×

รู้จักนักบินหญิง F-35 จากสหรัฐฯ ผู้บังคับหน่วยแสดงการบิน F-35 Demonstration Team

07.03.2025
  • LOADING...
นาวาอากาศตรี เมลานี เคลิสเนอร์ นักบินหญิง F-35 สหรัฐฯ ผู้บังคับหน่วยแสดงการบิน F-35 Demonstration Team ในชุดนักบินข้างเครื่องบิน F-35A

สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรกที่พัฒนาเครื่องบินที่เรามักจะเรียกว่าเครื่องบินล่องหน ซึ่งแปลมาจากคำว่า Stealth แต่อันที่จริงนั้น ศัพท์อย่างเป็นทางการคือเครื่องบินที่มีคุณสมบัติตรวจจับได้ยาก จากคุณลักษณะของการออกแบบที่ทำให้เรดาร์ตรวจจับได้ยากขึ้นมาก เช่น จากเรดาร์มองเห็นเป็นเครื่องบินลำใหญ่ก็อาจจะเหลือแค่นกกระจอกตัวเล็กๆ เท่านั้น เมื่อตรวจจับได้ยาก ก็ใช้อาวุธต่อต้านยากด้วยเช่นกัน เครื่องบินขับไล่โจมตีที่มีคุณสมบัติตรวจจับได้ยากลำแรกที่ใช้งานจริงก็คือ F-117 และตามมาด้วย F-22 ที่เป็นเครื่องบินขับไล่ที่สหรัฐฯ ปฏิเสธไม่ส่งออกให้ใครแม้พันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด

 

 

เครื่องบินที่มีคุณสมบัติตรวจจับได้ยากลำที่ 3 ของสหรัฐฯ ก็คือ F-35 ซึ่งเป็นโครงการการพัฒนาอาวุธที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยใช้งบในการพัฒนามากกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 1.35 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาเครื่องบิน 3 รุ่นที่ใช้งานได้ใน 3 เหล่าทัพหลักคือ F-35A รุ่นขึ้นลงจากสนามบินปกติใช้งานในกองทัพอากาศสหรัฐฯ, F-35B รุ่นขึ้นลงทางดิ่งสำหรับหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ และ F-35C รุ่นขึ้นลงจากเรือบรรทุกเครื่องบินสำหรับกองทัพเรือสหรัฐฯ และเมื่อรวมค่าใช้จ่ายในการจัดหาเครื่องบินทั้งหมด 2,500 ลำจากกองทัพสหรัฐฯ ประเทศเดียวรวมกับค่าซ่อมบำรุงไปจนถึงปี 2088 จะมีมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 67 ล้านล้านบาท

 

นอกจากการออกแบบที่ทำให้ตรวจจับได้ยากแล้ว F-35 ยังเคลือบผิวด้วยสารพิเศษที่ทำหน้าที่ดูดกลืนคลื่นเรดาร์ทำให้เรดาร์แทบไม่สามารถตรวจจับได้ นอกจากนั้นยังมีช่องเก็บอาวุธภายในลำตัวหรือ Weapon Bay เพื่อลดการถูกตรวจจับ นักบินจะใส่หมวกบินติดศูนย์เล็งที่สามารถฉายภาพเป้าหมายจากระบบตรวจจับและบังคับอาวุธได้ด้วยการมองไปที่เป้าหมาย เมื่อรวมกับระบบเรดาร์ AN/APG-81 หรือ AN/APG-85 ที่ทรงพลัง ระบบตรวจจับเป้าหมาย AN/AAQ-40 ด้วยแสงและอินฟราเรด และเครื่องยนต์ F135 ที่ทรงพลังที่สุดในโลก F-35 คือหนึ่งในเครื่องบินขับไล่ที่ดีที่สุดในโลก ที่สามารถเอาชนะเครื่องบินแบบอื่นได้ด้วยเทคโนโลยีที่เหนือกว่าหลายก้าว และเป็นนิยามของเครื่องบินยุคที่ 5 ซึ่งมีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่สามารถพัฒนาขึ้นได้หรือสามารถจัดหาเข้าประจำการได้

 

แน่นอนว่ากองทัพอากาศสหรัฐฯ ต้องการสื่อสารถึงขีดความสามารถของเครื่องบินที่เป็นกระดูกสันหลังหลักของตนเอง ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดคือการแสดงการบินที่เน้นแสดงศักยภาพและประสิทธิภาพของเครื่องบินที่ยากที่เครื่องบินแบบอื่นจะเทียบได้ ปี 2018 กองทัพอากาศสหรัฐฯ จึงจัดตั้ง F-35 Demonstration Team หน่วยบินที่มีภารกิจเฉพาะในการแสดงการบิน โดยมีฐานปฏิบัติการอยู่ที่กองบินขับไล่ที่ 388 ฐานทัพอากาศ Hill ในรัฐยูทาห์

 

F-35 Demonstration Team มีกำลังพลจำนวน 12 คน เป็นนักบินและผู้บังคับหน่วยบิน 1 คน นอกนั้นเป็นเจ้าหน้าที่สนับสนุนในด้านต่างๆ อีก 11 คน ผู้บังคับหน่วยบินและนักบินหลักในปัจจุบันคือนาวาอากาศตรี เมลานี เคลิสเนอร์ โดยมีนามเรียกขานว่า Mach 

 

หลายๆ คนมักจะเปรียบเทียบนาวาอากาศตรี เมลานีกับ ‘กัปตันมาร์เวล’ เพราะนอกจากจะเป็นสุภาพสตรีเหมือนกันแล้ว นาวาอากาศตรี เมลานียังมีผลการเรียนและการปฏิบัติงานที่โดดเด่น โดยเธอเติบโตมาในครอบครัวที่ทั้งพ่อและแม่เป็นนักบินของกองทัพอากาศสหรัฐฯ และได้แรงบันดาลใจที่แน่วแน่ในการเป็นนักบินขับไล่จากการเห็น F-16 บินผ่านในงานแข่งขันอเมริกันฟุตบอลของกองทัพสหรัฐฯ นาวาอากาศตรี เมลานีเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยจนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมอุตสาหการ พร้อมกับเรียนหลักสูตรฝึกนายทหารสัญญาบัตรของหน่วยกำลังสำรองของกองทัพอากาศสหรัฐฯ จนได้รับเกียรตินิยมและส่งให้นาวาอากาศตรี เมลานีเข้าปฏิบัติงานในกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในปี 2015

 

ตลอดระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพอากาศสหรัฐฯ นาวาอากาศตรี เมลานีมีชั่วโมงบินกับอากาศยานหลายแบบมากกว่า 1,000 ชั่วโมง โดยหลังจากจบหลักสูตรศิษย์การบินแล้ว ได้รับมอบหมายให้บินกับเครื่องบินขับไล่แบบ F-16C และต่อมาได้เปลี่ยนไปทำการบินกับเครื่องบินขับไล่ F-35B ในฐานะนักบินจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ คนแรกที่ถูกส่งไปประจำการและทำการบินกับหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ นอกจากนั้นยังเคยถูกส่งไปปฏิบัติหน้าที่ที่ฐานทัพอากาศกันซานในเกาหลีใต้และสถานีการบินนาวิกโยธินสหรัฐฯ อิวาคุนิในญี่ปุ่น ก่อนที่จะกลับมาเป็นครูการบินของเครื่องบินขับไล่แบบ F-35A ในกองทัพอากาศสหรัฐฯ และผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นที่จะตรวจสอบทั้งคุณสมบัติ ความสามารถ รวมถึงทัศนคติ จนกองทัพอากาศสหรัฐฯ เห็นว่าเหมาะสมที่จะเป็นตัวแทนของนักบิน F-35 เพื่อแสดงขีดความสามารถของเครื่องบิน F-35 กับ F-35 Demonstration Team ในเดือนมีนาคม 2024 ที่ผ่านมา

 

โดยปกติแล้ว F-35 Demonstration Team แบ่งช่วงเวลาของปีออกเป็น 3 ช่วงคือ ช่วงแรกคือฤดูกาลฝึก (Training Season) ระหว่างเดือนมกราคมจนถึงกุมภาพันธ์ ที่ทุกคนในทีมจะต้องทำการฝึกและทดสอบอย่างเข้มข้นให้แน่ใจว่าจะมีขีดความสามารถพอในการแสดง เมื่อผ่านการทดสอบแล้วก็จะเริ่มฤดูกาลแสดง (Showing Season) ที่จะทำการแสดงทั้งในและต่างประเทศ โดยในปีนี้หน่วยบินจะต้องทำการแสดงทั้งหมด 24 แห่งไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน รวมถึงทำการแสดงในเม็กซิโก และ Paris Airshow ในฝรั่งเศส

 

การแสดงในประเทศไทยในงานครบรอบ 88 ปีกองทัพอากาศถือเป็นการแสดงการบินครั้งแรกของปี 2025 และถือเป็นการมาเยือนประเทศไทยครั้งแรกของ F-35 Demonstration Team อีกด้วย

 

การแสดงการบินจะประกอบด้วยท่าทางการบินทั้งหมด 12 ท่าคือ

 

  1. Max afterburner takeoff to high-alpha half Cuban 8 (การบินขึ้นด้วยกำลังสูงสุดโดยใช้สันดาปท้ายและพลิกกลับตัวพร้อมตีลังกากลับมายังทิศทางเดิม)
  2. Weapons Bay Doors Pass (การบินผ่านโดยเปิดช่องเก็บอาวุธ)
  3. High speed to max climb (การบินผ่านที่ความสูงต่ำและไต่ขึ้นตรงๆ 90 องศาจนสุด)
  4. Min Radius turn to high alpha loop (การเลี้ยวด้วยวงเลี้ยวที่แคบที่สุดและบินขึ้นในแนวตั้งพร้อมทำลูป)
  5. Dedication Pass (การบินผ่านโดยหันด้านบนเครื่องเข้าหาผู้ชม)
  6. Inverted to inverted roll flat pass (การบินควงสว่านที่ระยะความสูงต่ำ)
  7. Pedal turn (การบังคับเครื่องให้ตกลงเหมือนใบไม้ร่วง)
  8. Square loop (การบินลูปเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส)
  9. Slow speed to split-s reposition (การบินที่ความเร็วต่ำที่สุดและเร่งเครื่องขึ้นพร้อมตีลังกากลับหลัง)
  10. Opposing rolls flat pass (การบินควงสว่านสลับด้าน)
  11. Tactical Pitch dojo drift (การบินผ่านและบังคับเครื่องเฉียงขึ้นด้านบน)
  12. Figure 8 (การบินเป็นรูปเลข 8)

 

ซึ่งท่าทางการบินที่ถือเป็นไฮไลต์ของ F-35 ก็คือท่าที่ 2 ที่นักบินจะเปิดช่องเก็บอาวุธหรือ Weapon Bay ให้ผู้ชมได้เห็นกลางอากาศเสมือนหนึ่งกำลังเตรียมใช้อาวุธ เนื่องจาก F-35 เป็นเครื่องบินขับไล่เพียงไม่กี่แบบของโลกที่มีช่องเก็บอาวุธลักษณะนี้ อีกท่าทางหนึ่งที่น่าสนใจก็คือท่าที่ 8 ซึ่งนักบินจะบินเครื่องขึ้นไปสูงจนหมดกำลังและปล่อยให้เครื่องบินตกลงมาเหมือนใบไม้ร่วงก่อนที่จะเร่งเครื่องและกลับเข้าควบคุมเครื่องบินอีกครั้ง

 

ถือได้ว่านี่คือโอกาสพิเศษที่คนไทยจะได้เห็นขีดความสามารถของเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 ที่ดีที่สุดแบบหนึ่งของโลกแสดงสมรรถนะสูงสุดของเครื่องบินและทำการบินโดยนักบินขับไล่ที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในกองทัพอากาศสหรัฐฯ ด้วยตาของตนเอง นี่จะเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากและน่าจะอยู่ในความทรงจำของผู้ได้รับชมไปอีกนาน

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising