×

พิษเศรษฐกิจทุบธุรกิจก่อสร้าง-นายหน้าอสังหา-ร้านอาหาร ทยอยปิดตัวแตะ 4,000 รายใน 4 เดือนแรกปี 2568

27.05.2025
  • LOADING...
ปิดกิจการ

เศรษฐกิจโลกชะลอ ความไม่แน่นอนภาษีสหรัฐ ปัญหาหนี้ครัวเรือน 4 เดือนแรกของปี 2568 ยอดปิดกิจการอยู่ที่ 3,921 ราย ขณะที่เดือนเมษายน 2568 ธุรกิจทุนหนักเกิน 1 พันล้านจัดตั้งเพิ่ม 2 ราย มูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านบาท

 

อรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้วิเคราะห์สถานการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนเมษายน 2568 พบว่า มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 6,325 ราย ลดลง 205 ราย (-3.14%) เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2567 (6,530 ราย) และทุนจดทะเบียนรวม 32,141 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,870 ล้านบาท (17.86%) เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2567 (27,272 ล้านบาท)

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

 

ด้านธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่

  1. ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 502 ราย ทุนจดทะเบียน 988 ล้านบาท
  2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 439 ราย ทุนจดทะเบียน 1,569 ล้านบาท
  3. ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 264 ราย

 

ทุนจดทะเบียน 469 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7.94%, 6.94% และ 4.17% ของจำนวนการจัดตั้งธุรกิจในเดือนเมษายน 2568 ตามลำดับ

 

ทั้งนี้ ในเดือนเมษายน 2568 มีธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนจัดตั้งเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 2 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 16,520 ล้านบาท ได้แก่

 

  1. บมจ.กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มูลค่าทุนจดทะเบียน 14,940 ล้านบาท ประกอบกิจการเข้าเป็นหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วน หรือเป็นผู้ถือหุ้นในนิติบุคคลใดๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศเพื่อประโยชน์ของบริษัท

 

  1. บจ.อิเดมิตสึ อพอลโล (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่าทุนจดทะเบียน 1,580 ล้านบาท ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น ผลิตภัณฑ์จาระบี และสินค้าอื่นๆ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้งานคล้ายคลึงกัน

 

อรมนกล่าวอีกว่า การจัดตั้งใหม่ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม-เมษายน 2568) มีจำนวน 30,148 ราย ลดลง 1,385 ราย (-4.39%) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 (31,533 ราย) ทุนจดทะเบียน 112,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,849 ล้านบาท (17.70 %) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 (95,212 ล้านบาท)

 

ด้านธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่

  1. ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 2,394 ราย ทุนจดทะเบียน 5,102 ล้านบาท
  2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 2,047 ราย ทุนจดทะเบียน 7,834 ล้านบาท
  3. ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 1,237 ราย

 

ทุนจดทะเบียน 2,428 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7.94%, 6.79% และ 4.10% จากจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ ตามลำดับ

 

ทั้งนี้ 4 เดือนแรกของปี 68 มีธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนจัดตั้งเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวนรวมทั้งสิ้น 7 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน รวมทั้งสิ้น 37,499 ล้านบาท

 

การจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการเดือนเมษายน 2568 มีจำนวน 814 ราย เพิ่มขึ้น 4 ราย (0.49%) เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2567 (810 ราย) และมีทุนจดทะเบียนเลิก 4,131 ล้านบาท ลดลง 965 ล้านบาท (-18.94%) เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2567 (5,097 ล้านบาท)

 

สำหรับประเภทธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่

  1. ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 65 ราย ทุน 110 ล้านบาท
  2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 47 ราย ทุนจดทะเบียนเลิก 416 ล้านบาท
  3. ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 30 ราย

 

ทุนจดทะเบียนเลิก 50 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7.99%, 5.77% และ 3.69% 

จากจำนวนการเลิกประกอบธุรกิจในเดือนเมษายน 2568 ตามลำดับ

 

การจดทะเบียนเลิก 4 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม-เมษายน 2568) มีจำนวน 3,921 ราย เพิ่มขึ้น 302 ราย (8.34%) เมื่อเทียบกับ 4 เดือนแรกของปี 2567 (3,619 ราย) ทุนจดทะเบียนเลิกสะสมอยู่ที่ 15,990 ล้านบาท ลดลง 1,050 ล้านบาท (-6.16%) เมื่อเทียบกับ 4 เดือนแรกของปี 2567 (17,040 ล้านบาท)

 

โดยธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่

  1. ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 372 ราย ทุนจดทะเบียนเลิก 652 ล้านบาท
  2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 184 ราย ทุนจดทะเบียนเลิก 912 ล้านบาท
  3. ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 159 ราย

 

ทุนจดทะเบียนเลิก 391 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 9.49%, 4.69% และ 4.06%

 

เศรษฐกิจโลก ปัญหาหนี้สินครัวเรือนของไทย ภาษีสหรัฐฯ มีผลต่อยอดจดทะเบียน

 

ทั้งนี้ เมื่อวิเคราะห์การจัดตั้งธุรกิจ ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม-เมษายน) ที่ลดลง 4.39% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 จะพบว่าธุรกิจที่มีการจัดตั้งลดลง เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต ธุรกิจขายปลีกสินค้าในร้านทั่วไป และธุรกิจตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

 

จากความผันผวน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ปัญหาหนี้สินครัวเรือนของไทย ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา ขณะที่ธุรกิจบางประเภทยังคงมีการจัดตั้งเพิ่มขึ้นในช่วง 4 เดือนของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เช่น ธุรกิจขายส่งสินค้าทั่วไป ธุรกิจขายส่งผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจโรงพยาบาล และธุรกิจขายยานยนต์เก่า

 

ในส่วนของการจดทะเบียนเลิกธุรกิจในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม-เมษายน) ที่เพิ่มขึ้น 8.34% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากธุรกิจบางประเภทมีการจดเลิกเพิ่มขึ้น เช่น ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านบริหารจัดการ ธุรกิจขายปลีกสินค้าในร้านค้าทั่วไป และธุรกิจตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องปรับตัวให้ไวตามพฤติกรรมของผู้บริโภค และกลไกการแข่งขัน

ภาพ: FG Trade / Getty Images

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising