- จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ มีกำหนดประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ประจำสัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 860,000 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 898,000 ราย เคลื่อนไหวอยู่ใกล้เคียงระดับ 900,000 รายอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นแล้วสหรัฐฯ ยังมีกำหนดประกาศยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนกันยายน โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 6.3 ล้านหลัง ขยายตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 6.0 ล้านหลัง และเป็นการขยายตัว 4 เดือนต่อเนื่อง จากระดับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นประวัติการณ์
- ลาร์รี คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์ว่า เขาเชื่อมั่นว่าการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้นั้นมีความคืบหน้าที่ดีและมีทิศทางที่ถูกต้อง สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของ มาร์ค มีโดว์ส หัวหน้าคณะทำงานของทำเนียบขาวที่ระบุว่า จะมีข้อตกลงภายในสุดสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์จาก Goldman Sachs วาณิชธนกิจรายใหญ่ คาดการณ์ว่าการเจรจาดังกล่าวจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ วันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ เนื่องจากยังมีหลายประเด็นสำคัญที่ยังไม่ได้แก้ไข
- เมื่อวานนี้ Tesla Inc. บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีชื่อดัง ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3/2020 มีกำไร 0.76 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากรายได้ 8,770 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ทั้งกำไรต่อหุ้นและรายได้ที่ 0.55 ดอลลาร์ต่อหุ้น และ 8,260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่อัตรากำไรของการขายรถยนต์เติบโตขึ้นแตะระดับ 27.7% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ 25.4% เหนือกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 24.1%
- จอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เผยว่า มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่าอิหร่านและรัสเซียนั้นมีความพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึง โดยเขาได้อ้างถึงอีเมลปลอมที่ทำขึ้น เพื่อให้มีหน้าตาคล้ายกับกลุ่มผู้สนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อทำลายภาพลักษณ์ของทรัมป์ เพื่อหวังผลทางการเมืองต่อไป
- สเตฟาน เด เคียร์สแมคเกอร์ โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) แถลงว่า ได้ลงนามสัญญาจัดซื้อวัคซีนกับ Johnson & Johnson (J&J) หนึ่งในผู้พัฒนาวัคซีนโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ก่อนหน้า EC ได้ลงนามกับ AstraZeneca และ Sanofi-GSK เพื่อการจัดจำหน่ายวัคซีนแก่ประชาชน
ภาวะตลาดวานนี้
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงแม้ผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่ในไตรมาส 3 จะออกมาแข็งแกร่งก็ตาม แต่ตลาดได้แรงกดดันจากมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจในสหรัฐฯ ฟื้นตัวได้ช้า สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงเช่นกันจากความกังวลที่เศรษฐกิจในยุโรปอาจฟื้นตัวได้ช้าจากมาตรการล็อกดาวน์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 3 ยังพอช่วยหนุนตลาดได้บ้าง
- สัญญาน้ำมันปรับตัวลงจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ รวมทั้งยังไม่มีความเคลื่อนไหวของกลุ่ม OPEC+ ที่จะลดกำลังการผลิตอีก ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดได้ ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งความไม่แน่นอนของมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อลงได้ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงดังกล่าว
สหรัฐฯ
- Dow Jones อยู่ที่ 28,210.82 ลดลง -97.97 (-0.35%)
- S&P 500 อยู่ที่ 3,435.56 ลดลง -7.56 (-0.22%)
- Nasdaq อยู่ที่ 11,484.69 ลดลง -31.8 (-0.28%)
ยุโรป
- DAX อยู่ที่ 12,557.64 ลดลง -179.31 (-1.41%)
- FTSE 100 อยู่ที่ 5,776.5 ลดลง -112.72 (-1.91%)
- Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3,180.7 ลดลง -47.17 (-1.46%)
- FTSE MIB อยู่ที่ 19,085.95 ลดลง -396.18 (-2.03%)
เอเชีย
- Nikkei 225 อยู่ที่ 23,639.46 เพิ่มขึ้น 72.42 (0.31%)
- S&P/ASX 200 อยู่ที่ 6,191.8 เพิ่มขึ้น 7.2 (0.12%)
- Shanghai อยู่ที่ 3,325.02 ลดลง -3.08 (-0.09%)
- SZSE Component อยู่ที่ 13,467.91 ลดลง -135.97 (-1%)
- China A50 อยู่ที่ 16,066.94 เพิ่มขึ้น 69.09 (0.43%)
- Hang Seng อยู่ที่ 24,754.42 เพิ่มขึ้น 184.88 (0.75%)
- Taiwan Weighted อยู่ที่ 12,877.25 เพิ่มขึ้น 14.88 (0.12%)
- SET อยู่ที่ 1,216.48 เพิ่มขึ้น 5.81 (0.48%)
- KOSPI อยู่ที่ 2,370.86 เพิ่มขึ้น 12.45 (0.53%)
- IDX Composite อยู่ที่ 5,096.45 ลดลง -3.39 (-0.07%)
- BSE Sensex อยู่ที่ 40,707.31 เพิ่มขึ้น 162.94 (0.4%)
- PSEi Composite อยู่ที่ 6,278.59 เพิ่มขึ้น 165.88 (2.71%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 39.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -1.53 (-3.69%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 41.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -1.205 (-246%)
- ราคาทองคำ อยู่ที่ 1921.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 10.68 (0.56%)
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters