Bitcoin ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการพุ่งทะยานทะลุระดับ 120,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ราคาเคยเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ บริเวณ 100,000 ดอลลาร์มานานหลายเดือน จนทำให้นักวิเคราะห์หลายคนสงสัยว่าโมเมนตัมที่เคยร้อนแรงเป็นประวัติการณ์เมื่อช่วงต้นปีจะกลับมาอีกครั้งหรือไม่
ราคาของ Bitcoin ซึ่งเป็นมาตรวัดสำคัญของตลาดคริปโท ได้พุ่งขึ้นสูงสุดถึง 1.9% แตะระดับ 121,344 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.94 ล้านบาท) ทำให้ราคาปรับตัวขึ้นแล้วประมาณ 30% นับตั้งแต่เดือนธันวาคม และเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
การกลับมาพุ่งทะยานขึ้นอีกครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ตลาดเคยชะลอความร้อนแรงลงจากความกังวลต่อนโยบายเศรษฐกิจและการเมืองของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ขณะนี้เมื่อสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ เช่น หุ้น กลับมาทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง Bitcoin ก็ได้กลับมาอยู่ในทิศทางขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ปัจจัยสำคัญที่ช่วยโหมกระแสในรอบล่าสุดคือการล้างพอร์ตสถานะขาย (Short Position) ของนักเทรดฝั่งที่มองว่าราคาจะลดลง โดยข้อมูลจาก Coinglass ระบุว่าในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีสถานะขายของนักลงทุนที่เดิมพันว่าราคา Bitcoin จะร่วง ถูกบังคับให้ปิดสถานะ (Liquidation) คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.24 หมื่นล้านบาท) ซึ่งการบังคับซื้อคืนนี้ได้กลายเป็นแรงส่งที่ผลักดันให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
George Mandres เทรดเดอร์อาวุโสของ XBTO Trading LLC กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งสัญญาณถึง ‘มุมมองที่เติบโตขึ้น’ ต่อ Bitcoin ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากปัจจัยมหภาคและเป็น ‘สินทรัพย์ที่ใช้เก็บความมั่งคั่ง’ ที่มีอยู่อย่างจำกัด”
เขามองว่าแรงซื้อในตลาดหุ้นประกอบกับการไหลเข้าของเงินทุนสถาบันในกองทุน Spot Bitcoin และ Ethereum ETF เป็นเชื้อเพลิงสำคัญที่ทำให้ราคาปรับตัวขึ้นอย่างมั่นคงและมีความผันผวนน้อยกว่ารอบขาขึ้นในอดีต
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังต่อ ‘สัปดาห์คริปโท’ (Crypto Week) ในสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าฝ่ายนิติบัญญัติจะมีการอภิปรายและอาจลงมติในกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซี
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนยังคงไม่ปักใจเชื่อกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องนี้ “ในมุมมองของผม นี่ไม่ใช่การปรับขึ้นที่ขับเคลื่อนโดยปัจจัยมหภาค แต่เป็น ‘เหตุการณ์เฉพาะจุด’ มากกว่า” Nicolai Sondergaard นักวิเคราะห์วิจัยจาก Nansen กล่าว
แต่เขาก็ยอมรับว่า “พัฒนาการด้านนโยบายล่าสุดของสหรัฐฯ เช่น การขยายตัวทางการคลังและความคาดหวังในการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ได้สร้าง ‘ปัจจัยแวดล้อมที่เอื้ออำนวย’ ต่อ Bitcoin อย่างปฏิเสธไม่ได้”
หมายเหตุ: ใช้อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 32.43 บาท ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2568
อ้างอิง: