วานนี้ (10 ธันวาคม) ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กระบุถึงการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่ สส. พรรคเพื่อไทย เสนอ โดยเนื้อหาระบุว่า
“กรณีบรรดานักการเมือง ‘ดาหน้า’ กันออกมาประกาศไม่เอาร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ในวันสองวันนี้ พวกเขาไม่ได้ต้องการพูดกับประชาชน แต่ต้องการพูดให้ชนชั้นนำเจ้าของใบอนุญาตที่ 2 ได้ยินว่า ไม่ว่าอย่างไร ตนยังคงภักดีกับพวกท่าน เพื่อ ‘ขออนุญาต’ ให้ตนเองได้อยู่ในอำนาจต่อไป
“สำหรับคนเหล่านี้ ‘ใบอนุญาตที่ 1 จากประชาชน’ ไม่ได้มีความสลักสำคัญใดมากไปกว่าเป็น ‘สะพาน’ ให้เหยียบย่ำข้ามผ่านไปเป็นใหญ่เป็นโต เมื่อได้มาพอสังเขปก็ละทิ้งประชาชนผู้ออกใบอนุญาตใบแรก และเข้าสวามิภักดิ์ ทำตนเป็นเด็กดีต่อผู้มีอำนาจออกใบอนุญาตที่ 2
“ระบบรัฐสภาไทยทุกวันนี้ นักการเมืองได้ฉวยเอา ‘การเลือกตั้ง’ ไปอ้างความชอบธรรมในการมีอำนาจ แต่เมื่อมีอำนาจแล้วกลับใช้อำนาจเท่าที่เจ้าของใบอนุญาตที่ 2 อนุญาต ‘ผู้แทนราษฎร’ จึงมิใช่ ‘ผู้แทน’ ของ ‘ราษฎร’ แต่กลายเป็น ‘ผู้แทนของคนออกใบอนุญาตที่ 2’ ประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศต้องร่วมมือกันสั่งสอนนักการเมืองเหล่านี้”
ปิยบุตรยังอ้างถึงการดีเบตของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เมื่อครั้งเป็นผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยในช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่ประกาศว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล คณะรัฐประหารจะไม่มีที่ยืนในสังคม และพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้ารื้อกฎหมายให้การรัฐประหารเป็นความผิดฐานกบฏ ไม่มีอายุความ โดยปิยบุตรระบุว่า “อยากเห็นพรรคเพื่อไทยเดินหน้าเรื่องนี้ครับ พรรคประชาชนคงพร้อมเอาด้วยอยู่แล้ว เพราะเสนอร่างกฎหมายเรื่องเหล่านี้เข้าไปหลายฉบับแล้ว 2 พรรคจับมือลงมติด้วยกัน ผ่านแน่นอน”
ก่อนหน้านี้ณัฐวุฒิโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าวเช่นกันว่า ส่วนตัวแม้ไม่เชื่อว่ากฎหมายจะป้องกันรัฐประหารได้ แต่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับของพรรคเพื่อไทย และเห็นว่าเป็นความพยายามทำให้กองทัพทำงานสอดคล้องกับรัฐบาลจากการเลือกตั้งมากขึ้น
อ่านเนื้อหาฉบับเต็มได้ที่: https://thestandard.co/nattawut-defense-law-amendment-sovereignty/
