ร้านค้าปลีกแฟชั่นที่เป็น ‘ฟาสต์แฟชั่น’ ชื่อดังอย่าง Forever 21 ในสหรัฐอเมริกา ได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ภายใต้ Chapter 11 เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 6 ปี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (16 มีนาคม) โดยมีสาเหตุหลักมาจากจำนวนลูกค้าที่เดินห้างสรรพสินค้าน้อยลงอย่างต่อเนื่อง และการแข่งขันที่ ‘ดุเดือด’ จากร้านค้าปลีกออนไลน์
การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีแนวโน้มสูงที่จะนำไปสู่การ ‘เลิกกิจการ’ ของบริษัทที่ไม่สามารถหาผู้ซื้อสำหรับร้านค้าประมาณ 350 แห่งในสหรัฐฯ ได้ อย่างไรก็ตาม เครื่องหมายการค้าและทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทซึ่งยังคงถือครองโดยหน่วยงานที่ชื่อว่า Authentic Brands Group อาจ ‘ดำเนินกิจการ’ ต่อไปในรูปแบบอื่น
การเติบโตของ ‘อีคอมเมิร์ซ’ ควบคู่ไปกับการ ‘โรยรา’ ของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในอเมริกา เป็น ‘อุปสรรค’ ที่ Forever 21 เผชิญมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้บริษัทเคยยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ภายใต้ Chapter 11 ในปี 2019 และถูกซื้อกิจการออกจากภาวะล้มละลายโดย Sparc ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างเจ้าของแบรนด์ Authentic Brands Group และผู้บริหารห้างสรรพสินค้า Simon Property Group และ Brookfield Asset Management Inc.
Forever 21 ระบุว่าจะดำเนินการ ‘ลดราคาสินค้าครั้งใหญ่’ เพื่อล้างสต็อกที่ร้านค้า พร้อมทั้งดำเนินการขายและทำการตลาดสำหรับทรัพย์สินบางส่วนหรือทั้งหมดของบริษัทภายใต้การดูแลของศาล
บริษัทระบุในเอกสารที่ยื่นต่อศาลล้มละลายในเขตเดลาแวร์ว่า มีสินทรัพย์โดยประมาณอยู่ในช่วง 100-500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.36 พันล้านบาท – 1.68 หมื่นล้านบาท และมีหนี้สินอยู่ในช่วง 1-5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.36 หมื่นล้านบาท – 1.68 แสนล้านบาท เอกสารยังระบุด้วยว่า มีเจ้าหนี้อยู่ในช่วง 10,001-25,000 ราย
ในกรณีที่การขายทรัพย์สินประสบความสำเร็จ Forever 21 กล่าวว่าอาจ ‘พลิกผัน’ จากการปิดกิจการทั้งหมด เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมแบบ ‘กิจการที่ดำเนินอยู่’ (Going Concern Transaction)
บริษัทกล่าวว่า ร้านค้าและเว็บไซต์ในสหรัฐอเมริกาจะยังคงเปิดให้บริการและให้บริการลูกค้าต่อไป โดยร้านค้าในต่างประเทศจะไม่ได้รับผลกระทบ
ปัจจุบัน Forever 21 เป็นเจ้าของโดย Catalyst Brands ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 มกราคม จากการควบรวมกิจการระหว่าง Sparc Group เจ้าของเดิมของ Forever 21 และ JC Penney เครือข่ายห้างสรรพสินค้าที่เป็นเจ้าของโดยผู้บริหารห้างสรรพสินค้า และ Simon Property Group ตั้งแต่ปี 2020
เมื่อ Catalyst Brands ก่อตั้งขึ้น บริษัทกล่าวในแถลงการณ์ว่ากำลัง ‘สำรวจทางเลือกเชิงกลยุทธ์’ สำหรับ Forever 21 โดย Jamie Salter ซีอีโอของ Authentic Brands Group เคยกล่าวเมื่อปีที่แล้วว่า “การเข้าซื้อ Forever 21 เป็นความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดที่ผมเคยทำ”
Forever 21 ก่อตั้งขึ้นในลอสแอนเจลิสในปี 1984 โดยผู้อพยพชาวเกาหลีใต้ในช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด แบรนด์นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักช้อปวัยหนุ่มสาวที่กำลังมองหาเสื้อผ้าที่ทันสมัยแต่ราคาไม่แพง ในปี 2016 บริษัทมีร้านค้าประมาณ 800 แห่งทั่วโลก โดย 500 แห่งอยู่ในสหรัฐอเมริกา
Brad Sell ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท กล่าวในแถลงการณ์ว่า “เราไม่สามารถหาแนวทางที่ยั่งยืนต่อไปได้ เนื่องจากการแข่งขันจากบริษัทฟาสต์แฟชั่นต่างชาติ รวมถึงต้นทุนที่สูงขึ้น และความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าหลักของเรา”
อ้างอิง: