วันนี้ (22 กุมภาพันธ์) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ระบุว่า ความร่วมมือเพื่อความปลอดภัยของประชาชนไทยและโลก ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่ซับซ้อนและส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตประชาชนไทยและประชาคมโลก
รัฐบาลตระหนักดีว่าการแก้ไขปัญหานี้ ไม่ใช่เพียงแค่การจับกุมผู้กระทำผิด แต่ต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การตัดเส้นทางปฏิบัติการของกลุ่มอาชญากร การช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกหลอกลวง ไปจนถึงการสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
เพราะปัญหาใหญ่ระดับนี้ไม่สามารถทำเพียงประเทศใดประเทศหนึ่งได้ ที่ผ่านมารัฐบาลไทยดำเนินมาตรการเชิงรุกภายใต้ความร่วมมือกับจีนและเมียนมา ผ่านแผนปฏิบัติการ ‘ตัดไฟ ตัดเน็ต ตัดน้ำมัน’ ใน 5 จุดสำคัญ เพื่อลดศักยภาพของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และสามารถสกัดกั้นขบวนการเหล่านี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม
แต่รัฐบาลไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น ผมดำเนินการประสานงานกับรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในโอกาสที่มาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และมีความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศที่จะช่วยกันปราบปรามยาเสพติด การค้ามนุษย์ และอาชญากรรมทางไซเบอร์
โดยได้เรียนให้ผู้นำทั้ง 2 ประเทศรับทราบเพื่อทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน นอกจากนั้น เพื่อป้องกันการย้ายฐานของเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้ ผมยังสั่งการให้ พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เดินทางด่วนเพื่อร่วมประชุมวางแผนกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติประเทศกัมพูชา
โดย พล.ต.อ. ธัชชัย รายงานถึงข้อสรุปจากการประชุมทั้งหมด 3 ข้อ ได้แก่
- ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป โดยมีเป้าหมายเข้าไปกวาดล้าง ตรวจค้น จับกุม ในจุดต่างๆ ที่เป็นที่ตั้งของแก๊ง โดยตำรวจไทยขอนำตัวคนไทยกลับมาลงโทษตามกฎหมายที่ประเทศไทย
- ร่วมกันช่วยเหลือคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ให้กลับคืนสู่ครอบครัวอย่างรวดเร็ว
- ให้มีการประสานงานร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อความรวดเร็วในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป
การประชุมวางแผนปฏิบัติการครั้งนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อจัดการปัญหาคอลเซ็นเตอร์ให้เด็ดขาด การแก้ไขปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเกี่ยวข้องกับทั้งกฎหมาย อาชญากรรมข้ามชาติ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
รัฐบาลภายใต้การนำของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องประชาชนคนไทยให้พ้นจากเครือข่ายมิจฉาชีพ เราลงมือทำจริง และวันนี้ผลลัพธ์เริ่มปรากฏชัดเจนว่าการแก้ไขปัญหานี้เราเดินมาถูกทาง รัฐบาลจะเดินหน้าต่อไป เพื่อให้พี่น้องประชาชนปลอดภัยจากการถูกหลอกลวง และขอให้มั่นใจได้ว่ารัฐบาลจะไม่หยุดปฏิบัติการจนกว่าปัญหานี้จะหมดไป
อ้างอิง: