×

เซ็นทารา ‘ท็อปฟอร์ม’ กำไรพุ่ง 43% รายได้ทะลุหมื่นล้าน เตรียมงบ 8 พันล้าน ปรับโฉมหัวหิน-กระบี่ ผุดโรงแรมใหม่เนปาล-อินโดนีเซีย-เวียดนาม

18.03.2025
  • LOADING...
เซ็นทารา

ปี 2567 ที่ผ่านมา นับเป็นอีกปีแห่งความสำเร็จของเซ็นทารา โดยโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารามีรายได้รวมอยู่ที่ 11,162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,230 ล้านบาท (หรือ 12%) เทียบปีก่อน มีกำไรสุทธิจำนวน 1,097 ล้านบาท เติบโตขึ้น 43%

 

“ปีที่ผ่านมาชนะปี 2562 ทั้งรายได้และกำไรแล้ว แต่ไม่ใช่ปีที่ดีที่สุดเพราะปี 2561 มีกำไร 2,800 ล้านบาท

 

จึงมองว่าปีนี้จะแตะรายได้ 15,000 หมื่นล้านบาท ถ้าไม่มีเหตุการณ์ฉุกเฉิน” ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทาราระบุ

 

การเติบโตของปี 2567 นั้นถูกมองว่ามีส่วนสำคัญมาจากผลการดำเนินงานของรีสอร์ทในมัลดีฟส์ ซึ่งล่าสุดได้เปิดให้บริการเซ็นทารา มิราจ ลากูน  มัลดีฟส์ในพื้นที่มาเล่ อะทอลล์เหนือ หนึ่งในเกาะในกลุ่มมัลดีฟส์ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และกำลังจะเปิดให้บริการเซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ บนเกาะเดียวกันในเดือนเมษายนนี้

 

นั่นจะทำให้เซ็นทารามีโรงแรมและรีสอร์ทในมัลดีฟส์รวมกันทั้งสิ้น 4 โรงแรม ภายใต้แบรนด์และธีมที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ แบรนด์เซ็นทารา (Centara), แบรนด์เซ็นทารา แกรนด์ (Centara Grand), แบรนด์เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น (The Centara Collection) และรีสอร์ทภายใต้ธีมมิราจ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกกลุ่มลูกค้าในตลาดมัลดีฟส์

 

มัลดีฟส์ถือเป็นประเทศที่มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักมากที่สุดในต่างประเทศคือ 13,000 บาท แต่ถือว่าน้อยกว่าไทยที่สามารถทำราคาได้ 13,500 บาทที่สมุย โดยปี 2567 มีอัตราการเข้าพักที่ 70% ราคาเฉลี่ยรายวัน (ADR) อยู่ที่ 5,700 บาท

 

กันย์ ศรีสมพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงินระบุว่า ปีนี้ทาง บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ได้วางงบลงทุนไว้กว่า 8,000 ล้านบาท ทั้งในส่วนของธุรกิจโรงแรมและอาหารภายใต้เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป 

 

โดย 1,800 ล้านบาทสำหรับการลงทุนใหม่ๆ อีก 1,200 ล้านบาทสำหรับธุรกิจอาหาร และที่เหลือกว่า 5,000 ล้านบาทจะเป็นของธุรกิจโรงแรม

 

สำหรับโรงแรมเริ่มที่หัวหินจะใช้งบเกือบ 1,000 ล้านบาทสำหรับปรับโฉมเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ทและวิลล่า หัวหิน ที่เริ่มทยอยปิดปรับปรุงพื้นที่บางส่วนเพื่อสร้างเป็นห้องพักประเภทวิลล่าสุดหรูอีก 70 หลัง โดยจะอยู่ภายใต้แบรนด์ เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น (The Centara Collection)

 

ผนวกเข้ากับห้องพักที่จะสร้างใหม่เพิ่มอีก 200 ห้อง ภายใต้แบรนด์เซ็นทารา ไลฟ์ (Centara Life) ซึ่งทั้งหมดนี้ จะทำเซ็นทารามีห้องพักกว่า 484 ห้องให้บริการภายใต้แบรนด์ที่หลากหลาย ซึ่งหากรวมทั้งหมดจะใช้เงินกว่า 2,500 ล้านบาทในช่วง 3 ปีต่อจากนี้

 

รวมทั้งเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ทและวิลล่า กระบี่ ก็มีแผนจะปิดปรับปรุงครั้งสำคัญในปีนี้ด้วยเช่นกัน โดยตั้งเป้าให้กลายมาเป็นเซ็นทารา รีเซิร์ฟ (Centara Reserve) โรงแรมหรูระดับลักชัวรีแห่งที่ 2 ของโลกใช้เงินราว 700 ล้านบาทด้วยกัน

 

ขณะที่ต่างประเทศนอกจากมัลดีฟส์ยังมีโรงแรมในต่างประเทศอีก 4 แห่ง ต่อคิวเพื่อรอเปิดให้บริการอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น อันนะปุรณะ เมาท์เทน รีสอร์ท และโรงแรมภายใต้แบรนด์เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น (The Centara Collection) อีกหนึ่งแห่งบนเกาะบาหลี ที่จะกลายมาเป็นรีสอร์ทแรกภายใต้เครือเซ็นทาราในประเทศเนปาลและอินโดนีเซีย

 

รวมถึงโรงแรมใหม่อีก 2 แห่งในเวียดนาม ได้แก่ โรงแรมเซ็นทารา และเรสซิเดนซ์ วังดอน และคริสตัล ฮอลิเดย์ ฮาร์เบอร์ วังดอน ที่เมื่อรวมกันแล้วจะมีห้องพักให้บริการทั้งสิ้นถึง 977 ห้องด้วยกัน

 

นอกจากนี้ยังใช้ในแง่เกมการตลาดจะมีการใช้ Dynamic pricing ซึ่งราคาจะขึ้นลงตามเทศกาล รวมถึงการใช้ระบบ CRM ที่เข้มข้นผ่านการให้ส่วนลด 10-20% แล้วแต่ช่วง ซึ่ง “พิสูจน์แล้วว่าการทำตลาดกับลูกค้าเก่าง่ายกว่าการหาลูกค้าใหม่” กันย์ระบุ 

 

เมื่อรวมการเปิดให้บริการโรงแรมใหม่และการปรับโฉมโรงแรมต่างๆ ในปีนี้ เซ็นทาราคาดว่าจะช่วยส่งผลให้ราคาห้องพักเฉลี่ย และรายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (RevPAR) ของเซ็นทาราเพิ่มขึ้นเป็น 6,500 บาท และ 4,500 – 4,800 บาทตามลำดับ โดยคาดว่ารายได้รวม (รวมโรงแรมร่วมทุน) จะเติบโตประมาณ 23% ในปีนี้

 

ที่น่าจับตาคือโรงแรมในญี่ปุ่นซึ่งมีอยู่ 1 แห่งที่โอซาก้าซึ่งคาดว่าจะได้รับผลดีจากงาน World Expo ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยประเมินว่าจะช่วยทำให้อัตราการเข้าพักทั้งปีเพิ่มจาก 78% ไปสู่มากกว่า 82% และราคาเฉลี่ยเพิ่มจาก 30,000 เยนต่อคืนเป็น 35,000 เยน

 

ธีระยุทธระบุว่า ยังคงมีแผนที่จะเปิดโรงแรมเพิ่มในญี่ปุ่นโดยมองไว้หลายทำเลแต่จะเกิดขึ้นช่วงไหนต้องแล้วแต่สถานการณ์เพราะอย่างเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้าใช้เวลาไม่น้อยกว่า 5 ปีถึงจะได้เปิด

 

ที่ผ่านมา มีแผนจะเปิดที่เกียวโตแต่ต้องพับไปก่อนเพราะเจ้าของที่ดินเปลี่ยนใจไม่ขาย ส่วนในโตเกียวไปดูตึกย่านกินซ่า แต่ปรากฏว่าไม่สามารถทุบตึกแล้วสร้างเป็นโรงแรมใหม่ได้ เหล่านี้ถือเป็นความท้าทายสำหรับโรงแรมที่จะไปเปิดในดินแดนซามูไรทั้งสิ้น

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising