หากพูดถึงผู้นำบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ Generative AI กลายเป็นเทรนด์หลักของโลก เชื่อว่าใครหลายคนคงจะรู้จักกับชื่อของ เจนเซน หวง (Jensen Huang) ซีอีโอของบริษัท NVIDIA ผู้ออกแบบชิปเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) รายใหญ่ ซึ่งกลายเป็นสินค้าที่เปรียบได้กับ ‘กระดูกสันหลัง’ ที่ขับเคลื่อนพัฒนาการและการเติบโตที่ AI ขาดไม่ได้
เนื่องในโอกาสการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของ เจนเซน หวง THE STANDARD WEALTH อยากพาไปย้อนดู 5 แนวคิดการทำงานและการใช้ชีวิตของซีอีโอที่พลิกผันตัวเองจากเด็กล้างจาน สู่ผู้นำที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของโลก
- “ผมต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้คนเก่งอยากมาทำงานตามฝันของพวกเขา”
หวงเชื่อว่าในฐานะผู้นำ การทำให้พนักงานที่เก่งอยากมาทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญในการยกระดับองค์กร โดยปัจจัยที่จะทำให้เกิดสภาพแวดล้อมเชิงบวกคือ การสื่อสารอย่างเปิดกว้างที่มีคนหลายคนร่วมฟังและร่วมถกหาทางแก้ไขปัญหาไปด้วยกัน
- “ผมแทบจะไม่ไล่คนออก ในทางกลับกัน ผมพยายามทำให้คนเจ็บปวดที่สุด เพื่อนำเขาไปสู่ความสำเร็จ”
หวงกล่าวว่า เขาเคยเป็นแค่เด็กล้างจาน ล้างห้องน้ำ แต่วันนี้เขากลายมาเป็นซีอีโอของหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก เขาเชื่อในการให้โอกาสคนได้เรียนรู้ และเขาก็ไม่ชอบที่จะล้มเลิกกับการทุ่มเทแรงเพื่อพัฒนาคนของเขาให้มีความสามารถมากขึ้นได้ง่ายๆ
แทนที่จะไล่พนักงานออก หวงเลือกที่จะใช้เวลาพัฒนาพนักงานต่อไป แม้ว่าการพัฒนานั้นจะเต็มไปด้วยความกดดันและความตึงเครียด แต่นั่นคือหนทางในการผลักดันให้คนประสบความสำเร็จตามแบบฉบับของ เจนเซน หวง
- “ผมมีผู้ใต้บังคับบัญชา 60 คน แต่ผมไม่เคยประชุมแบบ 1 ต่อ 1 เลย”
หวงเล่าว่าเขาไม่เชื่อในระบบการคุยกันแบบ 1 ต่อ 1 เพราะทุกครั้งที่เขาต้องการจะประกาศข่าวหรือข้อมูลสำคัญ ทุกคนจะต้องรับรู้เท่ากัน เขาไม่เชื่อว่าข้อมูลใดๆ ควรจะมีคนที่รู้เรื่องอยู่แค่ 1-2 คน เพราะการที่ทุกคนรับรู้คือการที่ทุกคนช่วยกันร่วมแก้ปัญหาได้
- “ยอมถอยให้เป็น การรู้ว่าต้องสละอะไรคือกุญแจสู่ความสำเร็จ”
เป้าหมายของ NVIDIA คือการสร้างคอมพิวเตอร์เพื่อแก้ปัญหาที่คอมพิวเตอร์ทั่วไปทำไม่ได้ ซึ่ง NVIDIA ก็ควรทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดเพื่อให้เป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นจริง
แม้ว่าตลาดสมาร์ทโฟนจะใหญ่ระดับหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และ NVIDIA ก็สามารถบุกเข้าไปเพื่อพยายามแย่งส่วนแบ่งจากบริษัทอื่น แต่หวงมองว่า การยอมละทิ้งตลาดสมาร์ทโฟนไปสร้างตลาดใหม่ที่ยังแทบไม่มีมูลค่าคือตัวเลือกที่ดีกว่า ถึงจะเป็นการตัดสินใจที่เสี่ยง แต่ท้ายที่สุดการเลือกทิ้งและเดิมพันให้ถูกก็นำมาสู่ความสำเร็จของ เจนเซน หวง และ NVIDIA
- “ผมหวังให้คุณเจอกับความเจ็บปวดและความทุกข์อย่างท่วมท้น”
นี่ไม่ใช่คำด่าทอ แต่เป็นวิธีอวยพรความสำเร็จตามตำราของ เจนเซน หวง โดยเขาเล่าถึงวลียอดฮิตที่ถูกกล่าวต่อๆ กันมาว่า “เราควรเลือกงานตามความชอบของตัวเอง” กำลังมีบางอย่างตกหล่นไป เพราะส่วนใหญ่แล้วคนฟังจะเชื่อมโยง ‘ความชอบ’ กับ ‘ความสุข’ ว่าเป็นของคู่กัน
แต่ความจริงแล้วเขาเชื่อว่าถ้าต้องการจะสร้างสิ่งใดก็ตามที่ยิ่งใหญ่ สิ่งนั้นมักแลกมาด้วยความลำบาก
“หลายคนเข้าใจผิด คิดว่างานที่ดีที่สุดคืองานที่นำมาซึ่งความสุข แต่มันไม่ใช่เลย คุณต้องผ่านความทุกข์ การดิ้นรน และความพยายาม คุณต้องทำสิ่งที่ยากลำบากและฝ่าฟันมัน เพื่อที่จะได้ลิ้มรสความสำเร็จ”
หากพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ความลำบากเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้หากเราต้องการสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายต่อสังคม
NVIDIA เตรียมเผยความร่วมมือกับ SIAM.AI CLOUD ผลักไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัล
ในวันที่ 4 ธันวาคม 2567 เจนเซน หวง จะขึ้นเวทีเสวนาร่วมกับ รัตนพล วงศ์นภาจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SIAM.AI CLOUD เพื่อถ่ายทอดวิสัยทัศน์และแนวคิดเบื้องหลังความร่วมมือ พร้อมจะมีการฉายภาพโอกาสการสร้าง AI แห่งชาติของไทย (Sovereign AI) ที่จะทำให้ธุรกิจไทยสามารถใช้งานเทคโนโลยีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และลดการพึ่งพานวัตกรรมของต่างประเทศเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ภายในงานยังมีการจัดแสดงนวัตกรรมที่พัฒนาโดย SIAM.AI CLOUD เช่น Siam GPT Tourism Chatbot, Siam GPT Emergency Response Solution และนวัตกรรม AI อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย
การมาเยือนครั้งนี้ของ เจนเซน หวง และการขยับตัวของประเทศไทย ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะยกระดับความสามารถในการแข่งขันของไทยกับประเทศอาเซียนอื่นๆ
อ้างอิง: