Mr.Sunshine ประวัติศาสตร์ การเมือง เรื่องรัก ซีรีส์โรแมนติกดราม่าเกาหลีแห่งปีที่ทุกคนรอคอย

ในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ Mr.Sunshine (สุภาพบุรุษตะวันฉาย) ซีรีส์เรื่องยิ่งใหญ่แห่งปี ผลงานจากผู้สร้าง Descendants of the Sun และ Goblin จะออกอากาศเป็นวันแรก โดย Netflix ได้ซื้อลิขสิทธิ์เพื่อออกอากาศมากกว่า 190 ประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทยจะออกอากาศในวันเดียวกับเกาหลีใต้ เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย

THE STANDARD เดินทางไปสัมภาษณ์นักแสดงและร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ที่ Patio ย่านกังนัม กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ภายในงานมีนักข่าวนับพันคนมาร่วมงานสมศักดิ์ศรีซีรีส์แห่งปี นอกจากทีมนักแสดงทั้ง 5 คน อีบยองฮอน, ​คิมแทรี, ยูยอนซอก, คิมมินจอง และบยอนโยฮัน ผู้กำกับซีรีส์เรื่องนี้ อีอึงบก ได้เดินทางมาร่วมงานด้วย ขาดก็แต่เพียง คิมอึนซุก ผู้เขียนบท ที่ติดภารกิจจนไม่ได้มาปรากฏตัว

อีอึงบกดูจะเป็นคนค่อนข้างพูดน้อย พิธีกรออกตัวให้ก่อนเลยว่าเขาค่อนข้างขี้อาย แต่หลังจากที่พิธีกรขอเซลฟีร่วมกับผู้กำกับและทีมนักแสดงแล้ว อีอึงบกก็เริ่มเล่าถึงการทำงานในซีรีส์ Mr.Sunshine ที่เขาและทีมงานเตรียมงานกันร่วมปี

“ผมยินดีมากที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงชุดนี้ โดยเฉพาะอีบยองฮอนที่ตกลงรับแสดงตั้งแต่แรก Mr.Sunshine เป็นซีรีส์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เกาหลีซึ่งแตกต่างไปจากซีรีส์หลายเรื่องก่อนหน้านี้ เพราะโดยทั่วไปจะย้อนไปเล่าเรื่องราวในปี 1930 แต่ผมย้อนกลับไปลึกกว่านั้นในยุคโชซอน ปี 1905 ซึ่งยังไม่ค่อยมีคนทำมากนัก และไม่ค่อยมีข้อมูลอะไรเหลือให้ใช้อ้างอิงถึง การทำงานก็เลยใช้เวลาค่อนข้างมากเพื่อลงรายละเอียดให้ใกล้เคียงของจริงที่สุด

“ซีรีส์เรื่องนี้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เกาหลีก็จริง แต่ผมเชื่อว่าคนดูที่ไม่ได้มีพื้นฐานในเรื่องนี้จะเข้าใจได้ มันมีสิ่งที่ทุกคนเข้าใจตรงกันได้คือความยุติธรรมและความหลังเกี่ยวกับสงคราม ถึงแม้ว่าคนดูในประเทศอื่นๆ จะมีประวัติศาสตร์ที่ไม่เหมือนกัน แต่ความรู้สึกของทหารในแต่ละประเทศน่าจะไม่ต่างกัน”

Mr.Sunshine เล่าเรื่องราวช่วงปี 1905 หรือในช่วงชินมิยังเกียว (Shinmiyangyo) ที่ทหารอเมริกันเข้ามาแผ่นดินเกาหลี เมื่อเด็กผู้ชายในครอบครัวคนรับใช้ได้หนีชีวิตที่โหดร้ายไปพร้อมกับเรือรบอเมริกัน เขาใช้ชีวิตในต่างแดนราว 30 ปี กลายเป็นคนอเมริกันโดยสมบูรณ์ ก่อนจะกลับมาแผ่นดินเกิดอีกครั้งในฐานะทหารประจำกองทัพเรือสหรัฐฯ และแล้วโชคชะตาก็พาให้เขาตกหลุมรักหญิงสาวจากตระกูลสูงศักดิ์ท่ามกลางปัญหาหลากหลาย เขาได้เห็นถึงแผนการร้ายในการปกครองประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นแผ่นดินเกิดของเขา

นักแสดงในซีรีส์เรื่องนี้นำทีมโดย อีบยองฮอน นักแสดงฝีมือดีที่เคยรับบท สตอร์ม ชาโดว์ ในภาพยนตร์เรื่อง G.I. Joe ถึง 2 ภาค และบท ฮันโชไบ ในภาพยนตร์เรื่อง Red 2, คิมแทรี ที่โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง The Handmaiden เธอจะมาแสดงซีรีส์โทรทัศน์เป็นครั้งแรก ร่วมด้วย ยูยอนซอก, คิมมินจอง และบยอนโยฮัน

ตัวอย่างซีรีส์ Mr.Sunshine

THE STANDARD ร่วมสัมภาษณ์ทีมนักแสดงหลักของซีรีส์ Mr.Sunshine ในช่วงก่อนการแถลงข่าวจะเริ่มต้น หลากหลายคำตอบแสดงให้เห็นว่าพวกเขาทุ่มเทเพื่อการแสดงในซีรีส์เรื่องนี้ และมีหลายแง่มุมที่น่าเชื่อว่าซีรีส์โรแมนติกดราม่าย้อนยุคครั้งนี้จะกลายเป็นปรากฏการณ์อย่างแน่นอนเมื่อออกอากาศ

คุณเล่นซีรีส์เรื่องล่าสุด Iris ในปี 2009 เรียกได้ว่าห่างหายจากวงการโทรทัศน์ไปถึง 9 ปี อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณกลับมารับเล่นซีรีส์เรื่องนี้

อีบยองฮอน: ที่ผ่านมาผมไปอินกับการเล่นหนัง แต่ไม่เคยปิดตัวกับซีรีส์นะ แล้วพอได้บทเรื่องนี้มาก็ตื่นเต้น เพราะเป็นตัวละครที่กลายเป็นคนต่างชาติไปเลย คาแรกเตอร์ตัวละคร ยูจีน ชเว เป็นคนเย็นชา จนได้มาเจอ โกแอชิน นางเอกของเรื่อง ก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปทำให้เขาอยากปกป้องคนอื่น บทนี้มันดึงดูดผมมากๆ เพราะที่ผ่านมาผมก็รองานดีๆ อยู่แล้ว พอมีบทนี้เข้ามาผมก็ตัดสินใจได้ทันที ยิ่งเป็นงานของผู้กำกับและผู้เขียนบทคู่นี้ผมยิ่งไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ถึงจะเป็นการทำงานร่วมกันครั้งแรก แต่ผมคิดว่าทั้งคู่มีการทำงานที่แตกต่างไปจากที่ผมเคยทำงานด้วยก่อนหน้านี้ ทั้งมุมมองและไอเดียใหม่ๆ

อีบยองฮอน รับบท ยูจีน ชเว

เมื่อนายจ้างทำร้ายพ่อแม่ของยูจีน ชเว จนเสียชีวิตต่อหน้าต่อตา เด็กชายวัย 9 ขวบจึงหนีไปบนเรือ Western Goblins ที่พาเขาไปสหรัฐอเมริกา และใช้ชีวิตที่นั่นจนเติบโตเป็นผู้ชายที่ไม่รู้ว่าแผ่นดินไหนคือบ้านที่แท้จริง เขาต่อสู้อย่างยากลำบากจนกลายเป็นคนเชื้อสายเอเชียเพียงคนเดียวในกองทัพนาวิกโยธินสหรัฐฯ และเปลี่ยนชื่อเป็นยูจีน ชเว เขาเดินทางกลับมาเกาหลีเพียงเพื่อปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ เพราะสำหรับเขาแล้ว แผ่นดินโชซอนเต็มไปด้วยฝันร้ายที่หลอกหลอนมาตลอด แน่นอนว่าเขาไม่รู้หรอกว่าจะได้พบกับ โกแอชิน ผู้หญิงที่ทำให้เขากลับมามีหัวใจอีกครั้ง

คิมแทรี คุณตัดสินใจรับงานนี้ได้อย่างไร เมื่อได้มาร่วมทำงานกับพระเอกฝีมือดีอย่างอีบยองฮอนแล้วเป็นอย่างไรบ้าง

คิมแทรี: Mr.Sunshine เป็นซีรีส์โทรทัศน์เรื่องแรกของฉันค่ะ และเป็นครั้งแรกที่ได้ทำงานกับผู้กำกับและผู้เขียนบทสองท่านนี้ ในการทำงานก็สบายใจมากๆ เพราะทั้งคู่ปล่อยให้ฉันแสดงได้อย่างเต็มที่แล้วยังช่วยเหลือทุกอย่างอีกด้วย

ส่วนการทำงานกับรุ่นพี่อีบยองฮอน มีคนถามเยอะเลยค่ะว่ากดดันไหม แต่ฉันกลับคิดว่าเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับรุ่นพี่ เพราะเขาให้คำแนะนำและเป็นกันเองมากๆ แล้วยังเป็นคนสร้างบรรยากาศเฮฮาในกองถ่ายด้วย การได้ทำงานกับนักแสดงที่เก่งมากๆ นับเป็นโชคดีของฉัน เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่ารุ่นพี่อีบยองฮอนมีความสามารถและประสบการณ์มากมาย เวลาได้แสดงร่วมกันฉันก็เรียนรู้สิ่งต่างๆ จากเขาด้วย

อีบยองฮอน: ผมทำงานกับนักแสดงมามากมาย แต่การทำงานกับคิมแทรีแตกต่างไป ผมเองยังตกใจกับการแสดงของเธอมากเลย ถึงแม้ว่าอายุหรือวัยของเราจะต่างกัน แต่ในเรื่องการแสดงนั้นไม่เกี่ยวเลย เธอแสดงออกถึงความรู้สึกได้ดี เชื่อมั่นในตัวเอง ถ้าไม่บอกผมจะไม่รู้เลยว่าเธอเป็นนักแสดงหน้าใหม่ เพราะฝีมือของเธอไปไกลกว่านั้นมาก

คิมแทรี รับบท โกแอชิน

หญิงสาวอายุ 29 ปีจากตระกูลสูงศักดิ์ของโชซอน ตามปกติผู้หญิงโชซอนที่อายุเกิน 15 ปีแล้วยังไม่ได้แต่งงานนับว่าเป็นสาวแก่ แต่กรณีของเธอเป็นเพราะผู้ใหญ่หมั้นหมายกับ คิมฮีซอง ไว้ให้ตั้งแต่อายุ 15 ปี เพียงรอคอยให้เขากลับมาจากเรียนที่ญี่ปุ่น ด้วยความเป็นผู้หญิงที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้โชคชะตา เธอจึงเริ่มเรียนรู้ในสิ่งที่ต่างไปจากผู้หญิงโชซอนคนอื่นๆ ด้วยการฝึกใช้ปืนและฝึกฝนจนกระสุนทุกนัดไม่เคยพลาดเป้าหมาย

“ผมชอบฉากที่ยูจีน ชเว พบกับโกแอชินครั้งแรกบนหลังคา มันค่อนข้างใหม่และแปลกแหวกแนวที่เราต่างปิดบังใบหน้า มองเห็นแต่ตา แล้วเล็งปืนเข้าหากัน ผมว่าฉากนี้สะท้อนให้เห็นความตึงเครียดของตัวละครได้ดี” – อีบยองฮอน

อยากให้ยูยอนซอกเล่าถึงตัวละครของคุณหน่อย เขามีเสน่ห์อย่างไรบ้าง

ยูยอนซอก: เรื่องนี้คาแรกเตอร์ของ กูดงแม เป็นคนที่เจ็บปวด เย็นชา ไม่มีหัวใจ ชีวิตเขาเต็มไปด้วยความเศร้า พอได้บทนี้มามันท้าทายมาก เพราะตัวละครผมมีเงินเยอะที่สุดรองจากกษัตริย์ ผมสู้เพื่อโกแอชิน ทำเพื่อผู้หญิงที่รักได้ทุกอย่าง แม้รู้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน การที่ผมรู้แบบนี้แต่ยังทำมันเพื่อเธอก็น่าจะเป็นเสน่ห์ของตัวละครนี้

ที่ผ่านมาคุณรับบทที่รักเขาข้างเดียวมาตลอด ในซีรีส์ Mr.Sunshine ก็ยังเป็นความรักฝ่ายเดียวที่ดูดราม่าหนักมาก อยากให้เล่าถึงความแตกต่างในบทนี้

ยูยอนซอก: บทอื่นๆ ที่เคยแสดงมาจะเป็นบทโรแมนติกที่แฟนๆ หลายคนชอบ เป็นผู้ชายที่ดูนุ่มนวลกว่านี้ แต่การมารับบทกูดงแมใน Mr.Sunshine จะเป็นอีกแบบหนึ่งเลย ถึงจะเป็นบทที่รักในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เหมือนกันก็ตาม วิธีการสื่อสิ่งที่อยู่ในใจออกมาค่อนข้างจะยากและแตกต่างจากเรื่องที่ผ่านๆ มา เพราะกูดงแมเป็นตัวละครที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อโกแอชิน ฆ่าใครก็ได้ ไม่กลัวอะไรเลยแม้กระทั่งความตาย ทั้งท่าทางและสายตาที่ต้องแสดงออกมา ซึ่งผมก็ต้องคิดเยอะมากว่าจะสื่อสารมันออกมาอย่างไรดี

ยูยอนซอก รับบท กูดงแม

ชีวิตวัยเด็กที่ทุกข์ระทม ลูกชายคนขายเนื้อที่ถูกทุบตีเหมือนสัตว์ตัดสินใจติดตามกลุ่มขอทานหนีออกจากโชซอน เร่ร่อนไปจนถึงญี่ปุ่น และไปเข้าตาสมาชิกระดับสูงขององค์กร Gen’yosha กูดงแมเรียนรู้การใช้ดาบตั้งแต่อายุ 10 ขวบและฝึกฝนจนเป็นนักฆ่าที่เชี่ยวชาญ เช่นเดียวกัน กูดงแมไม่เรียกตัวเองว่าเป็นคนโชซอนหรือคนญี่ปุ่น แต่เรียกตัวเองว่าเป็น Gen’yosha จนได้รับชื่อใหม่ว่า อิชิดะ โช เขาอุทิศทั้งชีวิตให้กับองค์กรนี้ และยอมกลับไปโชซอนอีกครั้งเพื่อขยายอำนาจขององค์กรจนได้พบกับ โกแอชิน ผู้หญิงที่ทำให้ชายผู้ไร้หัวใจยอมทำทุกอย่างเพื่อความรัก

แล้วบยอนโยฮันล่ะ บทที่คุณได้รับเป็นอย่างไรบ้าง

บยอนโยฮัน: บทที่ได้รับเป็นเพลย์บอย ซึ่งก็จะอินกับแฟชั่นมากๆ เสื้อผ้าจะดูเทรนดี้มากกว่าตัวละครอื่นๆ เขาเป็นคนมีฐานะ มีอำนาจ แต่ตัวละครของผมก็จะไม่ใช้สิ่งเหล่านี้มาทำเรื่องไม่ดี ซึ่งเป็นเสน่ห์ของคาแรกเตอร์นี้ครับ

