จุดยืนต่อ TikTok นับเป็นอีกหนึ่งความแตกต่างสำคัญระหว่าง Trump 1.0 และ Trump 2.0 เนื่องจากล่าสุดว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ขอศาลสูงสหรัฐฯ ชะลอกฎหมายแบน TikTok แม้ว่าเมื่อตอนดำรงตำแหน่งสมัยแรกทรัมป์จะมีท่าทีแข็งกร้าวต่อ TikTok อย่างมาก โดยความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลัง TikTok มีส่วนช่วยสนับสนุนทรัมป์ในช่วงหาเสียงครั้งที่ผ่านมา
โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ร้องขอให้ศาลสูงสหรัฐฯ (Supreme Court ) ชะลอการบังคับใช้กฎหมายแบนแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียยอดนิยมอย่าง TikTok โดยให้เหตุผลว่าตนควรมีเวลา ‘หาแนวทางแก้ไขปัญหาทางการเมือง’ ในประเด็นนี้หลังจากเข้ารับตำแหน่งก่อน
ทั้งนี้ ศาลสูงสหรัฐฯ มีกำหนดฟังคำโต้แย้ง (Hear Arguments) คดีนี้ในวันที่ 10 มกราคม 2025 อย่างไรก็ตาม ทรัมป์มีกำหนดสาบานตนรับตำแหน่งวันที่ 20 มกราคม 2025
กฎหมายปัจจุบันกำหนดให้ ByteDance บริษัทแม่สัญชาติจีนของ TikTok ต้องขายแพลตฟอร์มดังกล่าวให้กับบริษัทอเมริกันไม่เช่นนั้นจะถูกแบน หลังเมื่อเดือนเมษายน 2024 รัฐสภาสหรัฐฯ ลงมติให้แบน TikTok เว้นแต่ ByteDance จะยอมขายแอปดังกล่าวภายในวันที่ 19 มกราคม 2025
ดังนั้นหากไม่มีการขายหุ้นเกิดขึ้นและคำตัดสินของศาลไม่เป็นประโยชน์ต่อ TikTok แอปดังกล่าวอาจถูกแบนในสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในวันที่ 19 มกราคม 2025 หรือ 1 วันก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง
จุดยืนต่อ TikTok ของทรัมป์นั้นเปลี่ยนไปจากปี 2020 ที่ทรัมป์พยายามปิดกั้นแอปดังกล่าวในสหรัฐฯ และบังคับให้ขายแอปพลิเคชันให้กับบริษัทสัญชาติอเมริกา เนื่องจากแอปดังกล่าวมีเจ้าของเป็นชาวจีน
นอกจากนี้ท่าทีล่าสุดของทรัมป์ยังช่วยตอกย้ำถึงความพยายามของ TikTok ในการสร้างคะแนนเสียงให้ทรัมป์ในช่วงหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
อย่างไรก็ตาม ดี. จอห์น ซาวเออร์ ทนายความของทรัมป์ ซึ่งได้รับเลือกจากประธานาธิบดีคนใหม่ให้เป็นอัยการสูงสุดของสหรัฐฯ กล่าวยืนยันว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่แสดงจุดยืนใดๆ เกี่ยวกับประเด็นสำคัญของข้อพิพาทนี้”
พร้อมทั้งระบุอีกว่า “แทนที่จะทำเช่นนั้น ทรัมป์ได้ขออย่างนอบน้อมให้ศาลพิจารณาเลื่อนกำหนดเส้นตายของกฎหมายสำหรับการขายหุ้นในวันที่ 19 มกราคม 2025 ออกไป ขณะที่ศาลพิจารณาประเด็นสำคัญของคดีนี้ เพื่อให้รัฐบาลชุดใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์มีโอกาสหาทางแก้ไขปัญหาในคดีนี้ทางการเมือง”
ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้พบกับ โจวโซ่วจือ ซีอีโอของ TikTok เมื่อเดือนธันวาคม 2024 ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ได้แสดงออกว่าเขา ‘ชื่นชอบ’ แอปดังกล่าว และสนับสนุนให้ TikTok ยังคงดำเนินการในสหรัฐฯ ต่อไปอย่างน้อยสักระยะหนึ่ง
ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ยังกล่าวอีกว่า เขาได้รับการเข้าชมบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลายพันล้านครั้งระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี
ภาพ: miss.cabul / Shutterstock
อ้างอิง:
