เกิดอะไรขึ้น:
บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) กำลังจะเปิดโรงแรมแห่งใหม่ ‘Grande Centre Point Lumphini’ ซึ่งเป็นโรงแรมระดับลักชัวรีขนาด 512 ห้อง โดยมีอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 8,000 บาทต่อคืน
โครงการนี้เป็นโครงการแบบ mixed-use ที่มีพื้นที่สำนักงานด้วย LH ตั้งเป้าอัตราการเข้าพักในปี 2568 ที่ 30-40% และจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับอย่างน้อย 80% ในปี 2569 LH ใช้เงินลงทุน 4.8 พันล้านบาท ในโรงแรมแห่งนี้ และจุดคุ้มทุนที่ระดับกำไรสุทธิอยู่ที่อัตราการเข้าพัก 60%
ด้วยเหตุนี้ InnovestX Research จึงคาดว่าการดำเนินงานโรงแรมจะมีกำไรในปี 2569 หลังจากสร้างรายได้ ~500 ล้านบาท ในปี 2568 LH มีโรงแรมอีก 3 แห่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างและจะเปิดให้บริการในอีก 3 ปีข้างหน้า
ได้แก่ Grande Centre Point Prestige Ratchadimri ขนาด 509 ห้อง จะเปิดให้บริการใน 1Q69, Grande Centre Point Voyage Pattaya (โรงแรมธีม) ขนาด 494 ห้อง จะเปิดให้บริการในปี 2570 และ Grande Centre Point Chinatown ขนาด 357 ห้อง จะเปิดให้บริการในปี 2571
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น LH ปรับลง 5.29% ขณะที่ SET Index ปรับลง 3.75% สู่ 1,184.93 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2568:
โรงแรมใหม่จะสร้างรายได้จากการให้เช่าตั้งแต่ 2Q68 เป็นต้นไป LH ตั้งเป้ารายได้จากการให้เช่ารวมในปี 2568 ที่ 9.2 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1%) เติบโตเพียงเล็กน้อยเนื่องจากใน 4Q67 มีการขายศูนย์การค้าแห่งหนึ่งให้กับ REIT ของบริษัท และบริษัทยังขายอาคารอพาร์ตเมนต์ 3 แห่งในสหรัฐฯ (1 แห่งใน 1H68 และอีก 2 แห่งใน 2H68)
ปัจจุบัน LH มี backlog มูลค่า 9.25 พันล้านบาท โดย 17% มาจากโครงการแนวราบซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2568 และส่วนที่เหลืออีก 83% มาจากคอนโดซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปี 2569-2570
InnovestX Research ประมาณการรายได้ปี 2568 ไว้ที่ 2.77 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 11.5%) โดย 67% เป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ และ 33% เป็นรายได้จากการเช่า ขณะที่คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2568 ที่ 5.3 พันล้านบาท (ลดลง 2.2%) โดยที่ยังไม่ได้รวมกำไรจากการขายสินทรัพย์ประมาณ 1 พันล้านบาท เข้ามาไว้ในประมาณการ
และคาดว่ากำไร 1Q68 จะลดลง YoY และ QoQ จากนั้นจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 2Q68 เนื่องจากอุปสงค์ฟื้นตัว โดยได้รับการสนับสนุนจากการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV
กลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ LH โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 6.00 บาทต่อหุ้น อ้างอิง PE เฉลี่ยที่ 13.3 เท่า LH ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับงวด 4Q67 ที่ 0.17 บาทต่อหุ้น (XD วันที่ 30 เมษายน) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.95%
ความเสี่ยง ESG ที่สำคัญ: ความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน: การบริหารสินค้าคงเหลือกลุ่มบ้านเดี่ยวและคอนโดลักชัวรี ความเสี่ยงด้าน ESG: LH ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ในระดับ AA โดยได้รับการเลื่อนระดับขึ้นจากระดับ A ในปี 2566 เนื่องจาก LH ตั้งเป้าที่จะคงความเป็นผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย โดยมีเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2608 และดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนมากขึ้น
LH – มีโรงแรมระดับลักชัวรีแห่งใหม่เพิ่มเข้ามา
https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/research/company-analysis/company-update/lh-202500326