วันนี้ (10 มกราคม) ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เข้าร่วมงานพิธีมงคลสมรสระหว่าง ธนาธร โล่ห์สุนทร สส. ลำปาง พรรคเพื่อไทย และ รภัสสรณ์ นิยะโมสถ สส. ลำปาง พรรคประชาชน
พิธาให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าสู่ห้องจัดเลี้ยงว่า วันนี้เป็นบรรยากาศดีๆ ที่ธนาธรและรภัสสรณ์สมรสกัน ตัวเองในฐานะที่เคยเป็นอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลและช่วยเจ้าสาวหาเสียง ได้รับเชิญมาเป็นประธานในงานแต่งงานก็เท่านั้น ไม่ได้มีนัยทางการเมืองแต่อย่างใด
“เรื่องนี้เป็นเรื่องความรักของคนสองคน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับขั้วการเมืองแต่อย่างใด เท่าที่ทราบทั้งสองคนรู้จักกันในช่วงทำงาน สส. ในจังหวัดลำปาง ลงพื้นที่ใกล้ชิดกับประชาชน จนมีโอกาสได้พบกัน เรื่องของความรักเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม น่าเฉลิมฉลอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงาน” พิธากล่าว
ส่วนวันนี้ตื่นเต้นหรือไม่ที่จะได้เจอ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พิธาระบุว่าตื่นเต้นกับคู่บ่าวสาว ส่วนกรณีที่ทักษิณกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้เจอพิธาเพื่อจะได้คุยเรื่องการเมืองกัน พิธากล่าวว่าก็คงจะได้คุยในเรื่องของการเมืองหรือบรรยากาศทางการเมืองโลกทั่วไป แต่หากจะพูดถึงเรื่องการเมืองจริงจัง สภาคงเหมาะสมกว่า เพราะตนเองและ ชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็ถูกตัดสิทธิ์แล้ว คนที่จะคุยด้วยน่าจะเป็น ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กับ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มากกว่า
“ความรักก็ส่วนความรัก การเมืองก็ส่วนการเมือง คงเป็นเรื่องของคนสองคนที่เขามีความรักด้วยกัน ครม. ที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือ ครม.ครอบครัว ถ้าครอบครัวเข้าใจและสนับสนุนซึ่งกันและกัน ตนเชื่อว่าทั้งคู่ก็จะทำหน้าที่ สส. ให้สมกับที่ประชาชนชาวลำปางให้ความไว้วางใจ” พิธาระบุ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการเลือกตั้งในสมัยหน้าที่คู่บ่าวสาวจะต้องแข่งขันกันเอง พิธากล่าวว่า เชื่อใจในตัวรภัสสรณ์ 100% ว่าสามารถแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่ได้ แน่นอนว่าเขาต้องพยายามสร้างครอบครัวที่เข้มแข็ง ให้สามารถดูแลสนับสนุนชาวลำปางได้มากขึ้น เรื่องการเมืองไม่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ยังสู้เต็มที่เหมือนเดิม
พิธากล่าวด้วยว่าเชื่อมั่นในตัวธนาธรที่เป็นเจ้าบ่าวด้วย พร้อมกล่าวติดตลกว่า ไม่ใช่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พรรคประชาชนก็ยังเป็นพรรคประชาชน พรรคเพื่อไทยก็ยังเป็นพรรคเพื่อไทย
พิธาย้ำว่า อย่างที่บอก ตนเองถูกตัดสิทธิ์ไปแล้ว ณัฐพงษ์ต้องเป็นผู้ที่พิสูจน์ อยากให้ทุกคนจับตาดูการพิสูจน์ตัวเองของณัฐพงษ์ ทั้งในหน้าที่หัวหน้าพรรค ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สส. รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะเกิดขึ้น
“วันนี้มาในฐานะประธานของเจ้าสาว ที่ผมเคยเป็นหัวหน้าพรรคของเขา แล้วเขาก็เป็นลูกพรรค ผมมาอวยพรขอให้ความรักยั่งยืนและอยู่นิจนิรันดร์” พิธาทิ้งท้าย
