาดในปี 2569 ได้แก่

 

1.เศรษฐกิจและกำลังซื้อที่เปราะบาง ผู้บริโภคใช้จ่ายระมัดระวังมากขึ้น ทำให้ความถี่ในการซื้อเครื่องดื่มลดลง

 

2.การแข่งขันสูงทุกเซกเมนต์ ทั้งร้านพรีเมียมที่มีผู้เล่นจำนวนมากในตลาดจำกัด และร้านระดับแมสที่ต้องเผชิญกับคู่แข่งจากเครื่องดื่มพร้อมดื่มและตู้กดอัตโนมัติ

 

3.ต้นทุนธุรกิจที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่าเช่า ค่าวัตถุดิบ และค่าแรง แม้ร้านส่วนใหญ่ยังมีกำไรขั้นต้นมากกว่าครึ่งของราคาขาย แต่ต้นทุนที่ผันผวนและการแข่งขันสูงทำให้อัตรากำไรสุทธิโดยเฉลี่ยอาจลดลงต่ำกว่า 15%

 

4.พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนเร็วและภักดีต่อแบรนด์ต่ำ ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งสร้างนวัตกรรมเมนูและประสบการณ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาฐานลูกค้าในระยะยาว

 

ภาพ: Marius Karp / shutterstock

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising