ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน ออกโรงกระตุ้นบรรดานักการทูตของจีนให้ร่วมกันสร้าง ‘กองทัพเหล็กทางการทูต’ ที่จงรักภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์ นับเป็นการส่งสัญญาณถึงการกลับมาใช้วิวาทะทางการทูตที่แข็งกร้าวเพื่อตอบโต้อิทธิพลของชาติตะวันตก
“กล้าที่จะเก่งในการต่อสู้ และเป็นผู้ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของอธิปไตย ความมั่นคง และการพัฒนาของชาติอย่างเด็ดเดี่ยว ด้วยท่าทีที่พร้อมและเจตจำนงแน่วแน่ที่จะท้าทายอำนาจที่แข็งแกร่ง” สถานีโทรทัศน์ CCTV ของทางการจีนรายงานคำกล่าวของ สีจิ้นผิง ที่กล่าวกับนักการทูตจีนประจำต่างประเทศที่มารวมตัวกันอยู่ ณ กรุงปักกิ่ง เมื่อวันศุกร์ (29 ธันวาคม)
การทูตแบบนักรบหมาป่า
คำกล่าวของผู้นำจีนทำให้หลายฝ่ายนึกถึง ‘การทูตแบบนักรบหมาป่า’ (Wolf Warrior Diplomacy) หรือการใช้วาทศิลป์ดุดันและพร้อมท้าชน ซึ่งนักการทูตจีนนำมาใช้ตั้งแต่ปี 2020 แต่ดูเหมือนว่าจะลดบทบาทลงในปีนี้ เนื่องจากจีนพยายามดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศท่ามกลางเศรษฐกิจในประเทศที่ซบเซาลง ประกอบกับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ได้กลับมาเป็นมิตรกันในช่วงสั้นๆ หลังจากที่สีได้พบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันจีนกำลังมีข้อพิพาททางการทูตกับฟิลิปปินส์เกี่ยวกับแนวปะการังในทะเลจีนใต้ รวมถึงข้อพิพาทกับญี่ปุ่นเกี่ยวกับการปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นโอกาสให้การทูตแบบนักรบหมาป่ากลับมาโดดเด่นอีกครั้ง
จงรักภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์
นอกจากนี้ สียังได้กระตุ้นให้เหล่านักการทูตปฏิบัติตามวินัยของพรรค โดยกล่าวคำว่า “อย่างเคร่งครัด” ซ้ำถึง 7 ครั้งในระหว่างการกล่าวปาฐกถาพิเศษประจำปี หลังเสร็จสิ้นการประชุม Central Foreign Affairs Work Conference ซึ่งเป็นการประชุมลับระดับสูงด้านการวางแผนนโยบายต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่จัดขึ้นทุกๆ 5 ปี และปิดฉากลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (28 ธันวาคม)
“เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับกฎเกณฑ์และวินัยเป็นลำดับแรก กวดขันวินัยในตนเองอย่างเคร่งครัด มีความรับผิดชอบอย่างเข้มงวด…และสร้างกองทัพเหล็กทางการทูตที่จงรักภักดีต่อพรรค…กล้าและเก่งในการต่อสู้ และปฏิบัติตามวินัยอย่างเคร่งครัด” สีกล่าวระหว่างการประชุมร่วมกับเหล่านักการทูตที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง
คำกล่าวของสีเกิดขึ้นท่ามกลางการกดดันทางวินัยครั้งใหม่ต่อคณะทูตของจีน หลังจากที่ ฉินกัง รัฐมนตรีต่างประเทศคนก่อน ถูกถอดออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนกรกฎาคม หลังเข้ามารับตำแหน่งได้เพียง 7 เดือน ท่ามกลางข่าวลือเรื่องชู้สาว
“ความจงรักภักดีต่อพรรค ประเทศ และประชาชน คือธรรมเนียมปฏิบัติทางการทูตที่น่าสรรเสริญ” สีกล่าว
“เราจำเป็นที่จะต้องสร้างแนวป้องกันทางอุดมการณ์ที่แข็งแกร่ง…และเป็นคนฉลาดที่มีความเชื่อทางการเมืองที่หนักแน่น ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และวินัยอย่างเคร่งครัด”
ต่อสู้กับตะวันตก
นอกจากนี้ สียังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จีนจะต้องเพิ่มอิทธิพลระหว่างประเทศเพื่อต่อสู้กับความพยายามของตะวันตกที่จะควบคุมและปราบปรามจีน โดยสีกล่าวคำว่า “ต่อสู้” ซ้ำถึง 5 ครั้ง
“เราจะต้องสร้างมิตรภาพที่กว้างขวางและลึกซึ้ง และการต่อสู้เพื่อเอาชนะใจประชาชนจะต้องดำเนินการในทุกระดับ เราต้องใช้ภาษาต่างประเทศและวิธีการเล่าเรื่องจีนให้ดี” สีกล่าว โดยสะท้อนถึงถ้อยแถลงเมื่อเดือนมิถุนายน 2021 ซึ่งสีเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของจีนสร้างภาพลักษณ์ที่ ‘น่าเชื่อถือ น่ารัก และน่านับถือ’
ในการประชุม Central Foreign Affairs Work Conference สียังได้ตอกกลับ ‘การกลั่นแกล้ง’ และ ‘การใช้อำนาจครอบงำ’ ของชาติตะวันตก โดยเรียกร้องให้นักการทูตและเจ้าหน้าที่ ‘สานต่อจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้’ ของจีน
ภาพ: Kent Nishimura / Getty Images
อ้างอิง: