การหยุดนิ่งมักถูกมองว่าเป็นความขี้เกียจ ทั้งที่จริงแล้วช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบที่โคตรจะเรียบง่าย แค่หยุดสิ่งที่ทำอยู่แล้วพักบ้าง กลับเป็นพื้นที่สำคัญที่ช่วยให้ใจของเราได้ฟื้นตัวอย่างแท้จริง
คำว่า Farniente (ฟาร์-นี-เอน-เตะ) มีต้นกำเนิดจากภาษาอิตาลี และมักปรากฏในวลีที่สมบูรณ์อย่าง Dolce far niente (ดอลเช ฟาร์ เนียนเต) ซึ่งแปลว่า ‘ความสุขของการไม่ทำอะไรเลย’ หรือ ‘การอยู่เฉยๆ อย่างเพลิดเพลิน’ เป็นคำที่สะท้อนแนวคิดแห่งการพักผ่อนแบบลึกซึ้ง ไม่ใช่เพราะหมดแรงหรอกนะ แต่เพราะเราอนุญาตให้ตัวเองได้หยุดพักเฉยๆ ง่ายๆ แบบนั้นเลย
ต่อมาคำว่า Farniente ถูกยืมไปใช้ในภาษาฝรั่งเศส (และภาษาอื่นๆ) โดยยังคงความหมายของ ‘การอยู่ว่าง’ หรือ ‘ความเกียจคร้านที่มีความสุข’ เอาไว้ เป็นคำที่ไม่เพียงบอกถึงการไม่ทำอะไร แต่ยังพูดถึงความนิ่งสงบภายในที่เกิดขึ้นเมื่อเราเลิกเร่งเร้าใจตัวเองด้วย
ในทางจิตวิทยา การให้เวลาตัวเองอยู่ในสภาวะ Farniente ช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียดอย่างคอร์ติซอล และกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (Rest and Digest Mode) ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายและจิตใจซ่อมแซมตัวเองได้ดีที่สุด เมื่อเรายอม ‘ไม่ทำ’ บ้าง สมองจะได้มีพื้นที่ว่าง ความคิดสร้างสรรค์จึงค่อยๆ ผลิบานขึ้นอย่างธรรมชาติ
คุณอาจเริ่มต้นง่ายๆ จากการนั่งเงียบๆ ในสวน ปิดโทรศัพท์ชั่วครู่ เปิดเพลงเบาๆ แล้วปล่อยให้ใจได้ลอยไปโดยไม่มีจุดหมาย หรือแค่นอนเอกเขนกอ่านหนังสือที่ชอบโดยไม่เร่งเวลา สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าเราทำอะไร แต่คือ ‘การไม่ต้องทำเพื่อให้รู้สึกมีค่า’
บางทีการเติบโตไม่ใช่การเร่ง แต่คือการรู้ว่าเมื่อไรควรหยุด…เพื่อฟังเสียงเบาๆ ของตัวเอง
ภาพ: Shutterstock