เรื่องนี้ผมต้องไว้หนวดด้วย จริงๆ เมื่อ 2 ปีที่แล้วผมก็เคยรับบทที่ไว้หนวดมาแล้วนะครับ แต่ตอนนั้นติดหนวดปลอม พอมาเรื่องนี้ผมต้องไว้หนวดไว้ เคราจริง มันทำให้คาแรกเตอร์ผมเปลี่ยนไปเลย อย่างที่เห็นชัดๆ ก็คือพอไว้หนวดแล้วผมคิดว่าผมใช้ดาบเก่งขึ้นมากนะ (หัวเราะ)

บยอนโยฮัน รับบท คิมฮีซอง

ชื่อคิมฮีซองแปลว่าดวงดาวที่กำลังส่องแสง เขาคือชายหนุ่มผู้ร่ำรวย เจ้าเสน่ห์ เพลย์บอยที่ข้างกายไม่เคยขาดผู้หญิง เขาเดินทางกลับโชซอนหลังจากไปศึกษาที่ญี่ปุ่น 10 ปี อันเป็นการถ่วงเวลาเพื่อไม่ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่จัดเตรียมไว้ให้ แต่กว่าเขาจะได้เจอโกแอชิน (คู่หมั้น) ก็สายไปแล้ว เมื่อเธอไม่เหลือพื้นที่ในหัวใจให้ใครได้อีก

คิมมินจองเป็นนักแสดงที่มาร่วมงานหลังจากที่แคสต์นักแสดงคนอื่นไว้หมดแล้ว อยากให้เล่าถึงตัวละครของคุณหน่อย

คิมมินจอง: ตอนอ่านบท บอกตรงๆ ว่าฉันไม่ได้ตื่นเต้นกับบทแบบนี้มาเป็นสิบปีแล้ว และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้มาร่วมแสดงซีรีส์หลังจากที่เริ่มถ่ายทำกันไปแล้ว ฉันรับบทเป็น คุโด ฮินะ ผู้หญิงที่โชคชะตาไม่ดีนัก บทที่ได้รับค่อนข้างซีเรียสและหนักมาก เพราะฮินะเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเอง แข็งแกร่ง มีพลังอำนาจ ทั้งๆ ที่ในยุคนั้นผู้หญิงไม่ค่อยมีอำนาจกันเท่าไร อีกอย่างหนึ่งที่ยากมากๆ คือเรื่องทรงผมและการแต่งตัว เพราะคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับบทที่แต่งตัวสวยเต็มยศตั้งแต่หัวจรดเท้า และที่แน่ๆ แฟชั่นการแต่งตัวทำให้คาแรกเตอร์ตัวละครชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ

ดูเหมือนว่าบทของผู้หญิงในซีรีส์เรื่องนี้สะท้อนความเป็นนักสู้และความแข็งแกร่งชัดเจนมาก บทของคิมมินจองก็เป็นนักสู้ไม่แพ้กัน คุณตีความตัวละครนี้อย่างไรบ้าง

คิมมินจอง: บทที่ได้รับมันมีความซับซ้อนหลายอย่าง ตอนที่ศึกษาบทฉันก็อยากสื่อคาแรกเตอร์ของตัวละครนี้ที่มีหลายมุม เพราะฉันเชื่อว่าตัวละครหนึ่งๆ ไม่ได้มีนิสัยแค่อย่างเดียว ข้างนอกเธออาจจะเป็นแบบหนึ่ง แต่ข้างในอาจจะเป็นอีกแบบหนึ่ง ฮินะเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง มีอำนาจ แต่ความรู้สึกภายในค่อนข้างนิ่มนวล ซึ่งต้องทำการบ้านพอสมควรเพื่อให้แสดงแล้วสื่อออกมาได้ทั้งสองมุมและสองบุคลิกของตัวละคร

คิมมินจอง รับบท คุโด ฮินะ

หญิงสาวที่ถูกพ่อขายให้กับเศรษฐีชราชาวญี่ปุ่น ฮินะเลือกเก็บความรู้สึกไว้ ไม่ร้องไห้ออกมา 5 ปีหลังจากนั้นสามีก็เสียชีวิตลง ส่งให้ฮินะกลายเป็นหญิงม่ายผู้ร่ำรวย ได้รับมรดกเป็นโรงแรมกลอรี ทุกๆ คืนเธอเฝ้ามองแขกคนสำคัญมาที่โรงแรม สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอรู้ว่าประเทศกำลังถูกจักรวรรดินิยมฉีกเป็นชิ้นๆ และถ้าพูดเรื่องความรัก เธอหวังว่ายูจีน เชว จะมีใจให้เธอบ้าง แต่สายตาของเขากลับมีให้แต่หญิงอื่น

ด้วยความที่ซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อนและเกี่ยวกับประวัติศาสตร์หลายประเทศ รวมทั้งฉากแอ็กชันท่ามกลางสงคราม พวกคุณเตรียมตัวอะไรกันบ้างเพื่อแสดงซีรีส์เรื่องนี้

อีบยองฮอน: พอได้รับบทนี้ ผมทำการบ้านในเรื่องของมุมมอง ความคิด พฤติกรรม พยายามนึกถึงผ่านมุมมองที่ตัวละครไม่ได้เป็นคนเกาหลีแล้ว แต่เป็นเด็กชายเกาหลีที่หนีจากบ้านเกิดเมืองนอนไปอเมริกา 30 ปีและกลับมาในฐานะทหารอเมริกัน ในบทผมเป็นอเมริกันอย่างแท้จริง เพราะเติบโตที่นั่น ความคิดต่างๆ ก็ถูกหล่อหลอมให้กลายเป็นอเมริกันไปแล้ว แม้ว่าจะมีเลือดของเกาหลีอยู่ในร่างกายก็ตาม

คิมแทรี: ฉันเรียนรู้อะไรหลายอย่างมากเพื่อบทบาทนี้ ทั้งเรื่องเทคนิค การต่อสู้ด้วยปืน การถือปืน การโหลดกระสุน ไปจนถึงประเพณีเก่าแก่อย่างการเขียนตัวอักษรเกาหลีโบราณ เพราะบทของฉันเป็นลูกสาวของตระกูลสูงศักดิ์

ยูยอนซอก: ตัวละครผมต้องพูดภาษาญี่ปุ่นด้วย การพูดภาษาญี่ปุ่นก็ว่ายากแล้ว การที่ต้องสื่อสารความรู้สึกเข้าไปในการพูดภาษาญี่ปุ่นด้วยมันยิ่งยากมากขึ้นกว่าเดิม

อีกอย่างคือการฝึกดาบซามูไร ผมเคยรับบทที่ใช้มีดมาแล้ว แต่การรับบทซามูไรใช้ดาบแบบคนญี่ปุ่นก็เป็นครั้งแรก ผมศึกษาจากยูทูบ ดูหนังญี่ปุ่นด้วยว่าเขาใช้ดาบซามูไรกันอย่างไร วิธีถือ วิธีฟันต่างๆ การเก็บดาบ ต้องศึกษาเยอะครับ

ทาง Netflix ได้ซื้อลิขสิทธิ์ Mr.Sunshine ไปออกอากาศมากกว่า 190 ประเทศทั่วโลก คุณคิดว่าคนที่ไม่ได้รู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เกาหลีจะเข้าใจและอินกับมันได้ไหม

อีบยองฮอน: ถ้าคุณดูซีรีส์เรื่องนี้ มันเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ การเมืองโชซอน ซึ่งเป็นยุคมืดของเกาหลี แต่ละตัวละครเป็นนักสู้ ซึ่งมันมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ทั้งรักกัน เกลียดกัน ซีรีส์เรื่องนี้เป็นการบอกเล่าเรื่องราวความรักที่เจ็บปวดซึ่งอยู่บนพื้นฐานของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้น เป็นความเชื่อมโยงที่คนในหลายๆ ประเทศจะเข้าใจเรื่องราวได้ เพราะเราทุกคนล้วนต้องทำเพื่อปกป้องประเทศตัวเอง