มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล-อิหร่านว่า ตนให้กระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตในอิสราเอลและอิหร่าน ติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านอย่างใกล้ชิด และรายงานพัฒนาการในพื้นที่ให้ทราบอย่างต่อเนื่องและทันต่อสถานการณ์ โดยตนได้รับรายงานว่า สถานการณ์มีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนมากขึ้น ซึ่งประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐฯ และจีน ประกาศให้ประชาชนของตน “เดินทางออกนอกพื้นที่” ตั้งแต่วานนี้ (17 มิถุนายน) แล้ว
ขณะที่มาริษยังขอให้คนไทยในอิสราเอลและอิหร่านพิจารณาเร่งเดินทางออกจากพื้นที่ทันทีที่สามารถกระทำได้อย่างปลอดภัย โดยสามารถติดต่อสถานทูตในอิสราเอลและอิหร่านได้ที่:
สายด่วนสถานทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ
หมายเลข +972 546 368150 และ +972 503 673195
สายด่วนสถานทูต ณ กรุงเตหะราน
หมายเลข +98 912 159 8699 และ +98 912 500 7933
Call Center กระทรวงการต่างประเทศ
หมายเลข 0 2572 8442 ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศออกประกาศชี้แจงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงเตหะราน ประกาศให้คนไทยอพยพออกจากเมือง โดยระบุว่า “ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ได้แจ้งให้คนไทย “เดินทางออกจากพื้นที่” ซึ่งหมายถึงการให้เดินทางออกจากพื้นที่ที่อันตรายในกรุงเตหะรานไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย หรือศูนย์พักพิงที่สถานเอกอัครราชทูตฯ จัดเตรียมไว้ทันทีที่สามารถทำได้ ซึ่งแตกต่างจากคำว่า “อพยพ” ซึ่งคือต้องจัดยานพาหนะมารับเพื่อเดินทางออกจากประเทศนั้นๆ”
โดยตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2568 สถานเอกอัครราชทูตฯ เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับคนไทยที่เมือง Amol ในจังหวัด Mazandaran ทางเหนือของอิหร่าน ซึ่งเป็นจุดที่ปลอดภัย และห่างจากจุดยุทธศาสตร์ทางทหาร หรือนิวเคลียร์ของอิหร่าน สามารถรองรับคนไทยได้ถึง 200 คน โดยขณะนี้มีคนไทยไปพำนักอยู่แล้ว 35 คน
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่า ในขณะนี้ยังไม่มีคนไทยแจ้งความประสงค์ในการอพยพออกจากอิหร่าน แต่สถานเอกอัครราชทูตฯ เตรียมแผนในการช่วยเหลือไว้พร้อมแล้ว รวมถึงได้ประเมินสถานการณ์และสอบถามความประสงค์ของคนไทยอย่างต่อเนื่อง
โดยมาริษยืนยันว่า หากสถานการณ์ยกระดับขึ้นอีก หากจำเป็นต้องอพยพประชาชนออกจากประเทศ ทางกระทรวงการต่างประเทศจะเร่งแจ้งประชาชน และขอให้คนไทยในทั้งสองประเทศติดตามข่าวสารต่างๆ ของทางการท้องถิ่นและสถานทูตอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางการอย่างเคร่งครัด
ทางด้านสถานเอกอัครราชทูตฯ เผยแพร่ประกาศล่าสุด แจ้งว่าย้ายไปทำการชั่วคราวที่ No.6, Soheiliyeh Road, Kordan เพื่อลดความเสี่ยงและอันตรายในการเดินทางมาติดต่อขอรับบริการ
อ้างอิง:
- กระทรวงการต่างประเทศ
- สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน