ทำไมกล้องดิจิทัลในวันนี้จึงอยากเป็น กล้องฟิล์ม
ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปขนาดไหน หรือเทคโนโลยีในการถ่ายภาพจะล้ำไปขนาดไหน แต่คนก็ยังคงโหยหาภาพถ่ายที่มีกลิ่นอายแบบกล้องฟิล์มแบบในอดีตอยู่เรื่อยๆ สังเกตได้จากฟิลเตอร์แต่งรูป ที่สีสันดูนุ่มนวล โทนอบอุ่น เม็ดเกรนที่ทำให้ภาพดูมีชีวิตชีวา หรือแม้แต่ความไม่สมบูรณ์แบบที่กลับดูมีเสน่ห์ คือสิ่งที่คนปัจจุบันยังคงคิดถึง
แต่ไม่ใช่แค่ฟิลเตอร์ในแอปฯ เท่านั้น ที่คิดถึงกลิ่นอายของฟิล์ม แต่แบรนด์กล้องดิจิทัลชั้นนำหลายเจ้าก็หันมาพัฒนาลูกเล่นที่เลียนแบบ ‘กล้องฟิล์ม’ อย่างจริงจัง ชวนให้สงสัยว่าทำไมในยุคดิจิทัลที่อะไรๆ ก็ต้องคมชัด สมบูรณ์แบบ คนถึงได้หันกลับไปหาเสน่ห์ของฟิล์มกัน?
ความโหยหาอดีต
เหตุผลแรกๆ ที่ทำให้ภาพสไตล์ฟิล์มกลับมาฮิตติดลมบนคือ ความโหยหาอดีต โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อาจไม่เคยสัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มจริงๆ แต่กลับหลงใหลในความคลาสสิกของมัน สีสันที่ดูมีเรื่องราว เม็ดเกรนที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เรียบกริบจนไร้ชีวิตชีวาเหมือนภาพดิจิทัลบางภาพ สิ่งเหล่านี้กลับกลายเป็นความแปลกใหม่และน่าค้นหาในยุคที่ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบไปเสียหมด ในขณะเดียวกัน สำหรับคนวัยเก๋าที่เคยผ่านยุคกล้องฟิล์มมาแล้ว การได้เห็นกล้องดิจิทัลที่สามารถจำลอง ฟิล์มโปรด ในอดีตได้ ก็เหมือนได้หวนรำลึกถึงความทรงจำดีๆ ที่เคยมีกับมันอีกครั้ง
ความสวยงามที่ไม่สมบูรณ์
ในโลกที่ AI สามารถช่วยปรับภาพให้สวยเป๊ะ ไร้ที่ติจนบางครั้งก็ดูสมบูรณ์แบบจนเกินไป ซึ่งบางทีความผิดเพี้ยนเล็กๆ น้อยๆ ของภาพฟิล์มกลับกลายเป็นสิ่งที่น่าหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นสีที่ออกเพี้ยนไปบ้าง แสงรั่ว หรือขอบภาพที่เบลอเล็กน้อย ความไม่สมบูรณ์แบบเหล่านี้กลับเพิ่มเอกลักษณ์และช่วยเล่าเรื่องราวให้ภาพได้มากกว่าภาพที่คมชัดทุกจุด ทำให้ผู้คนหันมานิยม ความสวยงามที่ไม่สมบูรณ์ นี้มากขึ้น
ความช้าที่ทำให้เราได้ใส่ใจ
การถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มมีจังหวะที่ช้าลง ต้องคิดเยอะขึ้นก่อนกดชัตเตอร์ เพราะมีข้อจำกัดด้านจำนวนภาพ และยังต้องรอลุ้นผลลัพธ์หลังจากนำฟิล์มไปล้าง กล้องดิจิทัลที่เลียนแบบฟิล์มก็พยายามจำลองประสบการณ์นี้ เช่น โหมดจำลองฟิล์ม (Film Simulations) ที่มีหลากหลายโปรไฟล์ให้เลือกเหมือนฟิล์มหลายๆ ชนิด ทำให้ผู้ใช้ได้สนุกกับการทดลองสไตล์ภาพที่แตกต่างกันไป โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการล้างฟิล์มจริงๆ ทำให้การถ่ายภาพไม่ใช่แค่การกดชัตเตอร์ แต่เป็นกระบวนการที่พิถีพิถันและได้ลุ้นผลลัพธ์ที่น่าตื่นเต้น
เมื่อสมาร์ทโฟนไล่ตามทัน กล้องดิจิทัลจึงต้องหาลูกเล่นใหม่
ปฏิเสธไม่ได้ว่า กล้องในสมาร์ทโฟน ทุกวันนี้พัฒนาไปไกลมาก จนคุณภาพของภาพถ่ายแทบจะเทียบเท่าหรือดีกว่ากล้องดิจิทัลคอมแพครุ่นเริ่มต้นเสียอีก ด้วยเทคโนโลยี AI ที่ช่วยประมวลผลภาพถ่ายให้สวยงามได้ง่ายๆ และความสะดวกในการพกพา การถ่ายรูป และการแชร์บนโซเชียลมีเดียทันที ทำให้สมาร์ทโฟนกลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของคนทั่วไป
นี่คือความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับแบรนด์กล้องดิจิทัล ที่ทำให้พวกเขาต้องปรับตัวและค้นหาลูกเล่นที่สมาร์ทโฟนยังทำไม่ได้ หรือไม่สามารถมอบประสบการณ์ได้เท่า นั่นคือประสบการณ์การถ่ายภาพที่เหนือกว่า การควบคุมที่แม่นยำกว่า คุณภาพของเซ็นเซอร์และเลนส์ที่ให้มิติภาพที่ดีกว่า