วันนี้ (10 มกราคม) ที่กรมการค้าภายใน พิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงภายหลังการประชุมติดตามและขับเคลื่อน นโยบาย สำคัญเร่งด่วนของ กระทรวงพาณิชย์ โดยมี วุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วม
พิชัยกล่าวว่า ในการประชุมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ ติดตามผลงานและขับเคลื่อนนโยบายสำคัญเร่งด่วนของกระทรวงพาณิชย์ตามแนวทางของรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการประชุมมีประเด็นสั่งการสำคัญ ดังนี้
- ให้เร่งติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจการค้า สื่อสารให้ประชาชนทราบถึงแนวทางของกระทรวงและแนวทางเศรษฐกิจของรัฐบาล
- เรื่องเขตการค้าเสรี (FTA) ถ้าปิดจบได้มาก การค้าการลงทุนของเราจะเพิ่มขึ้น ซึ่งเราพยายามเร่งให้สำเร็จ มีเรื่องของ FTA ไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ต้องการดำเนินการให้สำเร็จ ซึ่งจะมีการลงทุนขนาดใหญ่จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เข้ามาอีกหลายเรื่อง โดยจะมีการร่วมมือกันในหลายระดับ และตนเองจะเดินทางไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อจะได้มีความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งในเรื่องของ FTA Data Center และ Food Security
- เตรียมการประชุม World Economic Forum (WEF) ที่ดาวอส จะไปเซ็นสัญญา FTA กับสมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA) และจะมีประเด็นต่างๆ เข้าไปร่วมเจรจาด้วย
- เรื่อง Food Storage เพื่อแก้ปัญหา Food Security คลังอาหารของโลกให้กับประเทศต่างๆ เป็นทิศทางที่กระทรวงเร่งดำเนินการ
- เรื่องเปิดเสรีข้าว ปลดล็อก-ปรับลด เพื่อเพิ่มโอกาสให้เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย เป็นนโยบายหลักของนายกฯ ที่อยากให้เปิดเสรี เพื่อให้มีการแข่งขันมากขึ้น ไทยจะสามารถส่งออกข้าวได้มากขึ้น มีการลดปริมาณสต็อก และยกเว้นธรรมเนียมให้รายย่อย โดยหลังจากนี้จะมีการประชุมและแถลงอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 17 มกราคมนี้
- เรื่องการดูแลราคาสินค้าเกษตร ในเรื่องมันสำปะหลัง ปีนี้ทางจีนซื้อช้า แต่ตอนนี้เริ่มกลับมาซื้อแล้ว ทำให้การส่งออกมันสำปะหลังไปยังจีนเริ่มดีขึ้น และจะเร่งรัดเพื่อนำไปทำอาหารสัตว์เพิ่มเติม ทำให้ราคามันสำปะหลังเพิ่มขึ้น และจะดำเนินการอีกหลายโครงการ
ทั้งนี้ กรมการค้าภายในได้เชิญชวนผู้ซื้อมันสำปะหลังจากจีนผ่านสถานทูตจีนประจำประเทศไทย โดยจะมีการซื้อขายมันเส้นอีกประมาณ 300,000 ตัน ซึ่งจะช่วยพยุงราคามันสำปะหลังให้ดีขึ้น และจะช่วยดันราคาสินค้าเกษตรอย่างต่อเนื่องให้เป็นปีทองของสินค้าเกษตรต่อไป
- เรื่องการปรับโฉม Thai SELECT ให้เทียบชั้น MICHELIN Star ยกระดับให้มีมาตรฐาน
- แก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และสินค้าด้อยคุณภาพจากต่างประเทศ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและผู้บริโภคของไทย ซึ่งที่ผ่านมามีสินค้าไหลเข้ามาในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง และมีการจับนอมินีมากขึ้น
- ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลดิจิทัลและแอปพลิเคชันของกระทรวงพาณิชย์ให้ครอบคลุมทุกกรม เพื่อให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการอย่างสะดวกและครอบคลุม เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวข้องกับประชาชนในวงกว้าง และเป็นตัวอย่างให้กับกระทรวงอื่นในการดำเนินการต่อไป
- เรื่อง Thailand Brand ให้มี SMEs ใหม่ๆ เกิดขึ้น โดยใช้สัญลักษณ์ Thailand Brand มอบให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้รับผิดชอบ ให้สินค้าไทยเป็นที่ยอมรับ ซึ่งคนในอาเซียนมองสินค้าไทยเป็นสินค้าพรีเมียม จึงอยากให้คนไทยมองสินค้าไทยเป็นพรีเมียมด้วย สินค้าเรามีคุณภาพสูง อยากส่งเสริมให้ใช้สินค้าไทยกันเยอะๆ ทั้งอาหารและเสื้อผ้าของไทยให้ได้รับการยอมรับอย่างสูง
“และจากนี้ผมจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมกรมต่างๆ ซึ่งคนกระทรวงพาณิชย์มีความสามารถดีเยี่ยมอยู่แล้ว จะได้ไปกระตุ้นให้มีงานออกมาเยอะขึ้น ให้ประชาชนมีความสุขมากขึ้น เราต้องการให้คนตัวเล็ก เกษตรกร สามารถส่งออกข้าวได้มากขึ้น โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมและลดสต็อกส่วนผู้ประกอบการค้าข้าว ซึ่งจะมีการติดตามและประเมินผลต่อไป” พิชัยกล่าว
พิชัยระบุต่อไปว่า ขั้นต่อไปจะอำนวยความสะดวกให้มาจดทะเบียนที่เดียวสามารถเป็นทั้งผู้ประกอบการค้าข้าวและผู้ส่งออกข้าว เป็นความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการค้าภายใน และกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อำนวยความสะดวกให้ผู้ประสงค์ประกอบธุรกิจค้าข้าวและการส่งออกข้าว ซึ่งจะได้ข้อสรุปภายในเดือนมีนาคมนี้ และถ้าเป็นไปด้วยดีจะเปิดเสรีในอนาคต โดยนายกฯ อยากเห็นการทำลายการผูกขาด และเปิดเสรีในทุกด้าน