วันนี้ (16 ตุลาคม) รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ให้แสดง ‘ความเป็นธรรม’ ต่อการดำเนินคดีและคว่ำบาตร Prince Group และ เฉิน จื้อ (Chen Zhi) เจ้าของบริษัท หรือนักธุรกิจเชื้อสายจีน-กัมพูชาวัย 38 ปี ชี้ต้องมีหลักฐานมากพอ และทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรประกาศคว่ำบาตร เฉิน จื้อ เจ้าของบริษัท Prince Group ในข้อหาอาชญากรรมข้ามชาติ และเครือข่ายสแกมเมอร์รายใหญ่ในกัมพูชา ซึ่งหลอกลวงประชาชนให้ลงทุนทางออนไลน์ ฟอกเงิน และบังคับใช้แรงงานในศูนย์สแกมเมอร์ราว 10 แห่ง
มาตรการดังกล่าวส่งผลให้สหรัฐฯ ฟ้องยึดทรัพย์เจ้าของบริษัท Prince Group ด้วยสกุลเงินดิจิทัลบิตคอยน์ราว 127,271 บิตคอยน์ (ประมาณ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงิน 4.8 แสนล้านบาท) ทำให้ปรากฏการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการริบทรัพย์ทางดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตามล่าสุด ทางการกัมพูชาออกมาเรียกร้องให้สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ดำเนินคดีกับ เฉิน จื้อ อย่างเป็นธรรม โดย ทัช สุขะ (Touch Sokhak) โฆษกกระทรวงมหาดไทยระบุว่า Prince Group ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายของกัมพูชาทั้งหมด และไม่ได้มีการให้อภิสิทธิ์เหนือกว่าบริษัทอื่นอย่างใด
“เราไม่ได้ปกป้องบุคคลที่ละเมิดกฎหมาย”
“ผมไม่มีอะไรจะแสดงความเห็นมากนักกับความพยายามดำเนินคดีของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรในการจับกุมตัว เฉิน จื้อ แต่อย่างแรก เราหวังว่า ทั้งสองประเทศจะมีข้อโต้แย้งและหลักฐานที่เพียงพอในการเอาผิดเขา” โฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชากล่าว พร้อมระบุว่า ทางการยินดีให้ความร่วมมือในการสอบสวน
อนึ่ง Fresh News สื่อกัมพูชาได้เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า ทางการได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยอาชญากรรมทางไซเบอร์มากกว่า 75 ราย รวมทั้งสิ้น 20 สัญชาติใน 4 เดือนสุดท้ายของปี 2025
อ้างอิง: