วันนี้ (16 ตุลาคม) ที่ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ วิเชียร ศรีสุด ประธานชมรมสภาเที่ยงธรรม พร้อมสมาชิก และ พ.ต.อ.สมพล เรืองเกตุพันธุ์ ทนายความประจำชมรม รวมถึง สมาชิกวุฒิสภา(สว.)สำรอง และอดีตผู้สมัคร สว.ที่เข้ารอบสุดท้ายรวม 2 คน ได้ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และเลขาธิการ กกต. รวม 8 ราย
การยื่นฟ้องครั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ กกต. และเลขาธิการฯ ถูกกล่าวหาว่า ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบด้วย พรป.ปปช. มาตรา 172 สืบเนื่องจาก กกต. ได้จัดทำสำนวนการยื่นถอดถอนสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 138 คน ล่าช้าเกินกว่า 1 ปี โดยที่ไม่ได้ควบคุม กำกับ ดูแล ตรวจสอบ และเร่งรัดการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน
โจทก์ระบุว่า ความล่าช้าดังกล่าวส่งผลให้ กกต. ยังไม่ส่งสำนวนการถอดถอน สว. ไปยังศาลฎีกา (แผนกเลือกตั้ง) ทำให้ สว.สำรองไม่สามารถเลื่อนขึ้นมาแทนที่ สว. ที่ถูกยื่นถอดถอนได้ และหากจำนวน สว. ที่เหลือไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ก็จะทำให้ไม่มีการเลือกตั้งซ่อมเพื่อขึ้นมาแทนตำแหน่ง สว.ที่เหลืออยู่ได้ ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ สว.สำรองและอดีตผู้สมัคร สว.
พ.ต.อ.สมพล เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายให้ดำเนินการฟ้องร้อง กกต. ทั้ง 8 คน หลังพบพฤติกรรมที่เชื่อว่าเป็นการ ยื้อกระบวนการสอบสวนคดีฮั้ว สว. โดยชี้ว่าคดีนี้ควรต้องเร่งรัดดำเนินการสืบสวนสอบสวนมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 และตามหลักการควรใช้เวลาประมาณ 1 ปี แต่กลับพบว่าล่วงเลยมานานแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า
ทนายความมองว่า การที่ กกต. มีการตั้งหลักเกณฑ์ใหม่โดยส่งสำนวนไปยังคณะต่างๆ ของ กกต. ที่ตั้งขึ้นมาเอง แทนที่จะเร่งส่งสำนวนต่อให้ศาลฎีกาตามกรอบเวลา 60 วันที่ได้รับจากดีเอสไอ เป็นการยื้อเวลา ซึ่งอาจทำให้การส่งสำนวนถึงศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งต้องใช้เวลารวมกว่า 8 เดือน
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้รับคำฟ้องไว้เป็น คดีหมายเลขดำที่ อท.182/2568 โดยได้กำหนดนัดฟังคำสั่งในชั้นตรวจคำฟ้อง ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.30 น.