วันนี้ (13 กุมภาพันธ์) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน FTI EXPO 2025 และกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ ‘จุดประกายอุตสาหกรรมไทย สร้างเศรษฐกิจใหม่นำประเทศสู่ความยั่งยืน’
นายกรัฐมนตรีระบุว่า อุตสาหกรรมเป็น 1 ใน 3 ของการผลักดัน GDP ของประเทศ แน่นอนว่าเอกชนคือผู้ที่ลงทุนและลงแรงในการหาข้อมูล ผลิตและพัฒนาคนในหลายด้าน เพื่อให้อุตสาหกรรมนี้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
แต่รัฐบาลเองก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้อุตสาหกรรมของประเทศไทยไปต่อได้ไกล ให้ทั่วโลกได้รู้ว่าหลังโควิดเราไม่ได้หายไปไหน เรายังแข็งแรงเหมือนเดิม และพร้อมที่จะเป็นแหล่งของการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม ผลิตคนพัฒนาต่อยอดได้อีก
เมื่อเอกชนกับรัฐบาลทำงานร่วมกัน เราจะสามารถต่อยอดอุตสาหกรรมไปได้อย่างเข้มแข็ง จากนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาว่าเราจะวางนโยบายยุทธศาสตร์และพัฒนาภาคอุตสาหกรรมในหลายมิติ ยกระดับฐานการผลิต เพื่อให้การผลิตของเรามีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับต่อทั่วโลก รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าและบริการ สร้างความแตกต่างให้กับประเทศไทยของเราให้การผลิตสินค้า Made in Thailand เป็นที่ได้มาตรฐานกับทั่วโลก สิ่งนี้จะสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ เพราะ SMEs ของเรามีมากถึง 75% ของประเทศ
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า รัฐบาลมีนโยบายหลักในการพัฒนา SMEs ให้ได้มากที่สุด ทั้งการปรับแก้กฎหมายที่มีมานานและกฎหมายที่ซ้ำซ้อนกันมากเกินไป หรือยกเลิกใช้ในบางอย่าง เพื่อเปิดช่องทางให้ SMEs ของไทยมีโอกาสเพิ่มการลงทุน เพิ่มศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยเตรียมตั้งทีมที่จะดูในเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนและเปิดโอกาสให้กับคนไทย
นอกจากนี้รัฐบาลจะพัฒนา AI ให้เติบโตไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มั่นใจว่าจะแล้วเสร็จในไม่ช้า
“วันนี้เรามาถึงยุคที่เวลาหมุนไปเรื่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ ประเทศไทยมีคนที่มีศักยภาพอีกเยอะ เราพร้อมที่จะสนับสนุนคนไทยเพื่อเพิ่มสกิล ดิฉันมั่นใจเมื่อรัฐบาลและเอกชนทำงานร่วมกัน เราจะสามารถพัฒนาทั้งคนและพัฒนาอุตสาหกรรมให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างเข้มแข็ง เมื่ออุตสาหกรรมนี้ถูกพัฒนาอย่างยั่งยืนและเศรษฐกิจถูกกระตุ้น ประเทศไทยจะมีกินมีใช้” นายกรัฐมนตรีกล่าว
