ศิลปินในกระแสเมนสตรีมปัจจุบันนั้นหายากที่จะมีเพลงฮิตติดชาร์ตอยู่ไม่ขาดสาย ทำยอดขายอัลบั้ม รวมทั้งยอดสตรีมมิงได้อย่างมหาศาล และผลงานกลายเป็นกระแสไวรัลเชิงวัฒนธรรมที่คนต้องติดตาม แต่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับ เดรก หรือชื่อจริง ออเบรย์ เดรก เกรแฮม ศิลปินและแรปเปอร์ชาวแคนาดา วัย 31 ปี ที่อัลบั้มล่าสุด Scorpion กำลังขับเคลื่อนวงการเพลงอย่างที่ต้องนับถือและดูเหมือนจะไม่แผ่วในเร็ววันนี้
Scorpion เป็นผลงานสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 5 ของเดรกที่ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา มีทั้งหมด 25 เพลง ถูกแยกเป็นส่วนแรก ‘A Side’ เน้นเพลงฮิปฮอปแรปที่หนักแน่นและมีความเฉพาะกลุ่มฐานคนฟังเพลงเออร์เบิน ส่วน ‘B Side’ ก็จะแทรกซาวด์อาร์แอนด์บีและกลิ่นอายป๊อปที่เมนสตรีมกว่า และหลายเพลงก็กำลังฮิตตอนนี้ โดยโปรเจกต์นี้ใช้โปรดิวเซอร์มากถึง 29 คน และมีคนมาฟีเจอริงตั้งแต่ เจย์-ซี, นิกกี้ มินาจ, มารายห์ แครีย์ และไมเคิล แจ็คสัน
ซิงเกิลแรกของอัลบั้ม Scorpion คือเพลง God’s Plan ที่ปล่อยมาตั้งแต่ต้นปี ผสมผสานซาวด์แทร็ปเข้าไปในจังหวะฮิปฮอป และได้ Cardo, Boi-1da, Yung Exclusive และ Noah “40” Shebib ที่อยู่เบื้องหลังเพลงคลาสสิกของเดรกอย่าง One Dance มาโปรดิวซ์ให้ โดยเพลง God’s Plan ทำยอดสตรีมมิงบน Spotify กว่า 82.4 ล้านครั้งในสัปดาห์แรก และขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตซิงเกิล Billboard Hot 100 ยาวนานถึง 11 สัปดาห์ ก่อนซิงเกิลต่อไปของเขา Nice For What จะมาเสียบแทน
Nice For What เป็นเพลงจังหวะสนุกๆ ผสมผสานสไตล์บาวซ์ (Bounce) เข้ากับกลิ่นอายอาร์แอนด์บี โดยมีการใช้แซมเปิลเพลง Ex-Factor ในปี 1998 ของ ลอรีน ฮิลล์ ศิลปินแรปเปอร์สาวในตำนานที่เคยอยู่วง Fugees ด้วย โดยมิวสิกวิดีโอ Nice For What ได้ คารีนา อีแวนส์ มากำกับ และมีนักแสดงหญิงอย่าง เทรซี เอลลิส รอสส์, ทิฟฟานี แฮดดิช, โอลิเวีย ไวลด์, เอ็มมา โรเบิร์ตส์ และนางแบบ จอร์แดน ดันน์ มาร่วมแสดง ซึ่งทำยอดบนยูทูบไปแล้วกว่า 200 ล้านวิว ส่วนยอดสตรีมมิงบน Spotify ตอนนี้ก็ประมาณ 400 ล้านครั้ง
อีกหนึ่งเพลงจากอัลบั้ม Scorpion ที่กำลังเป็นที่สนใจก็คือ Don’t Matter To Me เพลงจังหวะคลาสสิกอาร์แอนด์บีที่มี ไมเคิล แจ็คสัน มาฟีเจอริง โดยการที่ได้ไมเคิลมาร้อง พวกเขานำเพลงที่เคยอัดในปี 1983 กับ พอล แองคา เป็นเพลงที่ไม่เคยปล่อยนำมามิกซ์เข้ากับการแรปของเดรก โดยเพลงนี้ได้ Noah “40” Shebib และ Nineteen85 มาโปรดิวซ์และขึ้นสูงถึงอันดับ 2 ในประเทศอังกฤษ ส่วนที่อเมริกาก็ขึ้นอันดับ 9 บนชาร์ต Billboard Hot 100 และทำให้ไมเคิล แจ็คสัน กลับมาอยู่บนชาร์ตอีกครั้งและมีผลงานเข้า Top 10 เป็นเพลงที่ 30 ในชีวิตของเขา
https://www.instagram.com/p/BlJk4dOn0aD/?utm_source=ig_share_sheet&igshid=eqzr5hmekzm2
https://www.instagram.com/p/Bk-s2Lun1Vd/?utm_source=ig_share_sheet&igshid=1fdfslg2gnrli
ล่าสุดกับอีกหนึ่งเพลงจากอัลบั้ม Scorpion อย่าง In My Feelings ที่ขณะนี้อยู่อันดับหนึ่งบนชาร์ต Global Top 50 ของ Spotify และทำยอดสตรีมมิงไปแล้วกว่า 100 ล้านครั้งก็กำลังเป็นกระแสไวรัล เพราะมีการทำกิจกรรม #InMyFeelingsChallenge บนโลกออนไลน์ที่ชักจูงให้คนมาเต้นเพลงนี้กัน โดยมีทั้งเหล่า Fab Five จาก Queer Eye, วิล สมิธ และนักร้องสาวซิเอรามาร่วมด้วย ซึ่งกิจกรรมนี้ก็มีการพูดถึงทางทวิตเตอร์กว่า 2.3 ล้านครั้ง และตอนนี้ขึ้นสูงสุดอันดับ 6 บนชาร์ต Billboard Hot 100 และไม่น่าแปลกใจถ้าจะขึ้นอันดับหนึ่งในอีกไม่นาน
ปิดท้ายด้วยยอดขายและความสำเร็จของอัลบั้ม Scorpion ที่เปิดตัวบนชาร์ตอัลบั้ม Billboard 200 ที่อันดับหนึ่งกับยอด 723,000 ก๊อบปี้ และเพลงทั้งหมด 25 เพลงก็เข้าชาร์ต Billboard Hot 100 พร้อมมี 7 เพลงเข้า Top 10 ซึ่งเดรกก็เป็นศิลปินคนแรกที่ทำได้ในประวัติศาสตร์ ส่วนด้านสตรีมมิง เดรกก็ทำสถิติใหม่โดยการเป็นศิลปินที่มีคนฟังอัลบั้มใหม่ทั่วโลกเยอะที่สุดตั้งแต่วันแรกถึง 170 ล้านครั้งบน Apple Music และ 132.45 บน Spotify มากไปกว่านั้น อัลบั้ม Scorpion ยังเป็นผลงานชิ้นแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำยอดสตรีมมิงได้มากกว่าพันล้านครั้งในสัปดาห์แรกหากนำยอดทุกแพลตฟอร์มมารวมกัน ซึ่งทั้งหมดก็เป็นการตอกย้ำความชัดเจนถึงอิทธิพลของการสตรีมมิงที่จะผลักดันให้ศิลปินได้ครองพื้นที่บนชาร์ต
*หมายเหตุ: ยอดสตรีมมิงและยอดวิวที่กล่าวมาเป็นของวันที่ 16 กรกฎาคม 2018
https://www.instagram.com/p/BkmTnoGnzzl/?utm_source=ig_share_sheet&igshid=n92tiq0gvtd6
อ้างอิง:
- www.billboard.com/articles/columns/chart-beat/8464292/drake-scorpion-first-album-1-billion-global-streams-one-week
- www.rollingstone.com/music/music-features/how-drake-made-scorpion-the-most-ambitious-album-of-his-career-693877
- www.billboard.com/articles/columns/hip-hop/8465226/drake-in-my-feelings-challenge-twitter
- en.m.wikipedia.org/wiki/Scorpion_(Drake_album)