เชื่อว่าผู้อ่านหลายๆ ท่านคงมีความฝันที่จะท่องเที่ยวไปยังดินแดนต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในโซนยุโรปที่บ้านเมืองมีความแปลกตาและเจริญก้าวหน้า แต่รู้หรือไม่ว่าเมืองที่มาพร้อมความก้าวหน้านั้นมักแฝงมากับค่าครองชีพที่แพงหูฉี่
เจนีวาทะยานครองเบอร์หนึ่ง
อย่างที่ทราบกันดีว่าร้านอาหารในเมืองเจนีวามีราคาค่อนข้างสูงมากเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ แต่ประชาชนชาวเจนีวานั้นไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยกับสิ่งที่ต้องจ่าย เหตุเพราะความสามารถด้านการหารายได้ของผู้คนที่เจนีวานั้นถือเป็นอันดับ 1 ของโลก เมื่อเทียบกับเมืองต่างๆ กว่า 77 เมือง ตามผลสำรวจของ UBS Group AGs Prices and Earnings โดยจุดที่ทำให้พลเมืองมีรายได้อู้ฟู่นั้นมาจากการเป็นศูนย์รวมของธนาคาร พ่อค้าคนกลาง และองค์กรสากลระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น United Nations, World Bank หรือ Red Cross
ซูริกรองลงมา
ซูริกตามมาเป็นลำดับ 2 ด้านการหาเงิน ในอดีตเคยเป็นแชมป์เมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกอีกด้วย โดยวัดจากค่าบริการต่างๆ เช่น ร้านตัดผม ค่าแม่บ้าน ค่าซักผ้า ฯลฯ ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้ของซูริก ‘สูง’ กว่าเจนีวาถึง 20% รวมถึงราคาเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ และโน้ตบุ๊กที่มีราคาสูงกว่าเจนีวาถึง 16% เช่นกัน สาเหตุที่เจนีวาสามารถทำอันดับได้ดีกว่าซูริก เพราะอาชีพอย่างเชฟและอาจารย์ ได้เงินเดือนดีกว่า
งานวิจัยชิ้นนี้ได้สรุปข้อมูลจากความมั่นคงทางรายได้และคุณภาพชีวิตของประชากรชาวสวิสกว่า 8 ล้านคน การที่มีค่าเงินแข็งแกร่ง รัฐบาลที่มั่นคง ระบบขนส่งมวลชนดีเลิศ รวมถึงธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งหมดเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุผลที่ทำให้ซูริกได้เลื่อนลำดับขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 จากเดิมอยู่อันดับ 3 ในปี 2006 ส่วนเจนีวาเลื่อนขึ้นมาจากอับดับ 4 ในปีเดียวกัน และติดอันดับที่ 2 ในปี 2015 ก่อนครองอันดับ 1 ในปีล่าสุด
ตามรายงานได้แสดงให้เห็นว่า โดยเฉลี่ยคนในซูริกทำงานเพียง 38.2 ชั่วโมงเพื่อซื้อ iPhone 1 เครื่อง ในขณะที่คนเดียวกันหากทำงานที่กรุงโจฮันเนสเบิร์ก ต้องใช้เวลาเฉลี่ยสูงถึง 291.9 ชั่วโมงกว่าจะได้เงินมาซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวกัน
ฝั่งอเมริกา ลอสแอนเจลิสมาสูงสุด
ในขณะที่ลอสแอนเจลิส บ้านเกิดของสื่อบันเทิงต่างๆ ทั่วโลกอยู่ในอันดับที่ 4 ด้านการหารายได้ แถมยังเป็นเพียงเมืองหนึ่งเดียวจากอเมริกาที่ติด 1 ใน 5 ของผลการสำรวจนี้ แต่ลอสแอนเจลิสเป็นเมืองที่ผู้คนใช้จ่ายเงินมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วยซูริกและไมอามีในลำดับที่ 2 และ 3
อ้างอิง: