×

Work-Love Balance รักให้รอด ในโลกที่งานยุ่ง

07.03.2025
  • LOADING...
Work-Love Balance คู่รักกำลังใช้เวลาคุณภาพด้วยกัน แม้จะมีตารางงานที่ยุ่งโดยเรียนรู้ภาษารักตามแนวคิดของ Dr.Gary Chapman

การที่ทุกคนต่างยุ่งกับการทำงานและมีเวลาจำกัด การเข้าใจภาษารักของคู่ครองจึงเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาสมดุลระหว่างงานและความรัก นักจิตวิทยาด้านความสัมพันธ์หลายท่านชี้ให้เห็นว่า การจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพและการสื่อสารที่ชัดเจนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ความรักยังคงงดงามแม้จะมีภาระงานมากมาย การสร้าง Work-Love Balance จึงเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ต้องเรียนรู้และฝึกฝนกันไป

 

จากหนังสือ The 5 Love Languages: The Secret to Love That Lasts โดย Dr.Gary Chapman นำเสนอแนวคิดเรื่องภาษารักที่แตกต่างกันของแต่ละคน ได้แก่ คำพูดชื่นชม (Words of Affirmation), การให้ของขวัญ (Receiving Gifts), การใช้เวลาร่วมกัน (Quality Time), การกระทำเพื่อช่วยเหลือ (Acts of Service) และการสัมผัสทางกาย (Physical Touch) วิธีเหล่านี้สามารถนำมาปรับใช้เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้ราบรื่นและมีความสุขได้ แม้จะไม่ค่อยมีเวลาให้กันมากนักก็ตาม

 

Work-Love Balance อาจเป็นอะไรที่ยากพอๆ กับ Work-Life Balance ยิ่งเราอยู่ในยุคที่ต้องทำงานหนักและมีเวลาจำกัด การรักษา Vibes ดีๆ ของความรักในคนสองคนให้ยืนยาวจึงเป็นความท้าทายสุดๆ จิตแพทย์และนักจิตวิทยาด้านความสัมพันธ์แนะนำหลักการสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างงานและความรักเอาไว้มากมาย เช่น การจัดลำดับความสำคัญเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ เราต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าอะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิต ถึงแม้งานจะเป็นส่วนสำคัญ แต่ความสัมพันธ์ก็ควรได้รับการใส่ใจไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อเวลามีจำกัด คุณภาพจึงสำคัญกว่าปริมาณ การใช้เวลาคุณภาพ (Quality Time) แม้เพียงสั้นๆ แต่เต็มไปด้วยความตั้งใจและการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ จะมีความหมายมากกว่าการอยู่ด้วยกันนานๆ แต่ต่างคนต่างทำกิจกรรมของตัวเอง

 

การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพเป็นกุญแจสำคัญ คู่รักควรพูดคุยถึงความต้องการ ความคาดหวัง และข้อจำกัดด้านเวลาอย่างเปิดเผย เพื่อให้เข้าใจและหาทางออกร่วมกัน นอกจากนี้ การเรียนรู้ภาษารักของกันและกันตามแนวคิดของ Dr.Gary Chapman ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน คนเรามีภาษารักที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นคำพูดให้กำลังใจ การสัมผัส การให้ของขวัญ การให้เวลา หรือการช่วยเหลือ การเข้าใจว่าคู่ของเรามีภาษารักแบบไหนจะช่วยให้เราแสดงความรักได้ตรงจุดแม้จะมีเวลาจำกัด

 

คู่รักควรสร้างตารางเวลาที่มีช่วงเวลาพิเศษสำหรับกันและกันโดยเฉพาะ การสร้างกิจวัตรประจำวันร่วมกันก็เป็นวิธีที่ช่วยรักษาความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี กิจกรรมง่ายๆ ที่สามารถทำด้วยกันได้ในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารเช้าด้วยกัน โทรหากันช่วงพักกลางวัน หรือนอนดูซีรีส์เรื่องโปรดด้วยกันก่อนนอน

 

ลองใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ เช่น Video Call ถึงกันสั้นๆ 5 นาทีระหว่างพักกลางวัน ส่ง GIF น่ารักๆ กด Like โพสต์ของแฟนให้รู้ว่าใส่ใจอยู่นะ หรือตอบ LINE ทันทีที่มีเวลา แม้แค่ข้อความสั้นๆ ว่า เดี๋ยวกลับมาคุยนะ ก็เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้ ขณะเดียวกันการเข้าใจและยอมรับช่วงเวลาวิกฤตของกันและกันก็สำคัญไม่แพ้กัน เมื่อแฟนต้องเจอโปรเจกต์เดดไลน์กระชั้นชิด นอกจากไม่กดดันแล้ว การส่งเมสเสจกุ๊กกิ๊กให้กำลังใจ สู้ๆ นะเธอ ก็จะทำให้ความสัมพันธ์แข็งแกร่งขึ้นมากกว่าที่คิด 

 

อย่าลืมวางเป้าหมายระยะยาวร่วมกันเป็นแรงยึดเหนี่ยวที่สำคัญ การมีเป้าหมายชีวิตร่วมกันจะช่วยให้ทั้งคู่มีแรงผลักดันในการฝ่าฟันอุปสรรคและสร้างอนาคตที่ดีด้วยกัน และท้ายที่สุด อย่าลืมให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง แบ่งเวลาดูแลสุขภาพกายและใจของตัวเอง เพราะเมื่อเรามีพลังงานที่เต็มเปี่ยม เราจะสามารถดูแลทั้งงานและความสัมพันธ์ได้ดียิ่งขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์มักเน้นย้ำว่า ความสมดุลระหว่างงานและความรักไม่ได้หมายถึงการแบ่งเวลาเท่ากันพอดี แต่หมายถึงการจัดการเวลาและพลังงานอย่างเหมาะสมตามความต้องการของทั้งสองฝ่าย การสร้างสมดุลนี้ต้องอาศัยความร่วมมือ ความเข้าใจ และการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง จึงจะทำให้ทั้งงานและความรักเติบโตไปพร้อมกันได้อย่างงดงาม

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising