Playlist พิชิตรัก: 10 เพลงโหมโรงรุกปลุกแรงรับให้พร้อมสับสําหรับคืนวาเลนไทน์

ยอมรับกันเถอะจ้ะว่าอันพฤติกรรมพื้นฐานของมนุษย์นั้น ไม่พ้นกินคลี่แล้วขยี้ก่อนนอนเป็นเรื่องธรรมดา สิ่งนี้เป็นที่ได้รับการเปิดใจกล่าวถึงในสังคมยุคใหม่มากขึ้นเป็นอย่างมากจนกลายเป็นเรื่องปกติ จนผู้เฒ่าผู้แก่สายอนุรักษนิยมกลายเป็นคนกลุ่มน้อยอันแปลกแยกไปเสียแล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเหตุใดมนุษย์ถึงต้องพยายามหาโอกาสพิเศษเพื่อที่จะประกอบกิจ 4 อย่างนี้ให้ได้ต่อเนื่องกันตามลําดับอย่าง ประณีตเป็นแพตเทิร์นในวันวาเลนไทน์ ทั้งๆ ที่มันทําได้ทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ที่จําเป็นต้องหักอารมณ์ตุ้งแช่ อาบนํ้าสระผมหลายๆ รอบให้กลิ่นควันธูปกลิ่นประทัดจากการไปไหว้บรรพบุรุษช่วงตรุษจีนให้หลุดจากตัวให้หมดจดก่อน เพราะคงไม่มีใครอยากรู้สึกเหมือนว่ามีบรรพบุรุษกําลังจ้องดูอยู่ตลอดเวลาที่ประกอบกิจอันเป็นส่วนตัวเยี่ยงนี้อย่างแน่นอน

ตราบใดกรอบศีลธรรมไม่ถูกลํ้าเส้น และเป็นการสมยอมไม่ต้องกระทําโดยลําเค็ญ การหาความสุขทั้งทางกายและใจโดยไม่เปลืองค่าใช้จ่ายย่อมเป็นเรื่องสนุกสนานที่น่าสนับสนุน สุขภาพเซ็กซ์ที่ดีทําให้ไม่จําเป็นต้องมี Play Station 5 ติดบ้านให้เปลืองสตางค์ ศิลปินเพลงหลายรายทราบดี และหลายเพลงก็ถูกแต่งขึ้นมาจากแรงบันดาลใจเชิงวาบหวาม ถ่ายทอดออกมาด้วยภาษาเชิงวาบหวิว มาเพื่อแบ่งปันความสุขทางแพทย์ และช่วยขับกล่อมประโลมเล้าหัวใจแบ่งปันให้กับผู้ฟัง ลองมาดูกันว่ามีเพลงอะไรบ้างที่ถูกหยิบยกมาขึ้นแท่นบูชายัญกันในคํ่าคืนนี้

The XX: Intro (2015)

เริ่มมาก็หักมุมเลย นับเป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่มีเพลงบรรเลงเพลงนี้ของวงอินดี้อวกาศอย่าง The XX อยู่ในโผเพลงสุดเซ็กซี่ด้วย ซึ่งข้อมูลนี้ไม่ได้มีที่มาที่มั่วซั่วแต่อย่างใด แต่มันกลับมาจากแหล่งข้อมูลที่แทบจะน่าเชื่อถือที่สุด นั่นก็คือสถิติจาก 2.5 ล้านเพลย์ลิสต์ใน Spotify ที่ชาวโลกใช้สําหรับเปิดเป็นเพลงแบ็กกราวด์สําหรับประกอบกิจกาม ซึ่งมียอดสูงสุดในคืนวันวาเลนไทน์ มีเพลง Intro อยู่ในเพลย์ลิสต์เหล่านี้มากที่สุด และถูกเล่นบ่อยที่สุดเสียด้วย เหมือนมีพลังแห่งราคะบางอย่างแฝงอยู่ภายใต้บทบรรเลงความยาว 2 นาทีนี้ ซึ่งยากจะเดาถึงที่มาที่ไปของมัน บางทีเราอาจจะได้คําตอบจากการทดลองใช้เพลงนี้ดูก็ได้นะ ชี้เป้าให้แล้ว ประสบการณ์จริงคือคําตอบที่หนักแน่นที่สุด

Boyz II Men: I’ll make love to you (1994)

จริงๆ แล้วไม่อยากจะประเดิมเพลงต้นๆ ด้วยเพลงแสนคลิเช ที่ใครๆ ก็เขียนถึงกันในคอลัมน์ที่จั่วหัว ประมาณนี้อย่างเกร่อพอๆ กับเทรนด์สเกตบอร์ดในตอนนี้เลย แต่อย่างไรก็ตาม เราจะเริ่มเกมอย่างง่ายๆ แมสๆ ก่อน เพื่อเปิดใจให้มีสารหล่อลื่น เตรียมพร้อมเพลงรักสายลึกที่จะส่งตามมาได้อย่างละมุนขึ้น ไม่ให้รู้สึกฉุดกระชากลากถูจนเกินไป

เพลงนี้ไม่มีอะไรให้เขียนถึงมากนัก เพราะมันเป็นที่ประจักษ์ว่า นี่คือเพลงรักสุดเซ็กซี่ที่ประสบความสําเร็จที่สุดในยุค 90 ในฤดูที่เพลงแนว Contemporary R&B กําลังตกไข่สะพรั่ง เสียงร้องสอดประสานขั้นเทพของศิลปิน Boyz II Men จากปลายปากกาของ Babyface และดนตรีกลิ่นเทียนหอมจากสปาระดับไฮโซ ที่ซื้อมาแพงกว่าราคาขายส่งเกือบยี่สิบเท่า จะมีอะไรที่ย่อยง่ายไปกว่านี้เป็นไม่มี

Baby tonight is your night And I will do you right

Just make a wish on your night Anything that you ask

I will give you the love of your life”

“สุดที่รัก คํ่าคืนนี้ พี่ยกให้ อะไรใช่ พี่จะใส่ ทุกท่วงท่า ปรารถนา สิ่งใด ให้เอ่ยมา พี่จะพา สัมผัสรัก ไม่พักเลย”

The Sweetest Love: Robin Thicke (2009)

เพลงที่ส่อถึงความเซ็กซี่ไปหมดทุกสิ่งอย่าง ถึงแม้จะไม่มีการใช้ถ้อยคําที่กล่าวถึงเรื่องกิจกรรมนั้นอย่างโฉ่งฉ่างเลย โรบิน ธิค เลือกจะใช้ความสองแแง่สามง่าม วับๆ แวมๆ พอเร้าใจให้ไปต่อกันเอง เพราะมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีจินตนาการเหลือล้น และจินตภาพนี่แหละเป็นสิ่งที่เร้าใจที่สุดเหนือภาพจริงใดๆ ทั้งมวล เพียงแค่นํ้าเสียงอันออเซาะ ก็พาใจเปราะกันไปหลายแผลแล้ว สําหรับใครที่ยังไม่เคยได้รู้จักเพลงนี้ หวังว่ามันจะไปอยู่ในเพลย์ลิสต์ข้างเตียงของคุณในที่สุด แต่พึงระวังผลข้างเคียงของมัน เหมือนเสพกัญชาแล้วย่อมรู้สึกหิว ฉันใดก็ฉันนั้น

“Oh baby it feels so right

A new beginning starts tonight

The reason for when it’s on

Is because of you and me and sweetest love”

“โอ้ที่รัก ช่างถูกที่ ดีจริงๆ เหมือนทุกสิ่ง ได้เริ่มที่ราตรีนี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะเรามี ทุกเคมีที่ตรงกัน ฉันและเธอ”

Smokey Robinson: One Heartbeat (1987)

เพลง R&B จากค่าย Motown Record ช่างช่ำชองทํานองรักแนวสัปดี้ครีเอทีฟเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะเพลงนี้เรียกได้ว่าแทบจะเป็นที่สุดแห่งตํารารักตําหนักในของคุณน้าสโมกีย์ โรบินสัน กับเนื้อหาที่ว่าด้วยการ ‘ตํา’ คุณน้าแกลงรายละเอียดไปถึงฮาวทูตํา โดยใช้จังหวะการเต้นของหัวใจเป็นตัวกําหนดจังหวะการตํา กติกาคือให้หัวใจเต้นหนึ่งครั้งต่อการตําหนึ่งเหยาะ ราวกับต้องการประกอบกิจให้สอดประสานกับจังหวะของจักรวาล ค่อยๆ ตําเหยาะๆ ไปจนถึงวาระที่หัวใจเต้นเร็วและแรงขึ้น การตําระรัวตําซั่วจึงเกิดขึ้น เหยาะรัวๆ เข้าไปเหมือนซอสปรุงรส เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม

“Take it one heartbeat at a time

Close your eyes and let your soul unwind Sooner or later it’ll all fall in line

If we take it one heartbeat at a time

One heartbeat”

“หัวใจเต้นหนึ่งตุ๊บ ต่อการผลุบหนึ่งที หลับตานะคนดี ให้จิตใจได้ผ่อนคลาย ขอเพียงอีกไม่นาน จังหวะจะประสานกันพอดี เพียงแค่เรายึดสิ่งนี้ หนึ่งตุ๊บต่อหนึ่งทีดีไหมเธอ”

The Weeknd: I Feel It Coming feat. Daft Punk (2017)

เพลงจากศิลปินรุ่นใหม่จอมหมกมุ่น จนแทบจะสุ่มเพลงไหนมั่วๆ ของแกขึ้นมาก็จะมีแต่เรื่องป้วนเปี้ยนเสี้ยนรัก พี่ Weeknd คงไม่ชอบกิจกรรมเตะฟุตบอลหรือยืนแกว่งแขนสักเท่าไรนัก จึงต้องระบายความในใจออกมาเป็นเพลงแนวเต้นรําตําเล่นอย่างเช่นเพลงนี้

“Tell me what you really like Baby I can take my time We don’t ever have to fight Just take it step-by-step

I can see it in your eyes

‘Cause they never tell me lies

I can feel that body shake

And the heat between your legs”

“บอกมาเลย ว่าเธอนั้นชอบแบบไหน ฉันจะได้ ค่อยๆ ไต่ไปตามขั้น ไม่ต้องกลั้น ขอแค่ให้เธอปล่อยไหล ค่อยๆ ไปตามครรลองของสองเรา ฉันรับรู้ ได้จากสายตาเธอ มีความจริงอยู่ข้างในนั้นเสมอ รับรู้ถึงแรงสั่นจากกายเธอ และส่วนนั้นอันร้อนเร่า เร้าใจจริง”

D’Angelo-Untitled (How Does It Feel) (2000)

จะเซ็กซี่หรือวิตถาร ขึ้นอยู่กับรสนิยมของผู้รับ เพลงที่มากับเอ็มวีแนวเชื้อเชิญให้เสพสม แต่ก็อาจบ่มิสมใจใครบางคน เพราะนํ้าตกเนื้อเอ็นตุ๋นอาจไม่ใช่เมนูโปรดของทุกคน โดยเฉพาะเหล่าชายแท้ทั้งแท่ง เพราะเจ้าหมอนี่มันช่างดูเป็นผู้ป่วยโรคหลงตัวเองอย่างหนัก เหมือนนําเสนอกันแบบเดิมพันกันไปเลยว่า ถ้าไม่ Turn on ก็ Turn off ไปเลย แล้วจบด้วยการเอาง่ามเท้าดึงปลั๊กออก และสับคัตเอาต์ให้เสร็จสรรพ

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพลงที่ตรงไปตรงมาที่สุด ซึ่งเป็นเจตจํานงของ D’Angelo เอง ที่จะไม่ขออ้อมค้อม หรือเล่นคําที่มีชั้นเชิงใดๆ ผลที่ได้เลยออกมาโจ๋งครึ่มขนาดนี้ แต่ก็เป็นเพลงที่ทําให้เขาได้รับรางวัล Grammy Awards สาขาศิลปิน R&B ชายยอดเยี่ยมไปครองนะ

“I’d love to make you wet

In between your thighs ’cause

I love when it comes inside you

I get so excited when I’m around you, baby Oh, ahhh, oh, baby”

“พี่จะขุดตรงตานํ้าให้ชุ่มฉ่ำ ไม่เก็บงําให้มันไหลในผืนแปลง ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งเร้าใจ เมื่อไหลแรง โอ้ อย่าแหนงเหนียมอายเลยน้องยา”

Get You: Daniel Caesar Feat. Kali Uchis (2016)

เพลงโซลจังหวะหนืดๆ นัวๆ กับบรรยากาศขมุกขมัวคละคลุ้ง ที่ทําให้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นความฝัน แต่เป็นฝันที่ประสาทสัมผัสทั้งหมดรับรู้ได้เหมือนจริง ใครที่เคยมีประสบการณ์เด็ดดอกฟ้าสําเร็จมาแล้ว คงจะรู้สึกเชื่อมโยงกับเพลงนี้ได้อย่างดี ความอิ่มเอม ความรู้สึกตื่นเต้นปนขอบคุณ คุณค่าของความทรงจําปริ่มแฉะอันแสนวิเศษที่เธอมอบให้เราแต่เพียงผู้เดียวนั้น มันลืมไม่ลงไปจนวันตาย หรืออัลไซเมอร์เท่านั้นที่ จะพรากเราจากกันได้

“And when we’re making love

Your cries they can be heard from far and wide It’s only the two of us

Everything I need’s between those thighs”

“คราที่เราได้สวมสอด หยอดความรัก สุขสมนัก เมื่อเธอเปล่งเสียง สําเนียงสันต์ เพียงกายเรา ได้แนบชิด สนิทกัน สิ่งที่ฉันปรารถนา คือตะกร้าเธอ”

Russian Red: Loving Strangers (2010)

เพลงประกอบภาพยนตร์อินดี้สายหญิงรักหญิงเพลงนี้จากเรื่อง Room in Rome ถึงแม้ว่าเนื้อหาของเพลงจะไม่มีอะไรมาก แต่ก็เข้ากับบรรยากาศโรแมนซ์ของภาพยนตร์ และน่าจะเข้ากับบรรยากาศของชีวิตจริงของใครบางคนในคํ่าคืนนี้ก็ได้

“Give me a coin and I’ll take you to the moon You give me a beer and I’ll kiss you so foolishly”

“เพียงให้เศษสตางค์กับฉัน แล้วฉันจะพาเธอไปสู่ดวงจันทร์ เพียงเลี้ยงเบียร์ฉันสักแก้ว แล้วฉันจะจูบเธออย่างกะเร่อกะร่า”

Bruno Mars: Gorilla (2013)

ถ้าจะหยิบเพลงฮิตอย่าง Versace on the Floor ของพ่อหนุ่มคนนี้มาเปิด ถึงแม้มันจะโรแมนติกดีมาก แต่ก็คงให้ความรู้สึกไม่ต่างจากเพลง I’ll Make Love to You ในแบบฉบับของศตวรรษที่ 21 เท่าไรนัก ในเมื่อบทรักมีหลายรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ประกอบรักยังมีหลายสีหลายผิวสัมผัส จนป่านนี้ครีเอตกันไปถึงความสามารถในการเปลี่ยนอุณหภูมิของพื้นผิวแล้ว พ่อหนุ่มบรูโน มาร์ส เหมือนจะตระหนักถึงประเด็นนี้ได้ ดีกว่าคลินิกชูรักชูรส จึงมีบทเพลงที่สะท้อนถึงสัญชาตญาณดิบเถื่อนอย่างเพลง Gorilla เพลงนี้ออกมา ในเมื่อมนุษย์เรามีวิวัฒนาการมาจากลิง การร่วมรักแบบดุดันเยี่ยงวานรคงไม่แปลกอะไร เมื่อมันเป็นสิ่งที่ถูกถ่ายทอดต่อลงมาตามสายวิวัฒนาการฉบับดั้งเดิม

“Cause what I got for you

I promise is a killer, you’ll be banging on my chest bang bang, gorilla Ooh ooh ooh yeah, you and me baby making love like gorillas

Ooh ooh ooh yeah, you and me baby making love like gorillas”

“สิ่งที่ฉันเตรียมมาให้เธอ มันเด็ดดวงนะเออ จนเธอต้องทุบอกชกฉันเมื่อได้เจอ เพราะเราจะเย่อและยุด ฉุดตะลุมบอน เหมือนกอริลลา และเราจะเย่อและยุด ฉุดตะลุมบอน เหมือนกอริลลา”

Beyonce: Rocket (2013)

ปิดท้ายกันด้วยเพลงที่ติดเรตเอ็กซ์ที่สุดของคุณแม่บียอนเซ่ เป็น 6 นาทีแห่งความพลุ่งพล่านซ่านรักแบบอธิบายทุกสิ่งอย่างเป็นฉากๆ ราวกับหนังโป๊โปรดักชันสูง ที่มีซับไตเติลที่ใช้สําบัดสํานวนแบบนิยายปกขาวคลาสสิก ที่คุณผู้หญิงชอบแอบอ่านกัน อุปมาโวหารของนางช่างบรรเจิดราวกับบท Analogy แห่งความเร่าร้อน แค่ชื่อเพลง Rocket ก็คงเดากันออกว่า มันคือจรวดอะไร และยังใช้คําว่า Waterfall ที่ทําเอาเรานําลายสออยากจกอาหารอีสานย่านราชเทวีกับนํ้าจิ้มแจ่ว ที่แม้ทางร้านเขาจะใช้กรดมะนาวแทนมะนาวสดก็ตาม

Rock it ’til waterfall…ประโยคนี้ที่แม่นางร้องซํ้าๆ เหมือนอยากร้องเรียนผ่านรายการทุกข์ชาวบ้านให้ กทม. จัดการกับปัญหานํ้าท่วมจากขยะอุดตันทางระบายนํ้าโดยการ “กระทุ้งเข้าไปเยอะๆ จนนํ้าไหลเอ่อ” บียอนเซ่กล่าวถึงเพลงนี้ว่า เธอต้องการนําเสนออะไรที่ตรงไปตรงมา และมีความเป็นมนุษย์มากที่สุด และเธอต้องการจะเปิดเผยทุกแง่มุมเกี่ยวกับตัวเธอผ่านบทเพลง ซึ่งในแง่มุมนี้ไม่เคยได้ถูกกล่าวถึงอย่างชัด เจนสุดๆ มาก่อนเลย

“Then dip me under where you can feel my river flow and flow Hold me ’til I scream for air to breathe

And wash me over until my well runs dry

Send all your sins all over me, baby, me, baby, me”

“กินจิ้มจุ่มในหม้อ เดือดปุดๆ พัดให้สุด จนถ่านไฟ ร้องฉู่ฉี่ ซดนํ้าแกง อันข้นคลั่ก เกือบแห้งดี กินเต็มที่ ให้พุงกาง คาหม้อไฟ”

10 เพลงรักผ่านไปไวเหมือนโกหก หากใครใคร่ฟังแบบต่อเนื่องแบบไม่มีตะเข็บรอยต่อ เราได้รวบรวมไว้เป็นเพลย์ลิสต์สําหรับ Spotify ให้คุณแล้ว เพราะเราคือฝ่ายสนับสนุนที่ดี แต่ถ้าจู่ๆ มีโฆษณากับเสียงโฆษกจืดๆ มาคั่น อันนั้นถือเป็นความผิดของท่านเองนะ ที่ไม่ลงทุนสมัครพรีเมียม! สุขสันต์วันวาเลนไทน์ ขอให้พฤติกรรมพื้นฐานอันนี้นําพาสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีมาสู่ท่าน และเสริมสร้างสมานฉันท์ ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นสืบไป ขอจงไชโย