ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมนโยบายการเงินล่าสุด ยืนยันจุดยืนที่จะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายและคงดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำต่อไป ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของเงินเยนที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้การประชุมในวันนี้ (28 เมษายน) BOJ มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ -0.1% พร้อมกับย้ำว่าจะเดินหน้าคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเพื่อดูแลเศรษฐกิจ ขณะที่เงินเฟ้อแม้เร่งตัวขึ้นบ้าง แต่เป็นผลจากปัจจัยชั่วคราว
นอกจากนี้แถลงการณ์ BOJ ยังระบุด้วยว่า BOJ จะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของญี่ปุ่นแบบไม่จำกัดจำนวนทุกวัน เพื่อปกป้องอัตราผลตอบแทน หรือบอนด์ยีล อายุ 10 ปีไว้ที่ 0.25%
ถ้อยแถลงของ BOJ ส่งผลให้เกิดการเทขายเงินเยนรอบใหม่ในตลาดทันที ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงจากระดับ 126.68 เยนต่อดอลลาร์ ไปแตะระดับ 130 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าที่สูงสุดในรอบ 20 ปี
ขณะเดียวกันในรายงานฉบับล่าสุดของ BOJ ยังมีการปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของญี่ปุ่นหลายตัวจากเมื่อ 3 เดือนก่อน เช่น ขยับคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้เพิ่มจาก 1.1% เป็น 1.9% และปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP ในปีนี้ลงจาก 3.8% เหลือ 2.9%
ปัจจุบันเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากเงินเฟ้ออย่างหนักจากผลกระทบของสงครามในยูเครนและปัญหาซัพพลายดิสรัปชัน โดยคาดว่าระดับเงินเฟ้ออาจพุ่งขึ้นแตะระดับ 2% ในเดือนเมษายนนี้ แต่ในเวลาเดียวกันญี่ปุ่นก็ยังจำเป็นต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้การดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายยังมีความจำเป็น
การดำเนินนโยบายการเงินที่สวนทางกับสหรัฐฯ ที่เริ่มขึ้นดอกเบี้ยไปแล้วตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม ได้ส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องจากระดับ 118 เยนต่อดอลลาร์ และมีความเป็นไปได้เงินเยนจะยังมีทิศทางอ่อนค่าต่อไปจากการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP
