×

คลังเดินหน้า-กฤษฎีกาเห็นแย้ง ปมเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จับตาอนาคตนโยบายนี้

โดย THE STANDARD TEAM
13.01.2025
  • LOADING...
เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

เป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร สำหรับการนำเอาสิ่งผิดกฎหมายใต้ดินขึ้นมาบนดิน ไม่ว่าจะเป็นการพนันออนไลน์ รวมไปถึงความพยายามที่จะทำให้มีการเล่นการพนันอย่างถูกกฎหมายได้ ภายใต้แนวคิดสถานบันเทิงครบวงจรที่เรียกว่ากฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

 

ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับปมร้อนดังกล่าว ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (13 มกราคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีข้อท้วงติงใน 6 ประเด็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบกิจการสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในวันนี้ว่า จะไม่ถอนร่างดังกล่าว ซึ่งในที่ประชุมก็คงพูดคุยกันหลังจากกระทรวงการคลังได้หารือ ซึ่งมีเหตุผลและความจำเป็นเพื่อแข่งขันกับประเทศอื่น แต่สิ่งที่ต้องกำกับ เช่น เกมรูมหรือความสนุกสนาน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนน้อย ยืนยันว่ารายได้มาจากส่วนอื่นมากกว่า เช่น โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียง และหากสถานที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมก็จะเกิดการจ้างงาน

 

เมื่อถามว่านอกจากคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ไม่เห็นด้วยแล้ว มีหน่วยงานอื่นอีกหรือไม่ พิชัยระบุว่า ไม่มีใครที่ไม่เห็นด้วยในเชิงของหลักการ เกือบจะ 90% ที่เห็นด้วยทั้งหมด แต่ทุกคนมีข้อสังเกตที่ตรงกับลักษณะงานที่ตัวเองดูแลอยู่อย่างเรื่องคาสิโน ที่กลัวคนไทยและเด็กอายุไม่ถึง 20 ปี เข้าไปเล่น ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังต้องรับไว้ว่าจะต้องกำกับอย่างไร ซึ่งรัฐบาลไม่ได้สนับสนุน เพราะสิ่งที่รัฐบาลต้องการคืออยากให้ต่างประเทศเข้ามาใช้เงินมากกว่า

 

ไม่ได้เอาท่องเที่ยวมาบังหน้า

ส่วนสาเหตุที่ไม่ไปแก้ไขกฎหมายการพนันโดยตรงนั้น พิชัยยืนยันว่าไม่ได้เอาการท่องเที่ยวมาบังหน้า แต่หลายๆ อย่างเป็นเรื่องของเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และรายได้ที่มาจากคาสิโนเป็นส่วนน้อย

 

พิชัยยังยกตัวอย่างห้างสรรพสินค้าหนึ่งห้างที่ทุกวันนี้คนไปเดินห้างไม่ได้ไปซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว เพราะทุกคนมีการปรับตัวหมด ในห้างสรรพสินค้ามีบริการที่หลากหลาย แต่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์คือภาพขนาดใหญ่ ต้องดูแลองค์ประกอบให้ไปในทิศทางเดียวกันด้วย จึงต้องออกกฎหมายมากำกับดูแล

 

พร้อมย้ำว่ากฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของกระทรวงการคลัง และกฎหมายการพนันออนไลน์ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกำลังจะศึกษาเป็นคนละเรื่องกัน

 

เอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ต้องยึดหลักกฎหมาย

ด้าน ปกรณ์​ นิลประพันธ์​ เลขาคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกระแสข่าวว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาทักท้วงร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ ที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาในวันนี้ว่า ไม่ได้​ไม่เห็นด้วย แต่หลักในการทำกฎหมายของรัฐบาลจะต้องยึดนโยบายของรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งจะต้องไปดูคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

 

โดยจะไปดู Man​-​Made​ Destination หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น ที่จะมีตั้งแต่สวนสนุกอื่นๆ และเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​เข้าไปอยู่ในนั้น แต่กฎหมายที่กระทรวงการคลังร่างขึ้นใช้ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก ซึ่งพูดถึงเฉพาะเรื่องของเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​และการแก้ไขปัญหาการพนัน ฉะนั้นจึงแคบกว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องการ

 

ไม่ช่วยแก้ปัญหาพนันโดยตรง

คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงมีความเห็นว่านโยบายของรัฐบาลกว้างกว่า ดังนั้นถ้าจะเป็น​ Man​-​Made​ Destination ควรจะเขียนให้กว้างขึ้นเพื่อความครอบคลุม รวมถึงมีข้อสังเกตเรื่องเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ที่ในรายงานศึกษาของสภาผู้แทนราษฎร​มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาการพนัน แต่คณะกรรมการกฤษฎีกามองว่าการสร้างเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ไม่ได้แก้ไขปัญหาการพนันโดยตรง ถ้าอยากแก้ไขปัญหาการพนันโดยตรงต้องไปแก้ไขที่อื่น

 

เช่น นิสัยของคน พฤติกรรมของคนที่ชอบเล่นการพนัน ซึ่งก็มีกฎหมายการพนันอยู่แล้ว จึงต้องเอาให้ชัดว่าร่างกฎหมายนี้ต้องการบรรลุวัตถุประสงค์อะไร ค่อยเสนอ ครม. ให้พิจารณาว่าจะเน้น Man​-​Made​ Destination หรือจะเน้นเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ ไม่อย่างนั้นก็ร่างไม่ถูก เพราะกระบวนการกลไกต่างกัน

 

ขณะเดียวกัน ปกรณ์​ยังระบุอีกว่า​ ถ้าเน้น Man​-​Made​ Destination จะเป็นเหมือนรีสอร์ตขนาดใหญ่ มีทั้งสนามกอล์ฟ สถานบันเทิง ที่เจอในต่างประเทศ มีที่พักสำหรับครอบครัวและมีกิจกรรมของแต่ละคน มีสวนสนุกและสวนน้ำสำหรับเด็ก สุภาพสตรีมีศูนย์การค้า ขณะที่ผู้ชายจะมีกีฬา ในส่วนของการพนันมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าต้องการเช่นนี้จริงๆ ต้องขยายขอบของกฎหมายให้ครอบคลุม จึงเสนอไปยัง ครม. ขอให้เอาให้ชัดก่อน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้กระโดดขวางเหมือนที่สื่อบางสำนักพาดหัวไว้

 

แค่ปรับแก้ เชื่อนโยบายเดินหน้าต่อได้

เมื่อถามว่าในกรณีที่ขัดกับนโยบายของรัฐบาลจะถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ปกรณ์​อธิบายว่า เรื่องนี้ไม่ถือว่าขัด แต่เป้าหมายของรัฐบาลที่จะทำ​ หากเป็น ​Man​-​Made​ Destination ที่จะเป็นการดึงดูดการท่องเที่ยวก็อยู่ในนโยบายที่เห็นชัดเจน

 

เมื่อถามว่าจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับสังคมให้ดีก่อนหรือไม่ ไม่ใช่การหมกเม็ดเข้าที่ประชุม ครม.​ ปกรณ์ระบุว่า ตนไม่ได้บอกว่าหมกเม็ด แค่บอกว่าร่างกฎหมายกับกลุ่มเป้าหมายยังไม่ชัด​ จึงอยากให้ถาม ครม. ว่าจะเอาอย่างไรแน่ แล้วมาคุยกับสังคมให้ชัด ซึ่งก็ทำได้เหมือนกัน ไม่มีปัญหาอะไร

 

หากวันนี้มีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. คณะกรรมการกฤษฎีกาก็จะไปร่างกฎหมายให้ตรงกับวัตถุประสงค์ตามนโยบายที่รัฐบาลต้องการ สามารถดำเนินนโยบายนี้ได้ ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไว้อยู่แล้ว จึงไม่มีประเด็นปัญหาเรื่องนโยบาย และสภารับรู้แล้วว่าจะมีเรื่อง ในวันนี้ถ้าหลักการและเป้าหมายชัดเจนก็เดินหน้าได้ ไม่มีประเด็นอะไรเลย ขออย่าไปพาดหัวกันเสียจนตนจะถูกย้ายออกจากเก้าอี้แล้ว

 

ขณะเดียวกัน ปกรณ์​ยังกล่าวถึงกรณีตั้งข้อสังเกตแต่งตั้ง​ ณัฐวุฒิ​ ใสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี สามารถทำได้หรือไม่ เนื่องจากณัฐวุฒินั้นถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี ​ว่า​ คณะกรรมการกฤษฎีกาได้วินิจฉัยไปแล้ว ขอให้สื่อมวลชนไปศึกษาดูความเห็นว่าตรงตามที่มีการวินิจฉัยไว้แล้วหรือไม่​

 

กฎหมายแก้พนันออนไลน์ไม่เกี่ยวเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

ขณะที่ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ยืนยันว่าการออกกฎหมายแก้ปัญหาการพนันออนไลน์ไม่เกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งร่างของดีอีเน้นไปที่การแก้ปัญหาการพนันออนไลน์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ อยู่ในช่วงรับฟังที่ความคิดเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

ส่วนการรับฟังความคิดเห็นอาจได้ข้อสรุปว่าจะไม่ทำให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมายด้วยใช่หรือไม่นั้น ประเสริฐกล่าวว่า ยังไม่อยากไปไกลขนาดนั้น แต่รัฐบาลเห็นว่าเรื่องนี้อาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติ สังคม และเศรษฐกิจได้ จึงต้องมีแนวทางการแก้ปัญหาในเรื่องนี้โดยเร่งด่วน เพราะเรื่องนี้ผูกกับเรื่องอาชญากรรมออนไลน์

 

พม. ห่วงกลุ่มเปราะบาง

ขณะที่ วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนาต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ว่า จุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนาจะสอดคล้องกับจุดยืนของกระทรวง พม. ท่ามกลางความเปราะบางของสังคม เราก็มีความเป็นห่วงในส่วนของผู้ที่มีนิสัยติดการพนัน หรือแม้แต่การจะใช้แรงงานจากกลุ่มผู้เปราะบาง ผู้สูงอายุ และผู้พิการ

 

ส่วนที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีข้อห่วงใยและข้อท้วงติงถึงร่างกฎหมายว่าควรจะต้องชะลอไปก่อนนั้น เชื่อว่าจะต้องพิจารณาตามข้อสังเกตด้วย และต้องดูความคิดเห็นแต่ละพรรคในการประชุม ครม.

 

อย่างไรก็ตาม ทุกเรื่องมีทั้งข้อดีและข้อด้อย ข้อดีคนก็จะสนับสนุน ข้อด้อยคนก็จะไม่เห็นด้วย ตนคิดว่ากฎหมายดังกล่าวมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยจะต้องนำข้อเห็นต่างมาพิจารณาร่วมด้วย รวมถึงนำข้อกังวลต่างๆ มาพิจารณาแก้ไขและเยียวยาไม่ให้เกิดข้อกังวลดังกล่าว คงต้องดูในการปฏิบัติอีกทางหนึ่งด้วย

 

‘ทวี’ ไม่ค้านแม้ขัดหลักศาสนา ชี้ รัฐบาลส่วนรัฐบาล

ด้าน พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมนำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้าสภา จะขัดกับหลักศาสนาอิสลามว่า ตนได้ดูเอกสารประกอบแม้ สส. ของพรรคประชาชาติที่เป็นมุสลิมจะไม่เห็นด้วย แต่กฎหมายในภาพรวมก็ต้องขอดูรายละเอียด เพราะมีการศึกษามาแล้วสองสมัย ตั้งแต่ สส. ชุดที่แล้ว

 

“รัฐบาลก็ส่วนรัฐบาล เรื่องของกฎหมายต้องเข้าสภา และเป็นดุลพินิจอิสระของ สส. หรือของพรรคอยู่แล้ว และพรรคได้เรียนกับผู้ร่วมรัฐบาลว่า สส. ของพรรคขอไม่เห็นด้วย เพราะว่าเป็นพื้นที่ของพี่น้องมุสลิมและผิดหลักการของหลักศาสนา”

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X