เปิดกลยุทธ์ ‘ยืดเปล่า’ แบรนด์เสื้อยืดสัญชาติไทยที่อยู่ในตลาดมากว่า 6 ปี ถึงวันนี้รายได้โตขึ้นทุกปี ไม่หวั่นคู่แข่งในตลาด ล่าสุดทุ่มงบ 20 ล้านบาททำตลาดครั้งแรก เปิดตัว ‘Tailor Cool Polo Innovation’ ชูจุดขายเสื้อโปโล 18 สี 20 ไซส์ วางขาย 590 บาท ดึงลูกค้าหน้าใหม่
ทนงค์ศักดิ์ แซ่เอี้ยว ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ยืดเปล่า (Yuedpao) กล่าวว่า ยืดเปล่าเป็นแบรนด์ที่ขับเคลื่อนด้วยคนรุ่นใหม่ มีหัวใจของธุรกิจคือ Customer Centric จึงทำให้เป็นองค์กรที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว คิดไว ทำเลย เรียนรู้เร็ว พร้อมศึกษาอินไซต์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าตลอดเวลา จากนั้นก็นำอินไซต์มาปรับปรุงพัฒนาแบรนด์ให้อยู่ภายใต้สโลแกน ‘ยืดแต่ไม่ย้วย’
ทั้งการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ โดยเสื้อยืดของแบรนด์ทำมาจากผ้า Cotton ผสม Polyester ทำให้มีคุณสมบัติยับยาก เพิ่มความสะดวก และตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ทั้งนี้ ปัจจุบันแบรนด์ยืดเปล่า ไม่ได้ขายแค่เสื้อยืดเพียงอย่างเดียว แต่ขยายไลน์สินค้าอย่างหลากหลาย มีทั้งเสื้อยืด เสื้อแขนยาว เสื้อฮู้ด เดรส เสื้อครอป และหมวก สิ่งที่ทำให้แบรนด์สำเร็จได้ก็คือ จุดขายเรื่องคุณภาพของสินค้า และราคาที่เข้าถึงง่าย ปัจจุบันมีทั้งหมด 62 สาขา กระจายอยู่ในศูนย์การค้าต่างๆ
ตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน ทิศทางธุรกิจเริ่มทำรายได้เติบโตขึ้นเป็นสองเท่าในทุกๆ ปี แบรนด์ยืดเปล่าเริ่มเป็นที่ยอมรับ แต่ยังไม่หยุดเพียงแค่นี้ บริษัทมีเป้าหมายให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากกว่าเดิม
เป็นที่มาของการทุ่มงบการตลาด 20 ล้านบาท เปิดตัวเสื้อโปโล ‘tailor Cool Polo Innovation’ ที่บริษัทซุ่มพัฒนามากว่า 2 ปี เน้นชูจุดขายนวัตกรรมของเสื้อโปโลทั้งความเย็น ใส่สบาย และมีสีมากถึง 18 สี 20 ไซส์ วางขายในราคา 590 บาท
เปิดตัวมาพร้อมแคมเปญ ‘Your Size Fits All ยืดให้ทุกไซซ์ Pride ให้ทุกตัวตน’ พร้อมดึงผู้ที่มีชื่อเสียง 5 คน ได้แก่ รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น, สเตฟาน-ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์, ชาร์เลท-วาศิตา แฮเมเนา, ปิงปอง-ธงชัย ทองกันทม, และ นะ-รัตน จันทร์ประสิทธิ์ จากวง Polycat ทั้ง 5 คนนี้เข้ามาช่วยสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์ เน้นให้เห็นถึงความหลากหลายในสังคม ทั้ง วัย เพศ และสีผิว
ผู้ก่อตั้งแบรนด์ยืดเปล่ายอมรับว่าเป็นน้องใหม่ในตลาดเสื้อโปโลก็จริง แต่ไม่กังวลเพราะที่ผ่านมาได้ศึกษาความต้องการของลูกค้ามานาน จนได้สิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ และเชื่อว่าตลาดยังมีช่องว่างอยู่มาก
แม้แบรนด์ใหญ่ๆ ในตลาดเน้นสินค้าที่มีนวัตกรรมความคูลเหมือนกัน แต่ของยืดเปล่านั้นผ้าไม่ได้มีแค่ความคูลอย่างเดียว แต่มีมิติเรื่องของการออกแบบทั้งดีไซน์ สี ต่างๆ และราคาก็เข้าถึงง่าย ถ้าเทียบกับราคาในตลาดเสื้อโปโลจะอยู่ที่ 700 บาทขึ้นไป
คำถามที่ตามมาคือ ทำไมถึงขายได้ในราคา 590 บาท ผู้ก่อตั้งแบรนด์ยืดเปล่าย้ำว่า เป็นเพราะตั้งจากต้นทุนเป็นหลัก สามารถบริหารและควบคุมต้นทุน ทั้งการผลิต สต็อกสินค้า และการขนส่งได้เป็นอย่างดี และจากนี้แบรนด์ก็พร้อมขยายไลน์โปรดักต์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า พร้อมลงทุนขยายสาขาเพิ่มอีก 8 แห่ง เน้นเปิดในศูนย์การค้าเป็นหลัก
สุดท้ายแล้วการเปิดตัวเสื้อโปโลจะสร้าง New S-Curve ของแบรนด์ไปพร้อมกับการได้ฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้ายอดขายเสื้อโปโลมากกว่า 500,000 ตัว ภายในสิ้นปี 2567