การเมืองในปากีสถานกำลังอยู่ในจุดที่เดือดพล่านที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เมื่อผู้สนับสนุน อิมราน ข่าน อดีตนายกรัฐมนตรีของปากีสถาน ออกมาประท้วงทั่วประเทศเพื่อเรียกร้องการปล่อยตัวเขาและจัดการเลือกตั้งใหม่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความขัดแย้งเชิงโครงสร้างของการเมืองในปากีสถาน แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนถึงความท้าทายของประชาธิปไตยในประเทศที่เต็มไปด้วยความไม่สงบ
เกิดอะไรขึ้น?
การประท้วงเริ่มรุนแรงขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เมื่อผู้สนับสนุนของข่านประกาศเดินขบวนครั้งใหญ่และรวมตัวในกรุงอิสลามาบัด เมืองหลวงของประเทศ ซึ่งได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางของความตึงเครียดในเวลานี้
รัฐบาลได้ปิดกั้นเส้นทางหลักและจัดตั้งจุดตรวจหลายจุดเพื่อสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่เมืองใหญ่อื่นๆ เช่น ลาฮอร์ การาจี และเปชวาร์ ก็มีการชุมนุมในลักษณะเดียวกัน โดยในบางพื้นที่ผู้ประท้วงมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ และมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม
เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตจากการปะทะแล้วอย่างน้อย 6 ราย ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ 4 นาย และพลเรือน 1 ราย ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบราย รวมถึงนักข่าวที่ถูกทำร้ายร่างกายระหว่างการรายงานข่าว
นอกจากนี้ยังมีการปิดถนนสายสำคัญ ทำให้การเดินทางระหว่างเมืองกลายเป็นเรื่องยากลำบาก รวมทั้งมีการระงับบริการโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถติดต่อสื่อสารหรือทำธุรกิจได้ ส่วนโรงเรียนและมหาวิทยาลัยหลายแห่งต้องปิดการเรียนการสอนเพื่อความปลอดภัย
ผู้ประท้วงต้องการอะไร?
ผู้ประท้วงที่เป็นกลุ่มผู้สนับสนุนข่านมายาวนานได้ออกมาเรียกร้องให้ปล่อยตัวข่านและนักการเมืองฝ่ายค้านที่ถูกจับกุมไป พวกเขามองว่าข่านเป็นตัวแทนของการต่อสู้กับคอร์รัปชันและการปฏิรูประบบการเมืองที่เต็มไปด้วยอิทธิพลของกลุ่มชนชั้นสูง
นอกจากนี้กลุ่มผู้ประท้วงต้องการให้รัฐบาลของ เชห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ยุติการบริหารประเทศทันที เนื่องจากมองว่า ‘ขาดความชอบธรรม’ ในการขึ้นสู่อำนาจ
โดยพวกเขาเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยการแทรกแซงจากกองทัพและไม่โปร่งใส และเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานอิสระ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการโกงหรือแทรกแซงทางการเมือง เพราะการเลือกตั้งที่โปร่งใสจะช่วยคืนความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและยุติความขัดแย้งทางการเมือง
ทำไมเหตุการณ์ถึงรุนแรงขึ้น?
รัฐบาลชุดปัจจุบันที่มี เชห์บาซ ชารีฟ เป็นนายกรัฐมนตรี มองว่าการประท้วงครั้งนี้เป็นการกระทำที่สร้างความวุ่นวายทางการเมือง โดยมีเบื้องหลังจาก ‘วาระทางการเมืองที่ชั่วร้าย’ ขณะที่สื่อหลายสำนักรายงานว่ามีการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ โดยทั้งตำรวจและกองกำลังความมั่นคงใช้แก๊สน้ำตาและกีดขวางเส้นทางเพื่อสกัดกั้นผู้ชุมนุม ในขณะเดียวกันมีการขู่ว่าจะใช้อาวุธหากผู้ประท้วงใช้ความรุนแรงด้วย
อิมราน ข่าน จากอำนาจสู่เรือนจำ
อิมราน ข่าน ผู้นำพรรค Pakistan Tehreek-e-Insaf (PTI) ถูกจับกุมในข้อหาคอร์รัปชันที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อทรัพย์สินโดยมิชอบในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนสิงหาคม 2023 โดยเขาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดและกล่าวว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้เป็น ‘แผนการทางการเมือง’ จากฝ่ายตรงข้ามที่ต้องการกำจัดเขาออกจากเวทีการเมือง
ในช่วงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ข่านได้ดำเนินนโยบายต่อต้านการทุจริตและพยายามปฏิรูประบบการเมือง อย่างไรก็ตาม เขาต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศ ในปี 2022 ข่านถูกลงมติไม่ไว้วางใจในรัฐสภา ทำให้เขาต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
หลังพ้นตำแหน่ง ข่านถูกตั้งข้อหาคอร์รัปชันหลายคดี ในเดือนพฤษภาคม 2022 เขาถูกจับกุมในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในกองทุน Al-Qadir Trust การจับกุมครั้งนี้นำไปสู่การประท้วงอย่างรุนแรงทั่วประเทศ ก่อนที่ต่อมาในเดือนสิงหาคม 2023 ข่านถูกตัดสินจำคุก 3 ปีในคดีที่เกี่ยวข้องกับการขายของขวัญที่ได้รับระหว่างดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
การจับกุมและการตัดสินโทษข่านได้สร้างความตึงเครียดทางการเมืองในปากีสถาน ผู้สนับสนุนของเขามองว่าการดำเนินคดีเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลยืนยันว่าการดำเนินคดีเป็นไปตามกฎหมาย สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความขัดแย้งทางการเมืองที่ลึกซึ้งในปากีสถาน
แม้ว่าข่านจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งแล้ว แต่เขายังคงเป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปากีสถาน โดยเฉพาะจากคนรุ่นใหม่และชนชั้นกลางที่มองว่าเขาเป็นผู้นำที่ต่อต้านการคอร์รัปชัน
ภาพ: Aamir QURESHI / AFP
อ้างอิง: