Walmart ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมค้าปลีกจากสหรัฐอเมริกา ได้สร้างความฮือฮาครั้งใหม่ด้วยการประกาศเข้าร่วมกับ Microsoft ในการสนับสนุนบริษัทเทคโนโลยีรายนี้ให้เข้าประมูลซื้อกิจการของแพลตฟอร์มวิดีโอตอนสั้นจากจีนอย่าง TikTok ให้สำเร็จ (ความร่วมมือในรูปแบบการประมูลซื้อกิจการ TikTok ร่วมกัน)
โดยทันทีที่ข่าวได้แพร่สะพัดออกไปในวงกว้างอย่างรวดเร็ว Walmart ก็ได้ปล่อยแถลงการณ์ของบริษัทออกมาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคมตามเวลาท้องถิ่น เพื่อชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมของการเข้ามามีบทบาทในดีลดังกล่าวร่วมกับ Microsoft เพื่อซื้อกิจการของ TikTok ในสหรัฐฯ โดยบอกว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ผู้ใช้งาน TikTok ในสหรัฐฯ สามารถใช้งานแอปฯ ดังกล่าวต่อไปได้โดยไร้ซึ่งอุปสรรค ขณะที่ฝั่งรัฐบาลสหรัฐฯ ก็จะหมดปัญหาข้อกังวลภัยคุกคามความมั่นคงประเทศในที่สุด
“ด้วยวิธีการที่ TikTok ได้ผนวกรวมเอาศักยภาพในด้านการโฆษณา และอีคอมเมิร์ซเข้าไว้ด้วยกันนั้น ถือเป็นประโยชน์ชัดเจนสำหรับผู้ใช้งานและกลุ่มครีเอเตอร์ในตลาดต่างๆ เราเชื่อว่าความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นระหว่าง TikTok สหรัฐฯ และ Microsoft สามารถเพิ่มจุดต่างที่สำคัญให้กับ Walmart ในการเข้าถึงลูกค้าด้วยช่องทางที่หลากหลาย
“เช่นเดียวกับการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าพาร์ตเนอร์ของเรา และการทำธุรกิจโฆษณา เรามั่นใจว่าความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่าง Walmart และ Microsoft จะตอบสนองความคาดหวังของผู้ใช้งาน TikTok และคลายความกังวลให้กับรัฐบาล ตลอดจน Regulator ในสหรัฐฯ ได้เป็นอย่างดี”
ปัจจุบัน TikTok มีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ รวมทั้งสิ้นกว่า 100 ล้านราย ซึ่งการที่ Walmart เข้ามาผนึกกำลังกับ Microsoft และหากสามารถปิดดีลการเข้าซื้อ TikTok ได้จริงก็จะทำให้พวกเขามีฐานข้อมูลผู้บริโภคขนาดใหญ่อยู่ในมือ ที่สำคัญ Walmart ยังสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุน้อย เพื่อจำหน่ายสินค้ากับคนในช่วงวัยนี้ได้อีกต่างหาก
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เควิน เมเยอร์ อดีตซีอีโอของ TikTok เพิ่งประกาศลาออกจากตำแหน่งไปหมาดๆ หลังก้าวเข้ามากุมบังเหียน TikTok สหรัฐฯ ได้ไม่ถึง 3 เดือนด้วยซ้ำ สืบเนื่องจากอุปสรรคปัญหาเกมการเมืองที่เกิดขึ้นระหว่างบริษัท ByteDance (TikTok) และรัฐบาลสหรัฐฯ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: