×

World Cup Diary Day 19 it’s coming home อังกฤษเข้ารอบรองฯ ครั้งแรกในรอบ 28 ปี กับปาร์ตี้ที่จบลงของรัสเซีย

08.07.2018
  • LOADING...

“ผมมาจากแคนาดา แต่ฟุตบอลกำลังจะกลับบ้านแล้ว” (it’s comimg home) เป็นประโยคแรกท่ีเราได้ยินเมื่อแฟนบอลในเสื้อทีมชาติอังกฤษที่เดินทางมาร่วมเชียร์ทีมชาติอังกฤษในการลงสนามพบกับสวีเดนในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

 

 

ความมั่นใจกับการร้องเพลงเชียร์ it’s coming home ที่มีจุดเริ่มต้นจากการที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพฟุตบอลยูโรในปี 1996 มาในครั้งนี้ ความหมายของเพลงได้เปลี่ยนจากมหกรรมกีฬามาสู่การนำพาถ้วยแชมป์โลกกลับประเทศอีกครั้งหลังจากที่พวกเขาสามารถทำได้ในปี 1966 รวมถึงเป็นการนำกีฬาฟุตบอลที่ชาวอังกฤษเชื่อว่าเป็นผู้ริเริ่มกีฬาฟุตบอลด้วยการเป็นชาติที่ก่อตั้งสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งแรกของโลก กลับมาบ้านอีกครั้ง

 

 

ฟุตบอลจะกลับหรือไม่กลับบ้านนั้นคงเป็นเรื่องที่บอกได้ยากในเวลานี้ แต่จากความรู้สึกที่เราได้สัมผัสตลอดการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ประเทศรัสเซีย ต้องบอกเลยว่าหากฟุตบอลออกเดินทางมาจากประเทศอังกฤษนั้นพวกเขาได้เดินทางมาไกลมากแล้ว

 

 

วันนี้บรรยากาศที่ Fan Fest แม้ว่าจะมีแฟนบอลชาวอังกฤษจำนวนไม่มาก แต่เราได้เห็นแล้วว่ากีฬาฟุตบอลมีอิทธิพลต่อชีวิตของผู้คนทั่วโลกมากขนาดไหน

 

 

เราเห็นแฟนบอล โคลอมเบีย อาร์เจนตินา บราซิล เยอรมนี ที่แม้ว่าทีมชาติของพวกเขาต่างตกรอบไปหมดแล้ว แต่แฟนบอลเหล่านี้ยังคงร่วมสนุกกับมหกรรมกีฬาฟุตบอลภายใน Fan Fest แต่ชาติที่ดูจะสนุกกับมหกรรมกีฬาฟุตบอลครั้งนี้มากที่สุด ต้องยกให้กับแฟนบอลเจ้าภาพรัสเซีย

 

เรามีโอกาสได้พูดคุยกับแฟนบอลรัสเซียหลายครั้ง ซึ่งพวกเขามองว่าฟุตบอลโลก เหมือนกับมหกรรมที่เต็มไปด้วยความสนุก และสีสันที่ช่วยเข้ามาเติมเต็มความสุขในส่วนต่างๆ ของประเทศ โอกาสได้พบกับแฟนบอลจากทั่วโลก ไม่จำกัดแต่เฉพาะ 31 ชาติที่เข้าร่วมแข่งขัน

 

 

ขณะที่แหล่งข่าวชาวรัสเซียในพื้นที่ของ THE STANDARD ได้เผยกับเราว่า ปกติแล้วในช่วงเวลาฤดูร้อน มอสโกจะคึกคักมากกว่าปกติ แต่การที่มีฟุตบอลโลก ผู้คนมีความสนุกสนานมากขึ้นถึง 30% และนั่นมอบความทรงจำที่ดีไม่ใช่แค่เพียงแฟนบอลที่เดินทางมาสัมผัสบรรยากาศฟุตบอลโลกที่ประเทศรัสเซีย แต่ยังมอบความทรงจำที่ดีไว้ให้กับเจ้าภาพผู้จัดการแข่งขันอีกด้วย แม้ว่าสุดท้ายทีมชาติของพวกเขาจะจบการแข่งขันที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย

 

 

แน่นอนหลายคนคงทราบผลการแข่งขันแล้วว่าอังกฤษสามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี ด้วยการเอาชนะสวีเดนไป 2-0 ทำให้โอกาสการพาแชมป์กลับบ้านสูงขึ้นตามลำดับ

 

สุดท้ายแม้ว่าทีมใดจะเป็นผู้พาถ้วยรางวัลนี้กลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นนักเตะชุดที่เรียกว่า ‘Golden Generation’ ของเบลเยียม นักเตะดาวรุ่งของอังกฤษ ทัพตราไก่ฝรั่งเศสที่นำโดย คีเลียน เอ็มบัปเป้ แข้งทองวัย 19 ปีที่สร้างประวัติศาสตร์แทบจะทุกเกมที่เขาก้าวลงสนาม และโครเอเชียที่ผ่านสองรอบมาอย่างแสนสาหัส ด้วยการลงเล่นแบบต่อเวลาทั้งรอบ 16 ทีม และ 8 ทีมสุดท้าย

 

 

เราเชื่อว่าความทรงจำของผู้คนที่มีโอกาสได้เดินทางมาร่วมศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ จะไม่ใช่แค่เพียงความรู้สึกในสนามอย่างแน่นอน เพราะเสน่ห์ของการเดินทาง ไม่ใช่เป้าหมายที่ไปถึง แต่มันคือ ความเจ็บปวด ความเศร้า ความสุข และความประทับใจที่แฟนบอลทุกคนได้พบเจอระหว่างการเดินทาง ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดนี้ อาจจะไม่เกิดขึ้นหากฟุตบอลไม่เริ่มต้นออกเดินทางจากอังกฤษ

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising