วันนี้ (8 เมษายน) ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส. พรรคเพื่อไทย เข้ายื่นคำร้องผ่าน ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 170 (5) ประกอบมาตรา 184 (2)
ประเสริฐกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้รวบรวมรายชื่อ ส.ส. จำนวน 75 คน ยื่นคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยสืบเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยได้รวบรวมทั้งข้อมูลและหลักฐาน ซึ่งขณะนี้มีหลักฐานในการแสดงถึงการทุจริตและประพฤติมิชอบของนายกรัฐมนตรีในหลายกรณี เช่น กรณีการลงนามให้ขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งพยานหลักฐานดังกล่าวพรรคเพื่อไทยมีเพียงพอที่จะนำสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
ด้าน ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดมหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็น ส.ส. ผู้อภิปรายนายกรัฐมนตรี กรณีการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว กล่าวว่า การออกคำสั่งมาตรา 44 ในเดือนเมษายน 2562 เพื่อขยายสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้เอกชนออกไปอีก 40 ปี ทั้งที่ในขณะนั้นระยะเวลาของสัมปทานยังคงเหลืออีก 10 ปี อีกทั้งยังมีการประกาศใช้กฎหมายร่วมทุนในเดือนมีนาคม 2562 แต่กลับไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย ทำให้เกิดการผูกขาดโครงการและไม่ได้มีการแข่งขันของเอกชน จึงทำให้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนเพียงรายเดียวหรือไม่
โดยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 184 (2) ที่บัญญัติไว้ว่า ไม่รับ หรือ แทรกแซง หรือก้าวก่ายการเข้ารับสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ อันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน หรือเป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นที่รับสัมปทาน หรือการเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าวไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ที่จะเชื่อมโยงกับมาตรา 186 ที่ระบุถึงคุณสมบัติของรัฐมนตรีจะสิ้นสุดลง
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า