ตรุษจีนทั้งที สุดสัปดาห์นี้จะอยู่บ้านเฉยๆ ก็คงจะไม่ได้ คว้ากี่เพ้า เสื้อสีแดง แล้วออกไปเดินเล่นกินอาหารอร่อยในคาเฟ่ที่ตกแต่งสไตล์จีนให้ได้เข้ากับเทศกาลกันดีกว่า ส่วนจะมีที่ไหนบ้างนั้น เรารวบรวมมาให้คุณแล้ว
Ba Hao Tian Mi
Ba Hao Tian Mi หรือร้านปาเฮ่าเถียนมี่ ร้านพุดดิ้งย่านเยาวราช ได้เปิดสาขาใหม่ที่ตั้งใจจะเป็นสาขาแฟลกชิปที่ทองหล่อแล้ว และการเปิดสาขาใหม่ครั้งนี้ปาเฮ่าเถียนมี่มาพร้อมกับเมนูบรันช์สนุกๆ หลากหลายเมนู เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนในย่านทองหล่อ โดยเฉาะเมนู BHTM’S Brunch Set ที่ประกอบไปด้วยไข่กวน, ขนมปังปิ้ง, หมูก้อนทอด, กุนเชียง, มะเขือเทศ, สลัด และเนยกานาฉ่ายโฮมเมดของทางร้าน
Open: ทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
Address: ซอยสุขุมวิท 55 กรุงเทพฯ (ระหว่างซอยทองหล่อ 17 และ 19)
Contact: 09 2252 8942
อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่
เกาะดอกเหมย
เกาะดอกเหมยเป็นคาเฟ่สไตล์จีนที่ตั้งอยู่ย่านราชพฤกษ์ การตกแต่งที่เน้นสีแดง หน้าต่าง ประตู ผ้าม่าน และโคมสีแดงแบบจีนถูกประดับประดาอยู่ในร้าน เคล้าคลอกับเสียงดนตรีจีนเบาๆ ชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย ส่วนโซนด้านนอกร้านมีที่นั่งริมบ่อน้ำที่เต็มไปด้วยปลาคาร์ฟ ในวันที่อากาศดี โซนด้านนอกก็เหมาะกับการนั่งอ่านหนังสือไปพร้อมกับชาสักแก้ว ขนมของทางร้านอย่างโซ่ยซาน กิมหนี และวาฟเฟิลแปะก๊วยงาม้อน ส่วนใหญ่จะเป็นขนมไร้แป้ง ไร้เนย ไร้นม ไร้ครีม ไร้สารเสริม ตามความตั้งใจแรกของร้านที่อยากให้ทุกคนได้กินของดีมีประโยชน์
Open: วันศุกร์-พุธ เวลา 10.00-19.30 น. (หยุดวันพฤหัสบดี)
Address: ถนนอัจฉริยะประสิทธิ์ บางกรวย นนทบุรี (ถนนราชพฤกษ์ช่วงคลองมหาสวัสดิ์)
Contact: 09 4435 9000
อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่
DTF : Family Hungry Place
DTF ตั้งอยู่ในตึกหลังเก่าอายุกว่า 60 ปีย่านหลานหลวง ทางร้านเลือกอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ Sino-Southeast Asian Cuisine ที่นอกจากจะเสิร์ฟอาหารจีนซึ่งเป็นเมนูที่ครองใจคนไทย สิงคโปร์ และมาเลเซียแล้ว ยังมีอาหารที่ทางร้านได้รับสูตรมาจากครอบครัวเจ้าของบ้านอีกด้วย อาหารหลายเมนูของ DTF นั้นเป็นอาหารที่มีวัตถุดิบหลักเป็นเป็ด และแต่ละเมนูก็สร้างสรรค์มากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเมนูในซีรีส์ DFC อย่าง ‘Duck Nuggets’ (120 บาท) หรือชื่อภาษาไทยกวนๆ ว่า ‘แมคนักเป็ด’ เนื้อเป็ดบดที่นำมาปั้นให้รูปทรงคล้ายกับนักเก็ต ทอดจนกรอบ จิ้มกับซอสฮอยชินเค็ทฉัพ กลายเป็นนักเก็ตสไตล์จีนๆ นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูกับข้าวให้เลือกอีกมากมาย
Open: วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 11:30-15:00 น. และ 17:00-23:59 น.
Address: 209 ถนนจักรพรรดิพงษ์ วัดโสมนัส ป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
Contact: 0 2121 7485
อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่
XinXin Xingyin
คาเฟ่ขนมไต้หวันย่านอารีย์ที่เหมาะกับสายคาเฟ่ ด้วยบรรยากาศที่ทางร้านตั้งใจทำออกมาให้สงบ ครึ่งหนึ่งของร้านตกแต่งแบบคฤหาสน์จีน ส่วนอีกครึ่งหนึ่งถูกตกแต่งเป็นป่าไผ่สีเขียวสบายตา มีเพลงบรรเลงกู่เจิง บวกกับขนมหวานอย่าง บัวลอยงาดำแห้ง บัวลอยไส้งาดำโรยผงคินาโกะ ราดด้วยน้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดงผสานรสชาติสมุนไพรจีนอย่างพุทรา, เก๋ากี้, ลำไยแห้ง, มะตูม เพื่อเพิ่มความหวานกลมกล่อม พร้อมทำให้คุณเย็นใจในวันที่เหนื่อยๆ ได้ไม่ยาก
Open: ทุกวัน เวลา 11.00-21.30 น.
Address: 3/1 อารีย์สัมพันธ์ 5 กรุงเทพฯ
Contact: 06 5632 2646
อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่
Hēi Jīi
คาเฟ่แห่งนี้ซ่อนอยู่หลังประตูไม้บานเล็กๆ ในซอยเจริญกรุง 43 เมื่อเปิดเข้าไปจะพบกับบรรยากาศความเป็นจีนย้อนยุค เฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งล้วนเป็นของในความทรงจำของมิกทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นข้าวของจากบ้านอาม่า หรือเก้าอี้ถั่งเต๊ที่พ่อกับแม่ใช้ยกน้ำชา ส่วนบริเวณผนังมีโปสเตอร์ที่ลูกค้าประจำทำเองและเอามาฝาก เมนูที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอมากที่สุดคือ Hong Kong Papaya Milk นมมะละกอที่ปรับสูตรให้รสชาติละมุนขึ้น แต่ทางร้านพบว่าคนไทยยังไม่ชินกับรสชาติของมะละกอกับนมมากนัก อยากให้ลองเปิดใจชิมดู ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบผลไม้อยู่แล้วจะดื่มได้แบบง่ายๆ และอาจได้เมนูโปรดเมนูใหม่เลยทีเดียว
Open: วันอังคาร-อาทิตย์ 09.00-18.00 น. (ปิดวันจันทร์)
Address: ซอยเจริญกรุง 43 บางรัก กรุงเทพฯ
Contact: 06 2709 4545
อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่
East Lane BKK
ร้านอาหารจีนเปิดใหม่ในย่านอารีย์ที่จับเอาฟาสต์ฟู้ดแบบจีนอย่างข้าวหมูแดง, ข้าวหมูกรอบ, เกี๊ยวจีน และก๋วยเตี๋ยวเนื้อ มาเสิร์ฟในบรรยากาศเท่ๆ ด้วยการตกแต่งด้วยโทนสีดำดิบๆ เท่ๆ ตัดด้วยสีสว่างสดใสบ้างประปราย ป้ายไฟนีออนที่ชวนให้นึกถึงไชน่าทาวน์ และบาร์เครื่องดื่มข้างหน้า ร้านแบ่งออกเป็นสองส่วน ด้านหน้าจะเป็นบาร์เครื่องดื่มและโต๊ะกลมโซฟา ส่วนด้านหลังจะเป็นโต๊ะเก้าอี้ธรรมดา
Open: วันพุธ-จันทร์ (หยุดทุกวันอังคาร) เวลา 10.00-21.00 น.
Address: 128/10 ซอยพหลโยธิน 2 พญาไท กรุงเทพฯ
Contact: 08 0210 4242
อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่
JingJing Ice-cream
ไม่ไกลจากวัดมังกรฯ มากนัก มีร้านไอศกรีมสไตล์โฮมเมดซุกซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางตึกแถวเก่าในซอยเจริญกรุง 14 ด้วยคอนเซปต์ของร้านที่ต้องการนำเสนอไอศกรีมที่สมจริงที่สุด ไม่แต่งสีและกลิ่นสังเคราะห์ และนำเสนอรสชาติแท้ๆ ของวัตถุดิบ ด้วยเหตุนี้ไอศกรีมที่ร้านจึงไม่หวานมาก เพราะเน้นรสชาติจากวัตถุดิบจริงๆ สำหรับเมนูในเดือนนี้จะเป็นไอศกรีมส้ม ไม่ว่าจะเป็นส้มขิง, ช็อคโกแลตแยมส้ม และวอดก้าลาเวนเดอร์ส้มมะนาว รับรองว่าสายหวานทั้งหลายต้องชอบอย่างแน่นอน
Open: วันพุธ-จันทร์ (หยุดทุกวันอังคาร) เวลา 09:29-17:29 น.
Address: ซอยเจริญกรุง 14 เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
Contact: 08 1974 1929
Feng Zhu เกี๊ยวซ่าหน้าเปิด
ร้านเกี๊ยวสไตล์หว่องตั้งอยู่ที่ทางเข้าท่าเรือสี่พระยา ข้างศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ อยู่ไม่ไกลจาก Warehouse 30 และย่านครีเอทีฟอย่างเจริญกรุง เมื่อพูดถึงเรื่องเกี๊ยวซ่าที่นี่ เกี๊ยวซ่าเฟิงจูไม่ใช่เกี๊ยวทอด ด้วยความที่พื้นที่จำกัด หากมีการทอดย่อมก่อให้เกิดคราบสกปรกตลอดเวลา แถมยังกินได้ลำบาก เพราะต้องรอให้หายร้อนจึงได้กิน ไม่อย่างนั้นก็ลวกปาก เกี๊ยวซ่าไม่ได้มีกฎตายตัวว่าต้องทอด แล้วทำไมจะนึ่งไม่ได้ล่ะ นอกจากจะกินง่ายกว่าแล้ว ก็ยังดีต่อสุขภาพกว่าของทอดอีกด้วย มาถึงร้านแล้วไปรับกระดาษที่หน้าเคาน์เตอร์แล้วจดออร์เดอร์เกี๊ยวซ่าและท็อปปิ้งที่อยากกินได้เลย
Open: เปิดทุกวัน เวลา 10:00-20:00 น.
Address: ตรงข้ามทางเข้าริเวอร์ซิตี้ กรุงเทพฯ
Contact: 06 2264 4661
อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่
Lhong Tou Cafe
หลงโถวสร้างความแตกต่างและไม่เดินตามรอยใคร ด้วยคอนเซปต์ ‘จีนร่วมสมัย’ โดยนําเสนอความเป็นจีนเยาวราชที่มีเสน่หเ์ฉพาะตัว นํามาตีความใหมผ่านลูกเล่นที่สนุกสนานและสดใสในแบบฉบับของคนรุ่นใหม่ โดยเมนูที่ขึ้นชื่อของร้านคือ ซาลาเปาไส้ไข่เค็มลาวา ที่แป้งด้านนอกทอดกรอบ ด้านในไหลเยิ้มออกมาเป็นไส้คัสตาร์ดไข่เค็มหอมหวานมันสุดๆ ส่วนเมนูเครื่องดื่มที่ถูกพูดถึงอย่าง ชาไทยหลงโถว อันขึ้นชื่อว่าได้รสชาเข้มข้น หวานมัน แถมพิเศษด้วยการโรยฟองนมและตุ๊บตั๊บที่ด้านบน ทำใหสัมผัสได้ถึงความกรุบกรอบลงตัว อีกทั้งพร้อมเปิดตัว Lhong Tou Cafe สาขาสามย่าน ในวันที่ 1 มีนาคมนี้
Open: เปิดทุกวัน เวลา 08.00-22.00 น.
Address: 52 ถนนเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
Contact: 08 5824 6934
Jade Oldtown
คาเฟ่ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ในย่านซอยนานา เมื่อเดินเข้ามาก็จะพบกับบรรยากาศและกลิ่นอายของความเป็นจีนได้อย่างชัดเจน พร้อมเมนูขึ้นชื่ออย่างซุปงาดำ หรือจีหม่าหวู่ เต็มไปด้วยเมล็ดงาคุณภาพดีที่ผ่านการคั่วจนหอม บดให้ละเอียด และตุ๋นจนได้น้ำงาดำที่เนียนละเอียดเข้มข้น และได้เพิ่มไส้ขนมบัวลอยงาดำเพิ่มความอร่อยหนุบหนับหวานงาดำจากไส้ตรงกลางเพิ่มขึ้น ทางร้านมีน้ำตาลทรายแดงชนิดที่ไม่ผ่านกระบวนการมาเคี่ยวจนหอมมาเพิ่มความหวานให้อีกด้วย ซุปงาดำนี้มีให้เลือกรับประทานแบบร้อนและเย็น เมื่อสั่งเครื่องดื่มแล้ว ก็ลองแวะขึ้นมาบนชั้นสอง ที่เป็นอาร์ตแกลเลอรีที่เต็มไปด้วยการจัดงานนิทรรศการศิลปะเอาไว้ ทั้งยังสัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมจีนด้วยโคมไฟสีแดงและภาพวาดต่างๆ ได้อีกด้วย
Open: เปิดทุกวัน เวลา 10:00-17:00 น.
Address: 86 ถนนพระราม 4 เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
Contact: 06 5549 4924
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล