×

The Tale of Lady Ok ชีวิตเหมือนรถไฟเหาะของนางทาสเลือดนักสู้

24.12.2024
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 MIN READ
  • The Tale of Lady Ok เปิดเรื่องอย่างสนุกสนานผ่านชีวิตสุขๆ ทุกข์ๆ ของ กูด็อกอี (รับบทโดย อิมจียอน) ที่แม้จะเป็นทาสซึ่งถูกกดขี่ข่มเหงสารพัด แต่ยังมีความสดใสและมองโลกในแง่ดี จนรู้สึกหลงรักตัวละคร เมื่อถึงตอนถูกกระทำก็อยากเอาใจช่วยตามสไตล์ซีรีส์ Underdog ที่ถูกใจคนดู ที่สำคัญยังทำให้เห็นพัฒนาการของตัวละคร จากทาสที่ชีวิตมีค่าต่ำกว่าสัตว์จนก้าวขึ้นมาเป็นสตรีชั้นสูงได้อย่างหมดจด เหมือนดูละครชีวิตดราม่าของผู้หญิงจากดินสู่ดาว ซึ่งจะสมบูรณ์ไม่ได้ถ้าไม่ใช่นักแสดงที่ดี
  • แม้อิมจียอนจะมีผลงานตามมาหลายเรื่องหลังจาก The Glory แต่ก็ไม่มีเรื่องไหนที่แสงจะส่องตัวเธอเท่าเรื่องนี้อีกแล้ว เพราะแทบจะเป็นหญิงเดี่ยวในการดำเนินเรื่อง และทำได้ดีทั้งในพาร์ตนางทาสที่มีความเปิ่นโก๊ะพอน่ารัก และฉากดราม่าเมื่อกลายเป็นผู้ถูกกระทำ ต่อเมื่อก้าวขึ้นเป็นสาวชั้นสูงก็ดูสวยสง่าเหมือนหลุดจากภาพวาด และทำให้นึกถึงผลงานเก่าๆ ของเธอใน The Treacherous ในเวอร์ชันสุขุมและแข็งแกร่งกว่า

ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้ The Tale of Lady Ok น่าสนใจมาจากพลังดาราของ อิมจียอน หลังจากสร้างชื่อแบบปังๆ จากบทตัวร้ายใน The Glory แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือความสนุกจากชีวิตสุดดราม่าของอดีตนางทาสที่ยากจะคาดเดา เพราะแม้ออกอากาศมาเพียงไม่กี่ตอน แต่แทบทุกตอนก็มีเรื่องเซอร์ไพรส์ให้คนดูเอาใจเชียร์แบบสุดๆ

 

 

The Tale of Lady Ok พาคนดูย้อนไปสุ่ยุคโชซอนที่ยังมีการแบ่งชนชั้นอย่างชัดเจน เป็นไปไม่ได้เลยที่คนชั้นล่างสุดอย่างทาสจะลุกขึ้นมาลืมตาอ้าปากได้ แต่ไม่ใช่สำหรับ กูด็อกอี (อิมจียอน) เธอเป็นทาสในเรือนเบี้ยของชนชั้นสูงที่มีความเฉลียวฉลาด จึงมักต้องทำงานของกุลสตรีแทน คิมโซฮเย (ฮายุลรี) คุณหนูของตระกูลอยู่เสมอ ทั้งกูด็อกอีและพ่อถูกครอบครัวเจ้านายทุบตีบ่อยๆ จนเธอเริ่มทำงานเก็บเล็กผสมน้อยเพื่อเตรียมตัวหนี

 

ขณะที่กูด็อกอีแอบออกไปทำงานนอกบ้าน ก็ได้เจอกับ ชอนซึงฮวี (ชูยองอู) ลูกนอกสมรสของตระกูลใหญ่ คู่หมายของคิมโซฮเย เขาตกหลุมรักเธอแทบจะทันที ทำให้กูด็อกอีและพ่อถูกลงโทษอย่างหนัก แต่ในที่สุดก็หนีออกมาได้ พร้อมกับทิ้งความเจ็บแค้นให้กับเจ้านายเก่าจนพลิกแผ่นดินตามล่าตัวเธอ

 

 

กูด็อกอีได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าของโรงเตี๊ยมในป่า ขณะที่พ่อก็หนีจากเธอไปเพราะไม่อยากเป็นภาระ และแล้ววันหนึ่งเธอก็ได้เจอกับคุณหนู อ๊กแทยอง (ซนนาอึน) สาวชั้นสูงผู้มีอุดมการณ์ช่วยเหลือคนที่ต่ำกว่า น่าเศร้าที่คุณหนูอ๊กแทยองต้องมาจบชีวิตลงในเหตุการณ์โจรป่าบุกปล้นโรงเตี๊ยม โดยกูด็อกอีเป็นคนเดียวที่รอดชีวิต

 

กูด็อกอีถูกเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคุณหนูอ๊กแทยอง จนต้องบอกความจริงว่าเธอเป็นใคร และค่อยๆ พิสูจน์ตัวเอง จนสุดท้ายผู้ใหญ่ของตระกูลโอบรับเธอในฐานะหลานสาวซึ่งต้องอยู่ใต้เงาของอ๊กแทยองไปตลอดชีวิต ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่อยู่ในบ้านหลังนี้กูด็อกอีต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ไม่พบเจอผู้คน

 

แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาให้เธอได้พบกับชอนซึงฮวี แต่ครั้งนี้เขากลายเป็นกวีชื่อดังและลาออกจากตระกูลเดิมแล้ว ชอนซึงฮวีชวนกูด็อกอีหนีไปด้วยกัน แต่แล้วก็มีเหตุการณ์นางทาสในการดูแลของเธอถูกฆาตกรรม กูด็อกอีตัดสินใจละทิ้งชีวิตเดิมและเริ่มชีวิตใหม่ สานต่อเจตนารมณ์ของอ๊กแทยองในฐานะทนายหญิงแห่งโชซอน เปิดหน้าท้าทายความอยุติธรรมในสังคม แต่ก็ต้องแลกมากับจังหวะชีวิตสุดพลิกผันให้คนดูเอาใจช่วย

 

 

The Tale of Lady Ok อาจมีส่วนคล้ายกับซีรีส์เกาหลีย้อนยุคทั่วไปที่เล่าถึงเรื่องราวความรักและความทุกข์ยาก โดยสำรวจประเด็นต่างๆ ทั้งความยุติธรรม ชนชั้น ความโหดร้าย และความเมตตา แต่ใส่จังหวะความดราม่าเข้ามาอย่างเหมาะเจาะ ผลงานการเขียนบทของ พัคจีซุก จาก Uncle และผู้กำกับ จินฮยอก จาก Sisyphus: The Myth โดยได้แรงบันดาลใจมาจากคีดังของ Martin Guerre จากฝรั่งเศส ว่าด้วยการสวมรอยเป็นคนอื่นในช่วงศตวรรษที่ 16 รวมทั้งเรื่องจริงของ ยูยอนจอน (유연전) คดีดังของเกาหลีในยุคโชซอน เรื่องราวของภรรยาที่ยอมรับสามีตัวปลอม แต่ในที่สุดสามีก็กลับมาหลังจากหายตัวหลายปีไปเพราะเขาเป็นเพศที่ 3 ซึ่งก็กลายเป็นปมสำคัญของ The Tale of Lady Ok ด้วยเช่นกัน

 

The Tale of Lady Ok เปิดเรื่องอย่างสนุกสนานผ่านชีวิตสุขๆ ทุกข์ๆ ของกูด็อกอี ที่แม้จะเป็นทาสซึ่งถูกกดขี่ข่มเหงสารพัด แต่ยังมีความสดใสและมองโลกในแง่ดี จนรู้สึกหลงรักตัวละคร เมื่อถึงตอนถูกกระทำก็อยากเอาใจช่วยตามสไตล์ซีรีส์ Underdog ที่ถูกใจคนดู ที่สำคัญยังทำให้เห็นพัฒนาการของตัวละคร จากทาสที่ชีวิตมีค่าต่ำกว่าสัตว์จนก้าวขึ้นมาเป็นสตรีชั้นสูงได้อย่างหมดจด เหมือนดูละครชีวิตดราม่าของผู้หญิงจากดินสู่ดาว ซึ่งจะสมบูรณ์ไม่ได้ถ้าไม่ใช่นักแสดงที่ดี

 

 

แม้อิมจียอนจะมีผลงานตามมาหลายเรื่องหลังจาก The Glory แต่ก็ไม่มีเรื่องไหนที่แสงจะส่องตัวเธอเท่าเรื่องนี้อีกแล้ว เพราะแทบจะเป็นหญิงเดี่ยวในการดำเนินเรื่อง และทำได้ดีทั้งในพาร์ตนางทาสที่มีความเปิ่นโก๊ะพอน่ารัก และฉากดราม่าเมื่อกลายเป็นผู้ถูกกระทำ ต่อเมื่อก้าวขึ้นเป็นสาวชั้นสูงก็ดูสวยสง่าเหมือนหลุดจากภาพวาด และทำให้นึกถึงผลงานเก่าๆ ของเธอใน The Treacherous ในเวอร์ชันสุขุมและแข็งแกร่งกว่า รวมทั้งเห็นพัฒนาการของตัวละครได้อย่างชัดเจนในบุคลิกที่แตกต่างกัน ขณะที่ในบางจังหวะคุณหนูอ๊กแทยองก็ปล่อยความเป็นกูด็อกอีออกมาได้อย่างน่ารักน่าชัง

 

ในเรื่องของบท The Tale of Lady Ok มีกลิ่นอายความเป็น Courtroom Drama อยู่จางๆ ว่าด้วยการตามล่าหาความจริงเพื่อไขคดีต่างๆ ของอ๊กแทยอง ซึ่งคิดว่าเรื่องราวคงดำเนินไปทางนั้นเมื่อก้าวขึ้นเป็นทนายความแล้ว แต่เส้นเรื่องกลับเพิ่มจังหวะชีวิตพลิกไปพลิกมา ทั้งการตัดสินใจแต่งงานกับลูกชายผู้ตรวจการประจำเมืองที่หน้าเหมือนชอนซึงฮวีอย่างกับแกะ ต่างกันก็แต่รสนิยมทางเพศ และยังมีเรื่องให้สามีต้องหนีไปจากเมือง กลายเป็นปมซึ่งน่าจะย้อนมาตอนท้ายคล้ายกับคดีแรงบันดาลใจที่เล่ามาข้างต้น

 

 

พอทุกอย่างเหมือนจะดีแล้ว พ่อสามีก็ดันมาตาย ถูกริบทรัพย์สมบัติและบริวารไปอีก แถมเจ้านายเก่าก็กำลังตามล่ามาติดๆ ชีวิตของกูด็อกอีในนามของอ๊กแทยองจึงเหมือนแล่นอยู่บนรถไฟเหาะ

 

สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือประเด็นหลักของ The Tale of Lady Ok ที่พูดถึงความเท่าเทียมในหลายมิติ โดยประเด็นใหญ่ๆ คือเรื่องชนชั้นที่แทบจะไม่มีอะไรดีเลย เพราะแม้ว่ากูด็อกอีจะเลื่อนสถานะจนรักกับชอนซึงฮวีก็ได้ แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้เขากลายเป็นคนต่ำต้อยกว่าเธอ หรือเมื่อกูด็อกอีหลุดจากสถานะทาสแล้ว ก็ยังต้องเจอกับอคติต่อความเป็นผู้หญิงอยู่ดี ขณะที่สามีของกูด็อกอีก็ดิ้นรนช่วยเหลือเหล่า LGBTQIA+ ที่เป็นเหมือนตัวกาลกิณีในยุคโชซอน 

 

ติดตามการสู้ชีวิตแต่ชีวิตสู้กลับของเลดี้อ๊กได้ทั้งทาง Netflix, Viu และ WeTV

 

© SLL JOONGANG Co.,Ltd. All Rights Reserved.

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X