‘เงินเยน’ ญี่ปุ่นยังทำสถิติอ่อนค่าลงต่อเนื่อง เช้าวันนี้ร่วงสู่ระดับ 127.44 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ เหตุกังวลแนวโน้ม Fed เร่งใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงปัญหาสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่กลับมาร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง ทำนักลงทุนหันถือเงินดอลลาร์เพิ่ม
ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ล่าสุดเช้าวันนี้ (19 เมษายน) เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 127.44 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 20 ปี ขณะที่เงินเยนเทียบเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 26.77 บาทต่อ 100 เยน เป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 25 ปี นับจากวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เงินเยน เช้าวันนี้ยังอ่อนค่าลงต่อเนื่อง แตะระดับ 127.44 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ
- ชมคลิป: เงินเยน ร่วงหนัก ทำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 25 ปี คนไทยแห่แลกเก็บรอเที่ยว | Morning Wealth 19 เม.ย. 2565
พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ความกังวลแนวโน้ม Fed เร่งใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงปัญหาสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่กลับมาร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง ทำให้ผู้เล่นในตลาดเลือกที่จะยังคงสะสมสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 100.8 จุด
ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดจะปิดรับความเสี่ยง แต่จะเห็นได้ว่าผู้เล่นในตลาดกลับเลือกที่จะถือเงินดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่าเงินเยนญี่ปุ่น เนื่องจากส่วนต่างระหว่างบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ กับญี่ปุ่นนั้นยังคงเพิ่มขึ้น จากแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยและเร่งลดงบดุลของ Fed ทำให้เงินเยนอ่อนค่าต่อเนื่องสู่ระดับ 127 เยนต่อดอลลาร์
นอกจากนี้ ความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อหลบความผันผวนในตลาดการเงิน ยังช่วยหนุนให้ราคาทองคำสามารถทรงตัวเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ก่อนที่จะเผชิญแรงกดดันจากทั้งแรงขายทำกำไร รวมถึงการปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ กดดันให้ราคาทองคำย่อตัวลงสู่ระดับ 1,980 ดอลลาร์ต่อออนซ์
โดยพูนประเมินว่า ราคาทองคำยังมีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways ต่อ โดยได้แรงหนุนจากความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัย แต่หากตลาดไม่ได้ปิดรับความเสี่ยงรุนแรง ราคาทองคำก็อาจติดแนวต้านแถว 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะจับตาสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังรัสเซียเดินหน้าบุกโจมตีพื้นที่ฝั่งตะวันออกและทางตอนใต้ของยูเครนหนักขึ้น ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนยังคงกังวลว่าสถานการณ์สงครามอาจยืดเยื้อกว่าที่คาด และบรรดาประเทศฝั่งตะวันตกโดยเฉพาะยุโรปอาจตัดสินใจใช้มาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียได้
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท ประเมินว่า เงินบาทยังคงผันผวนในกรอบ Sideways ต่อ โดยมีปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่ามาจากทิศทางของเงินดอลลาร์ที่ยังแข็งค่าขึ้นจากแนวโน้ม Fed เร่งใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดและความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในระยะสั้น
นอกจากนี้ ในสัปดาห์นี้จะมีโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลราว 4-5 พันล้านบาท ซึ่งอาจเป็นแรงกดดันต่อค่าเงินบาทได้ โดยโฟลว์ขายทำกำไรราคาทองคำ หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นแตะแนวต้านสำคัญก็อาจพอช่วยไม่ให้เงินบาทอ่อนค่าไปมากได้ในช่วงนี้
นอกจากนี้ ยังเริ่มเห็นผู้ส่งออกต่างรอทยอยขายเงินดอลลาร์ในช่วงโซน 33.70-33.80 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้หากตลาดไม่ได้อยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยงไปมาก เงินบาทก็อาจไม่ได้เผชิญแรงกดดันจนอ่อนค่าทะลุโซนดังกล่าวได้ง่าย
ทั้งนี้ ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูง เราแนะนำว่าผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ ใช้ออปชันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.65-33.80 บาทต่อดอลลาร์
อ่านบทความเกี่ยวกับ เงินเยน เพิ่มเติมได้ที่ ค่าเงินเยน
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP