วันนี้ (16 สิงหาคม) พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยแนวคิดภายหลังการหารือของคณะที่ปรึกษาฯ เรื่องอนาคตความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดตามแนวชายแดนที่ยังมีความสูญเสียต่อเนื่อง ว่า “สันติภาพ คือ เครื่องมือรักษาชีวิตของทหารและประชาชนที่ดีที่สุดและมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด”
พันศักดิ์อธิบายเพิ่มเติมว่า ‘สันติภาพ’ เป็นวิธีที่ ‘สุขุม’ ที่สุด ใช้ทรัพยากรน้อยทั้งยังคุ้มค่าที่สุด และสามารถตัดวงจรความสูญเสียตั้งแต่ต้นทาง ลดความจำเป็นในการใช้งบประมาณจำนวนมากไปกับการจัดหาอาวุธหรือยุทโธปกรณ์เพื่อมาทำลายชีวิตและทรัพยากรของกันและกัน
หากทั้งไทยและกัมพูชาหันมาร่วมกันใช้ ‘สันติภาพ’ เป็นหลักสำคัญในการแก้ปัญหาด้านความมั่นคงและข้อพิพาทเส้นเขตแดน ที่ได้ถูกพิสูจน์มาแล้วว่าเป็นความสำเร็จและเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย พร้อมยกตัวอย่าง ข้อพิพาทเรื่องเส้นเขตแดนในยุโรปตะวันตก มีหลายตัวอย่างที่สามารถตกลงกันได้ว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างไร โดยที่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องเส้นเขตแดน
ทั้งนี้ความเห็นในการสร้างสันติภาพร่วมกันดังกล่าว ไม่เพียงช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐ แต่ยังรักษาชีวิตของทหารและประชาชนที่เป็นทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ นอกจากนี้ เสนอให้มีการแข่งขันระหว่างประเทศเพื่อนบ้านเปลี่ยนจากการใช้อาวุธมาเป็นการแข่งขันเชิงสร้างสรรค์ เช่น การพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน การส่งเสริมการค้าขาย การพัฒนาเศรษฐกิจ และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
“รัฐบาลควรจะสนับสนุนให้กองทัพมีประสิทธิภาพในระดับที่เหมาะสม ซึ่งทำให้ประเทศเพื่อนบ้านรู้ว่าการสร้างสันติภาพร่วมกับประเทศไทยนั้นเป็นประโยชน์กับตัวเองมากที่สุดเช่นกัน” พันศักดิ์กล่าว
พันศักดิ์ยังย้ำด้วยว่า ทั้งหมดนี้สะท้อนท่าทีของฝ่ายไทยว่า ความมั่นคงในระยะยาวไม่ได้เกิดจากการรบให้ฝ่ายหนึ่งพ่ายแพ้ แต่เกิดจากการที่ไม่มีใครต้องหยิบอาวุธขึ้นมาต่อสู้กันตั้งแต่แรก และกลับสู่ ‘การอยู่ร่วมกัน’ ในรูปแบบที่ไม่ต้องแลกด้วยชีวิตและเลือดเนื้อ นั่นคือ การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมร่วมกันนั่นเอง