มาร์ก คาร์นีย์ (Mark Carney) อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ และอดีตผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา ชนะการโหวตให้เป็นผู้นำพรรคลิเบอรัล (Liberal Party) และเตรียมรับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี แคนาดา คนใหม่ แทนที่ จัสติน ทรูโด
โดยคาร์นีย์วัย 59 ปี ได้รับคะแนนเสียง 86% เอาชนะคริสเทีย ฟรีแลนด์ (Chrystia Freeland) อดีตรัฐมนตรีคลังแคนาดา ในการเลือกตั้งของพรรคลิเบอรัลที่มีสมาชิกพรรคเกือบ 152,000 คนร่วมลงคะแนน ซึ่งคาดว่าเขาจะทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแคนาดาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากที่ทรูโดลาออกอย่างเป็นทางการ
ในการกล่าวสุนทรพจน์หลังชนะการโหวต คาร์นีย์กล่าวว่าแคนาดา “กำลังเผชิญวันที่มืดมน ที่เกิดจากประเทศที่ไม่สามารถเชื่อใจได้อีกต่อไป” ซึ่งหมายถึงมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้า ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะบังคับใช้ต่อแคนาดา
“มีคนพยายามทำให้เศรษฐกิจของเราอ่อนแอลง เขากำลังโจมตีแรงงาน ครอบครัว และธุรกิจของแคนาดา เราไม่สามารถปล่อยให้เขาทำสำเร็จได้” คาร์นีย์กล่าวถึงทรัมป์ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของสมาชิกพรรค
“นี่จะไม่ใช่เรื่องธุรกิจตามปกติอีกต่อไป เราจะต้องทำในสิ่งที่เราไม่เคยจินตนาการมาก่อน ด้วยความเร็วที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้”
ทั้งนี้ ทรูโดประกาศจะลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังครองตำแหน่งมานานกว่า 9 ปี เนื่องจากคะแนนนิยมของเขาและพรรคลิเบอรัลที่ตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ตัวเขาเองก็เผชิญกับข้อครหาอื้อฉาว ทั้งเรื่องจริยธรรมและละเมิดกฎหมายผลประโยชน์ทับซ้อน (Federal Conflict of Interest Act)
ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ สู่ นายกฯ แคนาดา
คาร์นีย์มีประสบการณ์อย่างยิ่งในเส้นทางอาชีพสายการเงิน-การธนาคาร โดยเขาเคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา ระหว่างปี 2008-2013 และมีบทบาทในการนำแคนาดาฝ่าฟันภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ ก่อนจะถูกดึงตัวไปรับตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ ช่วงปี 2013-2020 และมีผลงานในการพัฒนาธนาคารให้ทันสมัย ซึ่งคาร์นีย์ถือเป็นประชากรจากประเทศในเครือจักรภพ และบุคคลที่ไม่ใช่ชาวอังกฤษคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ นับตั้งแต่ก่อตั้งธนาคารกลางอังกฤษในปี 1694
คาร์นีย์ไม่เคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองเลย โดยในปี 2012 เขาเคยปฏิเสธคำเชิญ จาก สตีเฟน ฮาร์เปอร์ นายกรัฐมนตรีแคนาดาขณะนั้น ที่ต้องการให้เขารับตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง
หลังลงจากตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษในปี 2020 เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตพิเศษด้านการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศและการเงินของสหประชาชาติ และในเดือนกันยายน 2024 ทรูโดได้แต่งตั้งคาร์นีย์ให้เป็นประธานคณะทำงานด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจของพรรคลิเบอรัล
ที่ผ่านมา คาร์นีย์มีประสบการณ์มากมายในการรับมือกับแนวนโยบายของทรัมป์ โดยระหว่างปี 2011-2018 เขายังได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการเสถียรภาพทางการเงิน ซึ่งทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก ทำให้มีบทบาทสำคัญในการตอบสนองระดับโลกต่อนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ในสมัยแรก
หลังการประกาศลาออกของทรูโด คาร์นีย์ถูกจับตามองในฐานะผู้ที่ถูกวางตัวให้เป็นรัฐมนตรีคลังคนใหม่แทนฟรีแลนด์ เพื่อนสนิทของเขา ซึ่งเป็นตัวเต็งนายกรัฐมนตรีแคนาดาต่อจากทรูโด
อย่างไรก็ตาม ในการโหวตเลือกผู้นำพรรคลิเบอรัลคนใหม่ กลายเป็นคาร์นีย์ที่ชนะไปอย่างถล่มทลาย ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะเขาถูกมองว่า เป็นบุคคลที่มีความพร้อมที่มากสุดที่จะต่อกรกับมาตรการขึ้นภาษีของทรัมป์ และคำขู่ที่อยากให้แคนาดากลายเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ
เหมาะสมรับมือทรัมป์
ในการอภิปรายแสดงความเป็นผู้นำเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คาร์นีย์กล่าวว่า “ผมรู้วิธีจัดการกับวิกฤต ในสถานการณ์เช่นนี้ คุณต้องมีประสบการณ์ในแง่ของการรับมือวิกฤต คุณต้องมีทักษะในการเจรจา”
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวหลังชนะการโหวต โดยยืนยันว่ารัฐบาลใหม่ของเขา จะคงมาตรการตอบโต้ทางภาษีต่อสหรัฐฯ ไว้ จนกว่าสหรัฐฯ จะจับมือกับแคนาดา และให้คำมั่นสัญญาที่น่าเชื่อถือในการทำการค้าที่ ‘เสรีและยุติธรรม’
ภาพ: Carlos Osorio / Pool / Reuters
อ้างอิง: