×

Zoom from Home ไวยากรณ์ใหม่ของสื่อที่กำลังท้าทายรายการออนไลน์และพอดแคสต์

27.04.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • สิ่งที่โปรแกรม Video Conference ในยุคปัจจุบันมอบให้กับทุกคนคือ สิทธิในการเข้าทำรายการไลฟ์หรือจัดทอล์กทางไกลได้ง่ายขึ้น ด้วยความที่โปรแกรมโหลดง่าย ใช้ง่าย ความสะดวกเหล่านี้ทำให้คนที่อยากครีเอตไลฟ์ทอล์กสามารถทำได้ง่ายขึ้นมาก รวมถึงการชักชวนคนอื่นมาร่วมรายการก็จะง่ายขึ้นตามไปด้วย 
  • บรรยากาศรอบๆ ตัวผู้สนทนาที่ไร้ซึ่งการจัดไฟจากทีมงานมืออาชีพ ไม่มีฉากสวยงามที่ผ่านการเลือกสรรของตากล้อง เหลือเพียงแค่แสงไฟจากมือถือหรือแล็ปท็อปที่สาดเข้าหน้าของแขกรับเชิญรายการ รวมถึงเสียงบรรยากาศอาจมีเสียงของคนในบ้านหรือรถขายผลไม้ในซอยแทรกเข้ามาเรื่อยๆ ได้ ความไม่ออฟฟิเชียลเหล่านี้กลับสร้างความรู้สึกพิเศษ Very Personal ให้กับผู้ชมได้อย่างดี เหมือนพวกเขากำลังนั่งล้อมวงคุยกับวิทยากรอย่างใกล้มากยิ่งกว่าสัมมนาใดๆ
  • ไลฟ์สดผ่าน Zoom ตอบสนองเซนส์ความชอบแอบมองของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี มันจึงกลายเป็นเสน่ห์สำคัญของการไลฟ์แบบนี้ เพราะมันตอบสนองพฤติกรรมของคนยุคนี้ได้อย่างมาก แม้ว่าเสียงจะห่วยหรือภาพจะแตกก็ตาม กลายเป็นว่าความคุณภาพต่ำของอุปกรณ์เหล่านั้นยิ่งเสริมให้ไลฟ์นั้นมีชีวิตมากขึ้น เหมือนเราอยู่ใกล้ผู้พูดมากขึ้น 

ทุกวันนี้เรามี Facebook Live ฉบับพิเศษให้ได้ดูทุกวัน อาจจะมากกว่าโลกในภาวะปกติด้วยซ้ำ ไล่ไปตั้งแต่ไลฟ์ทอล์กพร้อมกัน 3-4 คนในหัวข้อพิเศษ การจับกลุ่มสัมภาษณ์สดกับบุคคลที่ไม่น่าจะมารวมตัวกันได้ง่ายๆ การไลฟ์เล่นดนตรีที่นักดนตรีแต่ละคนอยู่ในห้องนอนของตัวเอง ฯลฯ คนทั่วไปฝึกหัดในการใช้โปรแกรม Video Conference อย่างโปรแกรม Zoom สำหรับการไลฟ์สดมากขึ้น และโปรแกรมที่ช่วยในการบรอดแคสต์ก็ไม่ใช่โปรแกรมเฉพาะสำหรับนักแคสต์เกม แต่กลายเป็นโปรแกรมสื่อสารสำหรับทุกคน

 

ว่าง่ายๆ คือการสื่อสารแบบไลฟ์สดไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือสำหรับดาราที่ไว้ใช้สื่อสารแบบส่วนตัวมากๆ กับแฟนๆ ไม่ได้แค่เอาไว้ให้แม่ค้าพ่อค้าขายของออนไลน์อีกต่อไป ไลฟ์สดในวันนี้ถูกใช้สำหรับบรอดแคสต์บทสนทนาของผู้คนมากกว่า 1 คนใน 1 หน้าจอ มันทำให้การไลฟ์สดค่อยๆ กลายร่างมาเป็นอะไรที่คล้ายๆ รายการข่าว รายการทีวี หรือพอดแคสต์มากขึ้น และที่พิเศษกว่าคือ การไลฟ์ทอล์กเหล่านี้ปกติจะเกาะอยู่กับรายการข่าวต่างๆ (เช่น ผู้ให้สัมภาษณ์ไม่ว่างจึงวิดีโอคอลกัน) แต่ในรอบนี้มาจากกลุ่มมากมายหลายสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานสายวิทยาศาสตร์ สังคม หรือศิลปะ

 

อะไรที่ทำให้สิ่งที่คนทั่วไปเรียกว่า ‘ไลฟ์สดผ่าน Zoom’ มีความพิเศษมากกว่าสื่อรายการปกติข้างต้น อะไรที่ทำให้มันเป็น Aesthetic แบบใหม่ เป็นวัฒนธรรมแบบใหม่ที่อาจจะอยู่รอดต่อไปหลังจากหมดโควิด-19 แล้ว ควรลองซูมดู

 

 

  1. การเกิดได้ง่ายของแมตช์พิเศษ

สิ่งที่โปรแกรม Video Conference ในยุคปัจจุบันมอบให้กับทุกคนคือ สิทธิในการเข้าทำรายการไลฟ์หรือจัดทอล์กทางไกลได้ง่ายขึ้น ด้วยความที่โปรแกรมโหลดง่าย ใช้ง่าย บางเว็บไซต์อย่าง StreamYard ก็อนุญาตให้คุณทำทุกอย่างจบได้ในเว็บไซต์กันเลย ไม่ต้องโหลดโปรแกรมหรือแอปฯ ออกมาแต่อย่างใด 

 

ความสะดวกเหล่านี้ทำให้คนที่อยากครีเอตไลฟ์ทอล์กสามารถทำได้ง่ายขึ้นมาก รวมถึงการชักชวนคนอื่นมาร่วมรายการก็จะง่ายขึ้นตามไปด้วย เพราะแขกรับเชิญก็จะรู้สึกว่าพวกเขาไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปสตูดิโอเพื่อถ่ายสัมภาษณ์ หรือพวกเขาสามารถเลือกเวลาที่ตัวเองสะดวกได้ง่ายขึ้น เพราะสามารถไลฟ์กันได้ที่บ้านเลย หรือถ้าคิดไปถึงแขกรับเชิญบางคนที่อยู่ต่างประเทศ เรื่องระยะทางก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป คนทำรายการยิ่งสามารถขยายฐาน ขยายลิสต์คนที่อยากจะสัมภาษณ์หรือพูดคุยได้กว้างขึ้น ดังนั้นเปอร์เซนต์การเกิดขึ้นของไลฟ์ทอล์กหรือไลฟ์โชว์แมตช์พิเศษต่างๆ มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ง่าย และมีความถี่ในการเกิดสูง เพราะคนริเริ่มทำได้ง่าย และตัวผู้มาร่วมสนุกก็รู้สึกว่าไม่ได้ลำบากอะไรนัก (และในช่วงกักตัวนี้อาจจะเหงาด้วย ก็อยากคุยกับผู้คนอยู่พอดีเช่นกัน)

 

เหล่าคนสร้างไลฟ์ทอล์กเหล่านี้ยังคุยกันอยู่ว่าภาวะปกติทำไมเราถึงไม่ทำอะไรกันแบบนี้ ทั้งๆ ที่มันง่ายมาก

 

 

  1. บ้านและห้องนอน

ลึกๆ แล้วส่วนหนึ่งทำให้การไลฟ์สดผ่าน Zoom นั้นมีความพิเศษมากกว่าการไปออกรายการทีวีหรือไปบรอดแคสต์ที่ห้องสตูดิโอต่างๆ ตามปกติ มันคือบรรยากาศรอบๆ ตัวผู้สนทนาที่ไร้ซึ่งการจัดไฟจากทีมงานมืออาชีพ ไม่มีฉากสวยงามที่ผ่านการเลือกสรรของตากล้อง ไม่มีการเมกอัพและเสื้อผ้าสวยงามจากห้องแต่งตัว ไม่มีเสียงเอฟเฟกต์เติมเข้าเพิ่มความสนุกให้กับรายการ เหลือเพียงแค่แสงไฟจากมือถือหรือแล็ปท็อปที่สาดเข้าหน้าของแขกรับเชิญรายการ มุมกล้องเสยคางที่ดูไร้ความเป็นมืออาชีพ ฉากรอบๆ ที่น่าจะเป็นห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนของตัวพิธีกร รวมถึงเสียงบรรยากาศอาจมีเสียงของคนในบ้านหรือรถขายผลไม้ในซอยแทรกเข้ามาเรื่อยๆ ได้ ความไม่ออฟฟิเชียลเหล่านี้กลับสร้างความรู้สึกพิเศษ Very Personal ให้กับผู้ชมได้อย่างดี เหมือนพวกเขากำลังนั่งล้อมวงคุยกับวิทยากรอย่างใกล้มากยิ่งกว่าสัมมนาใดๆ จะบอกว่าเหมือนไปนั่งกินเหล้ากับเขาที่บ้านเลยก็ว่าได้ หลายคนนี่มัวแต่มองห้องนอนด้านหลังคนพูดมากกว่านั่งฟังคนพูดด้วยซ้ำ ราวกับได้ไปบุกบ้านดาราอะไรแบบนั้น

 

และอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยความที่ผู้สนทนาทุกคนนั่งอยู่บนโซฟาที่บ้านหรือบนเตียงที่ห้องนอน ท่าทีของการพูดคุยแม้ว่าจะดูเป็นทางการในช่วงแรกๆ แต่สักพักเกือบทุกคนจะรู้สึกสบาย เพราะเหมือนคุยอยู่กับเพื่อนที่บ้าน และลืมไปว่าพวกเขาอยู่ในการไลฟ์ที่มีผู้ชมนับร้อยนับพันกำลังเฝ้ามองอยู่ ดังนั้นบรรยากาศของการสนทนาจะดูมีความเป็นกันเองสุดๆ แตกต่างจากการไปออกรายการทีวีหรือพอดแคสต์ที่ทีมงานหรืออุปกรณ์มากมายมีส่วนกำหนดทำให้ท่าทีในการพูดคุยเป็นทางการมากขึ้น

 

ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดบรรยากาศที่หาไม่ได้จากรายการทีวีหรือ YouTube ตามปกติ การได้เห็นหน้าเห็นตาของคนพูดตลอดเวลาก็จะให้ความรู้สึกที่ใกล้ชิดมากกว่าการฟังพอดแคสต์ การที่ได้เห็นคนพูดคุยหลายๆ จอพร้อมๆ กันนั้นช่วยมอบอิสระในการมองให้กับผู้ชมอย่างน่าประหลาด เพราะปกติรายการทีวีจะบังคับให้คนมองอะไรหรือมองใครด้วยการตัดต่อ แต่ถ้าเป็นการไลฟ์สดผ่าน Zoom นี้ ผู้ชมมีสิทธิ์กำหนดว่าจะมองใครด้วยตัวพวกเขาเอง ถ้ามีใครสักคนพูดประโยคเด็ดๆ อะไรขึ้นมาในวงสนทนา เราจะสามารถเห็นรีแอ็กชันของทุกคนได้ แล้วแต่ว่าเราจะมองใคร อันนี้ก็เป็นความรู้สึกใหม่ๆ ที่ได้จากการดูสิ่งนี้

 

 

  1. แอบดู แอบฟัง

ด้วยบรรยากาศการไลฟ์ที่ไม่มืออาชีพผ่านอุปกรณ์แบบมือสมัครเล่น เสียงผ่านไมโครโฟนคอมพิวเตอร์ และภาพจากล้องหน้ามือถือหรือกล้องหน้าแล็ปท็อป ไลฟ์สดผ่าน Zoom ตอบสนองเซนส์ความชอบแอบมองของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี มันจึงกลายเป็นเสน่ห์สำคัญของการไลฟ์แบบนี้ เพราะมันตอบสนองพฤติกรรมของคนยุคนี้ได้อย่างมาก แม้ว่าเสียงจะห่วยหรือภาพจะแตกก็ตาม กลายเป็นว่าความคุณภาพต่ำของอุปกรณ์เหล่านั้นยิ่งเสริมให้ไลฟ์นั้นมีชีวิตมากขึ้น เหมือนเราอยู่ใกล้ผู้พูดมากขึ้น กลายเป็นว่าในยุคที่อะไรๆ ก็ High Definition อะไรที่มัน Small Definition กลายเป็นดูจริงขึ้นเสียอย่างนั้น และนั่นทำให้โลกของโซเชียลมีเดียเติบโตอย่างรวดเร็วมาจนถึงวันนี้ เพราะมันเป็นแพลตฟอร์มที่กระตุ้นให้แต่ละคนเอาโลกส่วนตัวของตัวเองมาให้คนอื่นแอบมอง และเราก็ติดโซเชียลมีเดียกันเพราะตัวเราเองก็ชอบพาตัวเองไปแอบมองโลกของคนอื่นอย่างสนุกสนานเช่นกัน

 

ผมคิดว่าสุดท้ายหากยุคโควิด-19 ผ่านไป การไลฟ์สดผ่าน Zoom อาจจะกลายเป็นช่องทางใหม่ให้ครีเอเตอร์ต่างๆ ได้เลือกใช้เป็นหนทางในการสื่อสารหรือนำเสนอรูปแบบรายการใหม่ๆ ที่มากไปกว่าการทำรายการทีวีออนไลน์หรือพอดแคสต์ เราไม่อาจจะบอกได้ว่ามันจะมาแทนที่สื่อไหนอย่างไรหรือไม่ และส่วนตัวผมคิดว่าเราก็ไม่จำเป็นจะต้องคิดว่าสื่อใหม่จะมาเขี่ยสื่อเก่าลงไปหรือไม่ เพราะเราอยู่ในยุคที่ทุกคนควรได้มีชอยส์เยอะๆ ในการเลือกสื่อที่เหมาะสมกับการสื่อสารของตัวเองมากกว่า การมาถึงของไลฟ์สดผ่าน Zoom นั้น แม้ว่าตัวมันเองอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกด้าน แต่มันก็ช่วยปลดล็อกให้เราได้ยินเสียงใหม่ๆ จากผู้คนกลุ่มใหม่ๆ อาชีพใหม่ๆ จากจุดอื่นๆ ของสังคมมากขึ้น และนั่นเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่พอจะมีให้เห็นบ้างในช่วงเวลาที่มืดมนเช่นนี้

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising