วันนี้ (20 มกราคม) ช่างภาพข่าว THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศประชาชนระหว่างเดินทางไปทำงานในเช้าวันจันทร์ หลังจากที่กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือให้หน่วยงานรัฐบาลและเอกชนใช้มาตรการ Work from Home (WFH) เนื่องจากคาดการณ์ว่าสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ของกรุงเทพฯ ในวันจันทร์และอังคารที่ 20-21 มกราคมนี้ จะเข้าเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
พบว่าตามสถานีรถไฟฟ้ากลางเมืองยังมีประชาชนเดินทางไปทำงานกันอย่างหนาแน่น เพียงแต่ที่แตกต่างจากวันอื่นๆ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาคือผู้คนส่วนมากสวมหน้ากากอนามัยกันมากขึ้น
ขณะที่ข้อมูลล่าสุดวันนี้จากศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ระบุว่า สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพจำนวน 70 พื้นที่ โดย 5 อันดับเขตที่มีฝุ่นสูงสุด ได้แก่
- เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81: มีค่าเท่ากับ 73.0 มคก./ลบ.ม.
- เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล: มีค่าเท่ากับ 68.2 มคก./ลบ.ม.
- เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา: มีค่าเท่ากับ 67.5 มคก./ลบ.ม.
- เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก: มีค่าเท่ากับ 67.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม (ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย: มีค่าเท่ากับ 66.4 มคก./ลบ.ม.
อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนที่ไม่สามารถ WFH ได้ หรือมีความจำเป็นต้องออกจากบ้านอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ กรุงเทพมหานครขอให้ระมัดระวังและดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก หญิงตั้งครรภ์ คนชรา ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคภูมิแพ้ โรคปอด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไตเรื้อรัง ฯลฯ ควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งและตลอดเวลาที่ออกนอกอาคาร
รวมถึงจำกัดระยะเวลาในการอยู่นอกอาคาร อย่างไรก็ตาม ควรงดทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมากหรือเป็นเวลานาน และต้องสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
หากใครประสงค์จะร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนกับกรุงเทพมหานครได้ผ่าน https://bit.ly/3Nn25nR?r=qr ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร โทร. 0 2203 2951