×

เปิดเบื้องลึก ‘WHA Group’ หนึ่งในบริษัทไทยที่ได้เดินทางพบบริษัทระดับโลกร่วมกับนายกรัฐมนตรี ‘เศรษฐา’ งานนี้อาจมีลุ้นดีล Big Tech?

27.09.2023
  • LOADING...
WHA Group

HIGHLIGHTS

  • ซีอีโอ WHA Group มีโอกาสพบปะนักธุรกิจและบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกของสหรัฐฯ ระหว่างร่วมคณะนายกรัฐมนตรี แง้มดีล Big Tech รายใหญ่มาลงทุนไทยตั้งฮับภูมิภาค
  • อานิสงส์ภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลให้ต่างชาติแห่ย้ายฐานลงทุนมาเวียดนามและไทย ทุบยอดขายที่ดินดีเกินคาด จ่อ All Time High พร้อมปรับเป้ายอดขายที่ดินเพิ่มเป็น 2,750 ไร่
  • ปลายปีมีลุ้นดีลใหญ่ ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนพร้อมปักหมุดตั้งโรงงานผลิตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 600 ไร่ สรุปความชัดเจนปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า

การเดินทางของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 78 (UNGA78) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คาดว่ามูลค่าของตัวเลขที่ต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในไทยไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.7 แสนล้านบาท โดยยังไม่รวมบริษัทด้านการเงินนั้น

 

หากย้อนไปก่อนหน้านี้ เศรษฐาย้ำ 2 รายชื่อบริษัท Tech อย่าง Microsoft และ Google ซึ่งกำลังมองหาโอกาสในการจัดตั้ง Data Center ในไทย หรือการเดินทางครั้งนี้อาจมีลุ้นดีลใหญ่?

 

คงต้องถามซีอีโอ WHA Group หนึ่งในบริษัทของไทยที่ได้ร่วมเดินทางไปกับคณะของนายกรัฐมนตรี

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

 

จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group กล่าวว่า WHA ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยการลงทุนกับวงการธุรกิจสหรัฐฯ หลายราย และมีโอกาสได้เข้าพบนักธุรกิจด้านเทคโนโลยีระดับโลกเพื่อเชิญชวนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นตามที่ปรากฏบนหน้าสื่ออย่าง Tesla, Google, Microsoft, Citibank, JP Morgan, Estée Lauder และ BlackRock

 

“และต้องบอกข่าวดีว่าการพบบริษัทสหรัฐฯ จากงานนี้ มีบางบริษัท Tech ที่ WHA กำลังเจรจาอยู่ด้วย แต่เนื่องจากว่ามีการเซ็นสัญญาไว้แล้วว่าห้ามเอ่ยนาม จึงยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้” จรีพรเผยถึงบรรยากาศการเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ ในครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี

 

“ถือเป็นการส่งสัญญาณและเปิดประตูบานใหญ่แห่งการลงทุน ที่ไทยพร้อมส่งข้อความออกไปยังนักลงทุนอย่างชัดเจนว่าไทยพร้อมและยินดีต้อนรับนักลงทุนจากต่างชาติ”

 

โดยเฉพาะการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมใหม่ที่ไทยมีความพร้อมในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งบริษัทใหญ่ๆ ก็ให้การตอบรับและมีแนวโน้มขยายการลงทุนมาไทย เพื่อใช้เป็นฐานหลักของภูมิภาคเพื่อเสริมศักยภาพการส่งออกของสินค้า

 

เนื่องจากอย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าช่วงเวลานี้ปัญหา Geopolitics หรือภูมิรัฐศาสตร์ เริ่มส่งสัญญาณที่เด่นชัดต่อการเคลื่อนย้ายฐานการผลิตและการลงทุน ดังนั้น “อาจเป็นโอกาสที่รัฐบาลไทยจะต้องเร่งวางแนวทางการดึงดูดการลงทุนต่อจากนี้ในเชิงรุก คือการเดินเข้าไปถามความต้องการของนักลงทุน โดยก่อนอื่นต้องออกแบบกลยุทธ์และกำหนดคลัสเตอร์อุตสาหกรรมที่ต้องการ แล้วไปเจรจากับบริษัทที่เป็นแม็กเน็ต ซึ่งจะดึงให้กลุ่มซัพพลายเชนทยอยตามเข้ามาลงทุนด้วย”

 

ส่วนขั้นต่อไปมองว่ารัฐบาลต้องวางกลยุทธ์ว่าการลงทุนจากต่างชาตินั้นจะส่งเสริมและต่อยอด รวมทั้งสร้างโอกาสให้คนไทยและธุรกิจไทยอย่างไร เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืนให้มากขึ้น

 

WHA Group

 

 

ไทยคือ The World’s Best Investment Destination

แน่นอนว่า WHA พร้อมที่จะช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันและผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็น The World’s Best Investment Destination สำหรับนักลงทุนจากต่างประเทศทั่วโลก เพราะด้วยศักยภาพของระบบอีโคซิสเต็มที่ครบวงจรและแข็งแกร่งของทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ ที่จะสนับสนุนให้เกิดการต่อยอดพัฒนาโซลูชันทางธุรกิจและอุตสาหกรรมตามพันธกิจ WE SHAPE THE FUTURE ที่เป็นผู้สร้าง สร้างทั้งความเจริญ สร้างอาชีพ และรายได้ให้กับผู้คนและสังคม เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สู่เป้าหมายสูงสุด คือสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทย

 

“เพราะการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จะเป็นส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน” จรีพรกล่าว

 

มองเศรษฐายกเวียดนามมีแต้มต่อ FTA

เมื่อ THE STANDARD WEALTH ถามว่าคิดเห็นอย่างไรกับบทสัมภาษณ์จาก Bloomberg ของนายกรัฐมนตรีต่อศักยภาพการลงทุนระหว่างไทยและเวียดนาม จรีพรย้ำว่า 

 

“ต้องยอมรับว่าขณะนี้หากดูสัญญาณการลงทุน ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในเวียดนามมีการเติบโตดี เพราะได้รับอานิสงส์จากภูมิรัฐศาสตร์ ผู้ประกอบการจีนย้ายฐานการผลิตมาลงทุนในเวียดนามต่อเนื่อง

 

“แต่สิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดถึงเวียดนามนั้นเข้าใจว่าท่านให้น้ำหนักไปที่เรื่องแต้มต่อเกี่ยวกับกฎระเบียบด้านการค้าเสรี หรือ FTA ที่เวียดนามหยิบมาใช้ประโยชน์ได้ดีมากกว่า ขณะที่ไทยเองก็มีระบบและโครงสร้างพื้นฐานครบ ทั้งพลังงานและสาธารณูปโภค ซึ่งตรงนี้ก็เป็นจุดแข็งของไทยเช่นกัน”

 

ทุบกำไร All Time High

สะท้อนชัดเจนจากผลการดำเนินงานของ WHA Group ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 เติบโตต่อเนื่องและโดดเด่น โดยมีรายได้รวมและมีส่วนแบ่งกำไรกว่า 5,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% และมีกำไรสุทธิ 1,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

 

บริษัทจึงมั่นใจว่ารายได้และกำไรตลอดทั้งปีนี้จะเติบโต 10% จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 15,800 ล้านบาท ทำ All Time High อีกครั้งเป็นสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง สะท้อนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจทั้ง 4 กลุ่ม

 

นอกจากนี้จรีพรยังบอกอีกว่า “กลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมมีผลประกอบการดีเหนือความคาดหมาย ส่งผลให้บริษัทต้องปรับเพิ่มเป้าหมายการดำเนินงานของสิ้นปี 2566 ให้สูงขึ้นจากที่กำหนดไว้ก่อนหน้าในช่วงต้นปี”

 

ไทยและเวียดนามรับอานิสงส์ทุนนอกย้ายฐานการผลิต

ปัจจัยรายได้ที่เพิ่มขึ้นหลักๆ ของปีนี้คือการย้ายฐานการผลิตของบริษัทต่างชาติ ทำให้บริษัทได้ปรับเป้ายอดขายที่ดินรวมทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม สำหรับปี 2566 จาก 1,750 ไร่ ที่เคยประกาศไว้เมื่อต้นปี เป็น 2,750 ไร่

 

โดยในช่วงครึ่งปีหลังมีการเจรจากับบริษัทลูก Foxconn ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่จากไต้หวัน ซึ่งได้ลงนามซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมที่เวียดนามไปแล้ว 300 ไร่ รวมทั้งมีลูกค้าจีนรายใหญ่สนใจจะซื้ออีก 200-300 ไร่

 

“ส่วนในไทยก็ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับค่ายรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่จากจีนอีกหนึ่งราย ซึ่งน่าจะเป็นดีลใหญ่สุดในปีนี้ที่สนใจซื้อที่ดินแปลงใหญ่ 200 กว่าไร่ และยังมีดีลใหญ่อีก 600 ไร่ ที่จะคาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า” จรีพรกล่าว

 

มองทิศทางลงทุนโค้งท้ายปี

อย่างไรก็ตาม กลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังคงขยายตัวโดดเด่นยังคงเป็นกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า คอนซูมเมอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากจีน ไต้หวัน และญี่ปุ่น ที่เริ่มกลับมาขยายการลงทุนอีกครั้ง

 

ปัจจุบันมีนิคมอุตสาหกรรม 13 แห่งในประเทศไทยและเวียดนาม คิดเป็นพื้นที่รวม 71,300 ไร่ โดยยังอยู่ระหว่างการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่อีก 1 แห่ง และส่วนขยายโครงการนิคมอุตสาหกรรมอีก 3 แห่งในประเทศไทย รวมพื้นที่ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา 5,700 ไร่

 

สำหรับในประเทศเวียดนาม เร่งการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเหงะอานเฟส 2 ที่มีพื้นที่รวมกว่า 2,215 ไร่ ให้ทันกับความต้องการของลูกค้า ส่วนนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่อีก 2 แห่ง ที่เมืองถั่นหัวและดานัง อยู่ในกระบวนการขอใบอนุญาตลงทุน

 

มุ่งสู่ Technology Company ในปี 2567

จรีพรกล่าวทิ้งท้ายว่า WHA Group ยังคงเดินหน้าภารกิจ ‘Mission to the Sun’ ซึ่งมี 9 โครงการ สู่การยกระดับการพัฒนาองค์กรและบุคลากรของบริษัท มุ่งสู่ Technology Company ในปี 2567 โดยขณะนี้มี 3 โครงการที่คืบหน้าอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม นั่นคือ Green Logistics, Digital Health Tech และ Circular รวมทั้งวางแผนรุกพลังงานไฮโดรเจนภายใน 5 ปี

 

อย่างไรก็ตาม การลงทุนทั้งหมดในไทยยังคงมุ่งรองรับความต้องการของลูกค้าที่อยู่ในระดับสูง เน้นการบริหารพื้นที่ในเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) หลังปีนี้ตั้งงบลงทุนรวมไว้ 1.33 หมื่นล้านบาท

 

“สำหรับมุมมองต่อนโยบายของรัฐบาลใหม่ถือว่าวางปัญหาเพื่อแก้ไขระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวได้ดี เห็นถึงความตั้งใจที่รัฐบาลต่างก็ทำงานอย่างมุ่งมั่น และการเปิดประตูการลงทุนเองก็เดินหน้าอย่างรวดเร็ว ถือว่ามาถูกทาง” จรีพรกล่าวย้ำ

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising