วันนี้ (23 สิงหาคม) ที่ บริเวณอาคารรัฐสภา ไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ชี้แจงและขอโทษต่อกรณีที่ชิงปิดการประชุมสภาก่อนพิจารณาญัตติเรื่องบันทึกข้อตกลง MOU 2543-2544 โดยระบุว่าเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนระหว่างวิปรัฐบาลและฝ่ายค้าน ยืนยันว่าตนไม่ได้มีเจตนาหรือมีเบื้องหลังทางการเมืองใดๆ
ไชยาเผยว่า ตนได้รับแจ้งจากวิปรัฐบาลว่าการประชุมจะสิ้นสุดหลังจากการรายงานของกองทุนสื่อสร้างสรรค์ ทำให้เข้าใจว่าไม่มีวาระอื่นต่อจากนั้น และเพิ่งทราบเรื่องการเสนอญัตติด้วยวาจาของฝ่ายค้านหลังปิดประชุมไปแล้ว ซึ่งทำให้รู้สึกเสียใจที่ถูกมองว่าตั้งใจปิดการประชุม
ไชยากล่าวว่า การนั่งบัลลังก์เป็นเวลานานกว่า 10 ชั่วโมงนั้นเป็นเรื่องที่เหนื่อยล้า แม้จะมีการสับเปลี่ยนกันทำหน้าที่ โดยในวันดังกล่าวตนเองขึ้นทำหน้าที่ถึง 3 รอบ และไม่ได้ทานอาหารกลางวันเลย ซึ่งยืนยันว่าการปิดประชุมไม่ได้มีเจตนาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
นอกจากนี้ ไชยาได้เรียกร้องให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.) ทั้งสองฝ่ายใช้กลไกของสภาฯ ในการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน โดยลดความขัดแย้งทางการเมืองลง และให้วิปรัฐบาลดูแลเรื่ององค์ประชุมให้มีความเข้มงวดมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีกในอนาคต
พร้อมกันนี้ ไชยาได้ยืนยันว่า “ไม่ได้เป็นเครื่องมือของใคร แม้จะมาจากพรรคเพื่อไทย” เพราะตระหนักดีว่าหากทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง เครดิตทางการเมืองก็จะเสียหาย และคนที่คอยตรวจสอบตนเองไม่ใช่แค่ฝ่ายค้าน แต่คือประชาชนทุกคน
