วันนี้ (3 ตุลาคม) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ากรณีเหตุถนนสามเสนทรุดตัว บริเวณหน้าทางเข้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เขตดุสิต โดยเปิดเผยถึงสถานการณ์ล่าสุดว่า เช้าวันนี้มีฝนตกลงมาเล็กน้อยราว 23 มม. ทำให้มีน้ำขังในหลุมยุบ ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งถมทรายและติดตั้งตัวค้ำยันอาคาร สน.สามเสน เพื่อรับมือกรณีดินอาจทรุดตัวเพิ่มจากปริมาณฝน
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยืนยันว่าภาพรวมการทำงานมีความก้าวหน้าไปตามแผนที่กำหนดไว้ และทีมงานกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ยังคงเตรียมความพร้อมในการสูบน้ำตามมาตรการรับสถานการณ์ฝนตก และตามการสั่งการจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
ด้าน ดร.อำพัน วิมลวัฒนา รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงผลกระทบต่อการให้บริการของโรงพยาบาลว่า ในช่วงวันที่ 1 และ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ป่วยกลับมาใช้บริการค่อนข้างมาก เนื่องจากครบกำหนด 1 สัปดาห์นับจากวันเกิดเหตุถนนทรุดตัวเมื่อวันพุธที่แล้ว โดยเมื่อวานนี้ (2 ตุลาคม) มีผู้ป่วยทั้งที่นัดหมายและไม่ได้นัด รวมแล้วกว่า 5,000 คน
ในส่วนของการอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางแก่ผู้ป่วยและผู้มาใช้บริการ วชิรพยาบาลได้จัดจุดบริการรับ-ส่งผู้ป่วยไปยังจุดต่าง ๆ ได้แก่ ศรีย่าน, สิรินธร, และหน้าโรงเรียนเซนต์คาเบรียล รวมถึงมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) คอยเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ให้กับผู้ที่มาโรงพยาบาล
สำหรับความคืบหน้าของการซ่อมแซมในพื้นที่ ผู้ว่าฯ ชัชชาติระบุว่า ปริมาณทรายที่ถมไปทั้งหมด ณ ขณะนี้รวมแล้วราว 3,500 คิว โดยมีการถมทรายเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1,300 คิว เมื่อวานนี้ (2 ตุลาคม) พร้อมทั้งดำเนินการย่อยแผ่นคอนกรีตในบริเวณหลุมเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการเสริมความมั่นคงแข็งแรงให้กับอาคาร สน.สามเสน ด้วยการทำตัวค้ำยันชั่วคราว (เสาเข็มสั้น) โดยทรายส่วนหนึ่งได้ถูกดันเข้าไปใต้ตัวอาคารเพื่อรองรับโครงสร้าง
ทั้งนี้ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยังคงเฝ้าระวังและใช้กล้องตรวจสอบความเคลื่อนไหวของอาคาร สน.สามเสนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังไม่พบการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและอาคารยังอยู่ในสภาพปกติ
ชัชชาติ คาดการณ์ว่าการถมทรายในพื้นที่ทั้งหมดจะแล้วเสร็จประมาณวันที่ 4 – 5 ตุลาคม จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการบดอัดทรายและการทำชั้นพื้นถนน เพื่อเตรียมเปิดให้ถนนสามเสนบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลกลับมาเปิดใช้งานจริงได้อีกครั้ง ในวันที่ 9 ตุลาคม