โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 47 แถลงข่าวครั้งใหญ่ที่บ้านพัก Mar-a-Lago รัฐฟลอริดา เมื่อวานนี้ (7 มกราคม) หลังรัฐสภาสหรัฐฯ รับรองทรัมป์ในฐานะผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุด ก่อนร่วมพิธีสาบานตนและหวนคืนทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยสองในวันที่ 20 มกราคมนี้ โดยในงานแถลงข่าว ทรัมป์ใช้เวลาตอบคำถามสื่อมวลชนในหลายประเด็นสำคัญดังนี้
ขยายดินแดนสหรัฐฯ: เกาะกรีนแลนด์ คลองปานามา และแคนาดา
ทรัมป์ไม่ละทิ้งความปรารถนาที่อยากจะให้สหรัฐฯ เข้าครอบครอง ‘เกาะกรีนแลนด์’ ดินแดนปกครองตนเองภายใต้อธิปไตยเดนมาร์ก รวมถึง ‘คลองปานามา’ ซึ่งสหรัฐฯ มีบทบาทสำคัญในการขุดลอกคลองและเปิดใช้งานตั้งแต่ปี 1914 ก่อนที่จะค่อยๆ ส่งมอบคลองคืนในกับปานามา ผ่านสนธิสัญญาตอร์ริโฮส-คาร์เตอร์ (Torrijos-Carter Treaties) ในปี 1977 โดยทรัมป์มองว่าทั้งสองแห่งนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ
เมื่อสื่อมวลชนถามว่าเขาจะไม่ใช้กำลังทางการทหารหรือแรงผลักดันทางเศรษฐกิจ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการยึดครองดินแดนเหล่านี้ใช่หรือไม่ ทรัมป์ระบุว่า เขาไม่สามารถรับรองในสองประเด็นนี้ได้ พร้อมเน้นย้ำว่าสหรัฐฯ ต้องการเกาะกรีนแลนด์และคลองปานามาเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า เขาจะใช้แรงผลักดันทางเศรษฐกิจ เพื่อเปลี่ยน ‘แคนาดา’ ให้กลายเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ โดยเขามองว่าสหรัฐฯ ใช้งบประมาณมหาศาลเพื่อปกป้องแคนาดา ทั้งในด้านความมั่นคงและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ จนแคนาดากลายเป็นประเทศอันดับต้นๆ ของโลกที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ามากที่สุด แคนาดาจึงควรเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ พร้อมระบุว่า เส้นแบ่งพรมแดนสหรัฐฯ-แคนาดา เป็นเพียงแค่เส้นสมมติที่ถูกลากขึ้นมาเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยระบุว่า เดนมาร์กควรละทิ้งการควบคุมเกาะกรีนแลนด์ ไม่เช่นนั้นอาจเผชิญมาตรการขึ้นภาษีที่สูงลิ่วจากสหรัฐฯ ทั้งยังเคยเสนอแนะให้ชาวกรีนแลนด์ลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชหรือตัดสินใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ อีกด้วย
ในช่วงแถลงข่าว ทรัมป์ยังอ้างว่าคลองปานามาที่มีความสำคัญอย่างมากต่อสหรัฐฯ กำลังถูกบริหารโดยจีน พร้อมทั้งระบุว่าที่ผ่านมาปานามาเก็บค่าผ่านคลองกับสหรัฐฯ ในอัตราที่สูงมากเกินไป ขณะที่ โชเซ ราอูล มูลิโน ประธานาธิบดีปานามา ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของทรัมป์ พร้อมยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซงจากจีนอย่างแน่นอน แม้ว่าบริษัทสัญชาติฮ่องกงอย่าง CK Hutchison Holdings จะเป็นผู้ดูแลกิจการท่าเรือสองแห่งบริเวณปากคลองปานามาก็ตาม
ทรัมป์ยังระบุว่า การส่งมอบคลองปานามาคืนให้แก่ปานามาคือ ‘ความผิดพลาดครั้งใหญ่’ แม้ว่า จิมมี คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 39 จะเป็นคนดี แต่เขาก็ได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ หลังคืนคลองแห่งนี้โดยแลกกับแค่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายยังคงตั้งคำถามว่า แนวทางผลักดันการขยายดินแดนสหรัฐฯ ของทรัมป์ โดยเฉพาะในกรณีแคนาดามีความจริงจังมากน้อยแค่ไหน หรือทั้งหมดเป็นไปเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในการเจรจาให้กับทรัมป์และสหรัฐฯ ในประเด็นอื่นๆ
หากทรัมป์เดินหน้าผลักดันการขยายดินแดนสหรัฐฯ อย่างจริงจัง และสามารถยึดครองหรือผนวกรวมพื้นที่เหล่านี้ได้จริง อาจทำให้แผนที่สหรัฐฯ มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบกว่าครึ่งศตวรรษ นับตั้งแต่การผนวกรวมฮาวายเข้าเป็นรัฐที่ 50 ของสหรัฐฯ ได้สำเร็จในปี 1959 ซึ่ง ‘สวนทาง’ กับแนวนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนก่อนๆ จากทั้งสองพรรคการเมืองใหญ่ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา และเกิดขึ้นในขณะที่ผู้นำโลกตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐฯ คัดค้านความพยายามผนวกดินแดนของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
เปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโก
ทรัมป์ยังขู่จะดำเนินมาตรการขึ้นภาษีกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเม็กซิโกและแคนาดา หากประเทศเหล่านี้ไม่ช่วยสหรัฐฯ ยุติปัญหาการไหลทะลักของผู้อพยพข้ามแดนผิดกฎหมายอย่างจริงจัง อีกทั้งยังระบุว่าเขาต้องการจะเปลี่ยนชื่อ ‘อ่าวเม็กซิโก’ (Gulf of Mexico) ให้กลายเป็น ‘อ่าวอเมริกา’ (Gulf of America) ซึ่งมีความสวยงามและครอบคลุมพื้นที่จำนวนมาก พร้อมชี้ว่าชื่อใหม่นี้เป็นชื่อที่มีความเหมาะสมมากกว่า
ยื่นคำขาดฮามาส ขู่ ‘นรกจะแตก’ หากไม่ปล่อยตัวประกัน
ทรัมป์ได้ยื่นคำขาดแก่กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาว่า อาจมีผลร้ายแรงตามมาหากไม่ปล่อยตัวประกันทั้งหมดที่ถูกจับตัวไว้ตั้งแต่การบุกโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่เมื่อเดือนตุลาคม 2023 โดยทรัมป์ขู่ว่านรกจะแตกในภูมิภาคตะวันออกกลางหากตัวประกันเหล่านั้นไม่ได้รับอิสรภาพ ซึ่งนั่นจะไม่เป็นผลดีต่อทั้งฮามาสหรือต่อใครเลย
โจมตีการถ่ายโอนอำนาจของรัฐบาลโจ ไบเดน
ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังได้กล่าวโจมตีประเด็นการถ่ายโอนอำนาจของทีมบริหารรัฐบาลโจ ไบเดน ว่ากำลังพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้การบริหารงานของรัฐบาลทรัมป์ 2.0 เป็นไปด้วยความยากลำบาก พร้อมทั้งชี้ว่า ความพยายามนี้ขัดขวางการปฏิรูปของพลเมืองอเมริกันที่พวกเขาต่างลงคะแนนเสียงสนับสนุน
โดยยกตัวอย่างกรณีไบเดนลงนามคำสั่งห้ามขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมบริเวณนอกชายฝั่งของสหรัฐฯ ซึ่งไบเดนระบุว่าคำสั่งดังกล่าวสะท้อนสิ่งที่ชุมชนชายฝั่ง รวมถึงภาคธุรกิจและภาคการท่องเที่ยวต่างทราบดีว่าการขุดเจาะตามแนวชายฝั่งก่อให้เกิดผลเสียที่ไม่อาจเยียวยาได้ พร้อมเน้นย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศโลกเป็นภัยคุกคามของสหรัฐฯ ในขณะที่ทรัมป์มองว่าการขุดเจาะหาพลังงานบริเวณชายฝั่งจะเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ มากกว่า พร้อมประกาศว่าเราจะกลับมาเดินหน้าขุดเจาะอีกครั้งเร็วๆ นี้
ต่อต้านกังหันลม
หนึ่งในจุดยืนทางการเมืองของทรัมป์ที่ดูจะไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยนับตั้งแต่ช่วงหาเสียงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสมัยแรกเมื่อปี 2016 คือเขาต่อต้านกังหันลมอย่างจริงจัง ล่าสุดทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์แนวทางเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเป้าไปที่กังหันลม ฝักบัวน้ำหยด เครื่องล้างจานที่ใช้น้ำน้อย และเครื่องทำความร้อนไฟฟ้า
ทรัมป์ยังได้กล่าวโทษกังหันลมว่ามีส่วนทำให้วาฬคลุ้มคลั่งและเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะตามแนวชายฝั่งทางตอนใต้ของนิวอิงแลนด์ที่มีกังหันลมจำนวนมาก ทั้งยังชี้ว่ากังหันลมเป็นเหมือนขยะในประเทศของเรา เป็นพลังงานที่แพงที่สุดเท่าที่เคยมีมา และมีเพียงผู้ผลิตที่สร้างกังหันลมจากเงินสนับสนุนเท่านั้นที่ต้องการกังหันลมเหล่านี้ โดยทรัมป์เน้นย้ำว่ารัฐบาลทรัมป์ 2.0 จะพยายามผลักดันนโยบายที่ไม่มีการผลิตและติดตั้งกังหันลมเพิ่มเติมอีก
คดีความและการนิรโทษกรรม
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ ทรัมป์ยังคงแสดงความคับข้องใจเกี่ยวกับคดีความทั้งหลายที่เขาถูกฟ้องร้อง โดยทรัมป์มองว่าคดีความเหล่านี้มีแรงจูงใจทางการเมืองและเป็นความพยายามที่จะทำลายชื่อเสียงของเขาในช่วงหาเสียงเลือกตั้งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งล่าสุด
ทรัมป์ได้กล่าวชื่นชมและยกย่อง ไอลีน แคนนอน ผู้พิพากษาเขตที่ทรัมป์เคยแต่งตั้งขณะที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรกว่าเป็น ‘ผู้พิพากษาที่เก่งกาจและมีความกล้าหาญอย่างยิ่ง’ หลังแคนนอนมีส่วนช่วยขัดขวางการเปิดเผยรายงานการสืบสวนคดีทรัมป์โดย แจ็ค สมิธ ที่ปรึกษาพิเศษของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ให้สาธารณชนรับรู้ พร้อมโจมตีว่ารายงานดังกล่าวเป็นของปลอม
ส่วนประเด็นที่ว่าทรัมป์จะนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุจลาจลครั้งใหญ่ที่อาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 หรือไม่นั้น ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะนิรโทษกรรมครั้งใหญ่ โดยไม่ได้ลงรายละเอียดว่าผู้ที่จะได้รับการนิรโทษกรรมนี้จะรวมถึงกลุ่มผู้สนับสนุนของทรัมป์ที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและสร้างความเสียหายให้กับอาคารรัฐสภาหรือไม่
ต้อนรับการลงทุนจาก ‘โดนัลด์แห่งดูไบ’
ในโอกาสนี้ทรัมป์ยังได้ประกาศเตรียมต้อนรับการลงทุนจาก ฮุสเซน สัจวานี มหาเศรษฐีชาวเอมิเรตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทด้านการลงทุนอย่าง DAMAC Properties เจ้าของฉายา ‘โดนัลด์แห่งดูไบ’ ที่จะทุ่มเม็ดเงินอย่างน้อย 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จัดตั้งศูนย์ข้อมูลทั่วประเทศ โดยทรัมป์ยกเครดิตให้กับการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่มีส่วนช่วยสร้างความเชื่อมั่นจนปิดดีลการลงทุนนี้ได้สำเร็จ
ทรัมป์ยังเผยอีกว่า สัจวานีเป็นหนึ่งในนักลงทุนธุรกิจระหว่างประเทศเพียงไม่กี่คนที่รักษาความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับทรัมป์ ภายหลังเหตุจลาจลครั้งใหญ่ที่อาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021
อนาคตสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ทรัมป์เผยว่าเขาสนใจที่จะพบกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ในสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยทรัมป์ระบุว่าเขาจะไม่พบกับปูตินก่อนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ สมัยสอง พร้อมระบุว่า เขาเข้าใจความรู้สึกของปูตินที่ไม่ต้องการให้ยูเครนเป็นสมาชิกของ NATO
ทรัมป์ยังโจมตีไบเดนว่า ไบเดนพยายามเปลี่ยนแปลงจุดยืนของสหรัฐฯ ในประเด็นการรับสมัครยูเครนเข้าเป็นสมาชิก NATO โดยทั้งทรัมป์ ทีมผู้ช่วย และพันธมิตรของเขา ต่างมองว่าการสนับสนุนให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิก NATO นั้นเป็นการยั่วยุรัสเซียโดยไม่จำเป็น
ภาพ: Carlos Barria / Reuters
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/2025/01/07/politics/trump-news-conference-key-lines/index.html
- https://www.voanews.com/a/trump-all-hell-will-break-out-if-hamas-hostages-not-returned/7927687.html
- https://www.bbc.com/news/articles/c4gzn48jwz2o
- https://www.reuters.com/world/trump-says-he-sympathizes-with-russias-opposition-nato-membership-ukraine-2025-01-07/